พบผลลัพธ์ทั้งหมด 667 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4511/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าไม่จดทะเบียนเกิน 3 ปี สิทธิเช่าสิ้นสุด แม้ผู้ซื้อทรัพย์ต้องรับสิทธิหน้าที่เดิม
การที่ผู้ร้องยื่นคำร้องเข้ามาในชั้นบังคับคดีอ้างว่าผู้ร้องเป็น ผู้เช่าห้องพิพาทซึ่งเป็นสัญญาต่างตอบแทนจากเจ้าของเดิม สัญญาเช่ามีกำหนดเวลา 50 ปี โจทก์ซื้อทรัพย์พิพาทมาจาก การขายทอดตลาดย่อมต้องรับไปทั้งสิทธิและหน้าที่นั้นแม้จะฟังได้ตามคำร้อง สัญญาเช่าห้องพิพาทซึ่งเป็นสัญญาต่างตอบแทน ก็ก่อให้เกิดเพียงบุคคลสิทธิผูกพันเฉพาะคู่กรณีเท่านั้น และนับแต่ วันทำสัญญาจนถึงวันยื่นคำร้องเกินกำหนด3 ปีแล้ว ผู้ร้อง จึงไม่อาจอาศัยสิทธิตามสัญญาเช่าซึ่งมิได้จดทะเบียนการเช่า ขึ้น ตั้งข้อพิพาทกับโจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1968-1969/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์ สิทธิในที่ดินมรดก การฟ้องซ้อน และอายุความคดี
จำเลยอาศัยปลูกบ้านอยู่ในที่ดินของท. มารดาโจทก์โดยทำสัญญาเช่าไว้ป้องกันการบิดพลิ้วแต่ไม่ต้องเสียค่าเช่าโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยเพราะไม่ต้องการให้อาศัยอยู่ต่อไปไม่ได้ฟ้องโดยอาศัยสิทธิตามสัญญาเช่าดังนี้แม้สัญญาเช่าจะไม่สมบูรณ์เพราะไม่มีพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือจำเลยก็ยังรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้ว่าที่ที่จำเลยปลูกบ้านอยู่นั้นเป็นของท. จำเลยอาศัยสิทธิของท. เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยได้แสดงเจตนาครอบครองที่พิพาทเป็นปรปักษ์ต่อเจ้าของแม้จำเลยจะครอบครองมานาน25ปีแล้วก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์ โจทก์ที่1ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาทส่วนที่เป็นของโจทก์ที่1ในโฉนดที่ดินที่ยังมิได้แบ่งแยกเป็นหลายโฉนด ต่อมาเจ้าพนักงานที่ดินได้แบ่งแยกโฉนดที่ดินดังกล่าวเป็นผลทำให้ที่พิพาทและบ้านของจำเลยส่วนใหญ่อยู่ในที่ดินโฉนดของโจทก์ที่2และบางส่วนยังคงอยู่ในที่ดินของโจทก์ที่1ด้วยเช่นนี้โจทก์ทั้งสองต่างมีสิทธิฟ้องจำเลยได้ฟ้องของโจทก์ที่2ไม่เป็นฟ้องซ้อนตามป.วิ.พ.มาตรา173 การที่โจทก์ที่2ฟ้องขับไล่จำเลยซึ่งมิได้เป็นทายาทหรือผู้รับพินัยกรรมเป็นฟ้องในมูลละเมิดหาใช่ฟ้องตามข้อกำหนดในพินัยกรรมไม่จำเลยมิใช่บุคคลที่จะยกอายุความ1ปีตามป.พ.พ.มาตรา1755ขึ้นต่อสู้ได้แม้โจทก์ที่2ฟ้องคดีเกิน1ปีหลังจากเจ้ามรดกถึงแก่ความตายแล้วคดีของโจทก์ที่2ก็ไม่ขาดอายุความ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 247/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมที่ไม่ใช่การทำนา และผลของการไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ
จำเลยให้การว่าเช่าที่ดินพิพาทจากโจทก์โดยปลูกพืชเกษตรกรรมซึ่งส่วนใหญ่เป็นต้นมะพร้าวต้นจากและต้นพุทราซึ่งพืชเหล่านี้ไม่ใช่พืชไร่ดังนั้นจากคำให้การดังกล่าวการทำเกษตรกรรมของจำเลยจึงไม่มีลักษณะเป็นการทำนาตามความหมายของมาตรา21แห่งพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมพ.ศ.2524กรณีจึงเป็นเรื่องการเช่าที่ดินเพื่อประกอบเกษตรกรรมประเภทอื่นนอกจากการเช่านาต้องนำมาตรา63มาใช้บังคับเมื่อปรากฏว่าขณะพิพาทยังไม่มีพระราชกฤษฎีกาควบคุมการเช่าที่ดินเพื่อประกอบเกษตรกรรมประเภทอื่นจำเลยจึงไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติดังกล่าวและเมื่อเป็นการเช่าที่ดินโดยไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือจำเลยก็ไม่อาจยกเอาการเช่านี้ขึ้นต่อสู้โจทก์ได้ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา538
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 247/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าที่ดินเพื่อปลูกพืชเกษตรที่ไม่ใช่พืชไร่ ไม่อยู่ภายใต้การคุ้มครอง พ.ร.บ.เช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม และต้องใช้หลักฐานเป็นหนังสือ
จำเลยให้การว่า เช่าที่ดินพิพาทจากโจทก์ โดยปลูกพืชเกษตรกรรมซึ่งส่วนใหญ่เป็นต้นมะพร้าว ต้นจาก และต้นพุทรา ซึ่งพืชเหล่านี้ไม่ใช่พืชไร่ ดังนั้น จากคำให้การดังกล่าวการทำเกษตรกรรมของจำเลยจึงไม่มีลักษณะเป็นการทำนาตามความหมายของ มาตรา 21 แห่งพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2524 กรณีจึงเป็นเรื่องการเช่าที่ดินเพื่อประกอบเกษตรกรรมประเภทอื่นนอกจากการเช่านา ต้องนำมาตรา 63 มาใช้บังคับ เมื่อปรากฏว่าขณะพิพาทยังไม่มีพระราชกฤษฎีกาควบคุมการเช่าที่ดินเพื่อประกอบเกษตรกรรมประเภทอื่น จำเลยจึงไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติดังกล่าวและเมื่อเป็นการเช่าที่ดินโดยไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ จำเลยก็ไม่อาจยกเอาการเช่านี้ขึ้นต่อสู้โจทก์ได้ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 538
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 229/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินหลังเช่าไม่ทำให้ได้กรรมสิทธิ์ และการฟ้องขับไล่เป็นสิทธิของเจ้าของทรัพย์
การครอบครองที่ดินในฐานะผู้เช่าเป็นการครอบครองที่ดินแทนผู้ให้เช่าย่อมไม่ได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครอง การฟ้องขับไล่และเรียกค่าเสียหายในกรณีที่การเช่ามิได้มีหลักฐานเป็นหนังสือนั้นมิใช่เป็นการฟ้องบังคับตามสัญญาเช่าแต่เป็นการฟ้องโดยอาศัยอำนาจกรรมสิทธิ์ของเจ้าของทรัพย์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 229/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าที่ดินและสิทธิของเจ้าของทรัพย์: การครอบครองแทนมิได้กรรมสิทธิ์ และสิทธิในการฟ้องขับไล่
การครอบครองที่ดินในฐานะผู้เช่าเป็นการครอบครองแทนผู้ให้เช่าย่อมไม่ได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครอง การฟ้องขับไล่และเรียกค่าเสียหายในกรณีที่การเช่ามิได้มีหลักฐานเป็นหนังสือนั้นมิใช่เป็นการฟ้องบังคับตามสัญญาเช่าแต่เป็นการฟ้องโดยอาศัยอำนาจกรรมสิทธิ์ของเจ้าของทรัพย์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 229/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินหลังเช่า ไม่ทำให้ได้กรรมสิทธิ์ และเจ้าของทรัพย์มีสิทธิขับไล่
การครอบครองที่ดินในฐานะผู้เช่า เป็นการครอบครองที่ดินแทนผู้ให้เช่า ย่อมไม่ได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครอง
การฟ้องขับไล่และเรียกค่าเสียหายในกรณีที่การเช่ามิได้มีหลักฐานเป็นหนังสือนั้น มิใช่เป็นการฟ้องบังคับตามสัญญาเช่า แต่เป็นการฟ้องโดยอาศัยอำนาจกรรมสิทธิ์ของเจ้าของทรัพย์
การฟ้องขับไล่และเรียกค่าเสียหายในกรณีที่การเช่ามิได้มีหลักฐานเป็นหนังสือนั้น มิใช่เป็นการฟ้องบังคับตามสัญญาเช่า แต่เป็นการฟ้องโดยอาศัยอำนาจกรรมสิทธิ์ของเจ้าของทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4106/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่ามีกำหนดระยะเวลา เมื่อครบกำหนดไม่ต้องบอกกล่าวเลิกสัญญา ศาลมีอำนาจบังคับคดีได้
สัญญาเช่าซึ่งมิได้จดทะเบียนต่อเจ้าพนักงานแต่มีกำหนดเวลาที่ได้ตกลงกันไว้แน่นอนว่าเช่ากัน 5 ปี หาใช่เวลาเช่าไม่ปรากฏ ในความที่ตกลงกันหรือไม่พึงสันนิษฐานได้จึงต้องบังคับตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 564 ซึ่งสัญญาเช่า ย่อมระงับสิ้นไปเมื่อสิ้นกำหนดเวลาที่ตกลงกันไว้มิพักต้องบอกกล่าวก่อน จะนำมาตรา 566 มาปรับแก่คดีไม่ได้และการเช่ามีกำหนดกว่า 3 ปีขึ้นไป หากมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จะฟ้องร้อง ให้บังคับคดีได้แต่เพียง 3 ปี ตามมาตรา 538ก็มิได้หมายความให้ เวลาส่วนที่เกินกว่า 3 ปีกลับเป็นการเช่าชนิดไม่มีกำหนดเวลาไปแต่อย่างใดไม่ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 937/2501)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4106/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่ามีกำหนดระยะเวลา สิ้นสุดเมื่อครบกำหนด ไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า แม้ไม่ได้จดทะเบียน
สัญญาเช่าซึ่งมิได้จดทะเบียนต่อเจ้าพนักงานแต่มีกำหนดเวลาที่ได้ตกลงกันไว้แน่นอนว่าเช่ากัน 5 ปี หาใช่เวลาเช่าไม่ปรากฏ ในความที่ตกลงกันหรือไม่พึงสันนิษฐานได้จึงต้องบังคับตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 564 ซึ่งสัญญาเช่า ย่อมระงับสิ้นไปเมื่อสิ้นกำหนดเวลาที่ตกลงกันไว้ มิพักต้องบอกกล่าวก่อน จะนำมาตรา 566 มาปรับแก่คดีไม่ได้และการเช่ามีกำหนดกว่า 3 ปีขึ้นไป หากมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จะฟ้องร้อง ให้บังคับคดีได้แต่เพียง 3 ปี ตามมาตรา 538 ก็มิได้หมายความให้ เวลาส่วนที่เกินกว่า 3 ปี กลับเป็นการเช่าชนิดไม่มีกำหนดเวลาไป แต่อย่างใดไม่
(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 937/2501)
(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 937/2501)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3747/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาต่างตอบแทนโอนสิทธิการขายแผงลอย: แม้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ โจทก์มีอำนาจฟ้อง
จำเลยตกลงโอนสิทธิการขายสินค้าบนแผงลอยในตลาดนัดเทศบาลเมืองพระประแดงแก่โจทก์ โดยโจทก์เสียค่าตอบแทนให้จำเลยเป็นเงิน ข้อตกลงระหว่างโจทก์จำเลยเป็นสัญญาต่างตอบแทนไม่ใช่การเช่าช่วง สัญญาดังกล่าวไม่มีกฎหมายบังคับให้ทำเป็นหนังสือ ดังนั้นแม้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ โจทก์ก็มีอำนาจฟ้องจำเลยได้