พบผลลัพธ์ทั้งหมด 667 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1058/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าที่ดินเพื่อปลูกสร้างอาคาร: สิทธิในการจดทะเบียนสัญญาเช่าเมื่อผู้เช่าปฏิบัติตามสัญญา
การที่โจทก์ทำสัญญาเช่าที่วัดซึ่งเป็นจำเลยมีกำหนด10 ปีโดยมีข้อตกลงว่าโจทก์จะทำการก่อสร้างห้องแถวลงในที่เช่า มีจำนวนห้องที่จะต้องสร้างระบุไว้จำเลยได้ส่งมอบที่ให้โจทก์บางส่วน ยังไม่ครบตามสัญญาและโจทก์ได้ก่อสร้างห้องแถวลงบ้างแล้วต่อมาจำเลยไม่ส่งมอบที่ให้โจทก์เพื่อก่อสร้างห้องต่อไปตามสัญญาเมื่อศาลวินิจฉัยว่าจำเลยผิดสัญญา บังคับให้จำเลยส่งมอบที่ตามสัญญาให้แก่โจทก์ศาลบังคับให้จำเลยไปทำการจดทะเบียนสัญญาเช่ามีระยะเวลา 10 ปีตามที่ตกลงกันไว้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1004/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิและหน้าที่ของผู้รับโอนกรรมสิทธิ์ต่อสัญญาเช่าเดิม รวมถึงการเช่าช่วงที่ชอบด้วยกฎหมาย
การที่โจทก์ซื้อห้องแถวจากเจ้าของซึ่งยินยอมให้นายยกเช่าห้องนั้น 10 ปี โดยทำสัญญากันต่อกรมการอำเภอและมีข้อความให้เช่าช่วงได้ ต่อมานายยกให้จำเลยเช่าช่วงด้วยวาจาตกลงกัน 8 ปี ก่อนโจทก์ซื้อและเจ้าของเดิมทราบการเช่าช่วงเช่นนี้โจทก์จะขับไล่จำเลยให้ออกไปก่อน 8 ปีไม่ได้
บทบัญญัติตาม ม.538 ที่ว่าสัญญาเช่าที่มิได้มีหลักฐานเป็นหนังสือจะฟ้องร้องกันมิได้ ฯลฯ เป็นเรื่องระหว่างผู้เช่าเดิมกับผู้ให้เช่าช่วง โจทก์จะยกมาตรานี้ใช้ไม่ได้
บทบัญญัติตาม ม.538 ที่ว่าสัญญาเช่าที่มิได้มีหลักฐานเป็นหนังสือจะฟ้องร้องกันมิได้ ฯลฯ เป็นเรื่องระหว่างผู้เช่าเดิมกับผู้ให้เช่าช่วง โจทก์จะยกมาตรานี้ใช้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 514/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการเข้าอยู่อาศัยหลังมติคณะกรรมการควบคุมค่าเช่า และการมีหลักฐานการเช่าเป็นหนังสือ
การที่โจทก์ทราบมติของคณะกรรมการควบคุมค่าเช่า ฯ ให้จำเลยเข้าอยู่ได้แล้วกลับขัดขวางไม่ยอมออกไปดังนี้ย่อมเป็นการละเมิดสิทธิของจำเลยในอันที่จะเข้าอยู่ในห้องพิพาท
เมื่อในคำฟ้องซึ่งโจทก์ลงซึ่งมีข้อความปรากฏชัดว่าได้มีการเช่าห้องรายนี้ทั้งระบุจำนวนเงินค่าเช่าระหว่างโจทก์ ผู้เช่า กับจำเลยจริงดังนี้ย่อมถือได้ว่าการเช่ารายนี้มีหลักฐานเป็นหนังสือ ตาม ป.พ.พ. ม.538 แล้ว
บรรยายฟ้องในเรื่องเรียกค่าเสียหายเป็นใจความว่าโจทก์ไม่ยอมออกจากบ้านเช่าของจำเลย จำเลยเข้าไปอยู่ไม่ได้ย่อมเสียหายเช่นนี้ถือได้ว่าฟ้องนั้นแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาแล้ว หาเคลือบคลุมไม่.
เมื่อในคำฟ้องซึ่งโจทก์ลงซึ่งมีข้อความปรากฏชัดว่าได้มีการเช่าห้องรายนี้ทั้งระบุจำนวนเงินค่าเช่าระหว่างโจทก์ ผู้เช่า กับจำเลยจริงดังนี้ย่อมถือได้ว่าการเช่ารายนี้มีหลักฐานเป็นหนังสือ ตาม ป.พ.พ. ม.538 แล้ว
บรรยายฟ้องในเรื่องเรียกค่าเสียหายเป็นใจความว่าโจทก์ไม่ยอมออกจากบ้านเช่าของจำเลย จำเลยเข้าไปอยู่ไม่ได้ย่อมเสียหายเช่นนี้ถือได้ว่าฟ้องนั้นแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาแล้ว หาเคลือบคลุมไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 514/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การละเมิดสิทธิเข้าครอบครอง และหลักฐานการเช่าที่มีผลผูกพันตามกฎหมาย
การที่โจทก์ทราบมติของคณะกรรมการควบคุมค่าเช่าฯ ให้จำเลยเข้าอยู่ได้แล้วกลับขัดขวางไม่ยอมออกไปดังนี้ย่อมเป็นการละเมิดสิทธิของจำเลยในอันที่จะเข้าอยู่ในห้องพิพาท
เมื่อในคำฟ้องซึ่งโจทก์ลงชื่อมีข้อความปรากฏชัดว่าได้มีการเช่าห้องรายนี้ทั้งระบุจำนวนเงินค่าเช่าระหว่างโจทก์ ผู้เช่า กับจำเลยจริงดังนี้ย่อมถือได้ว่าการเช่ารายนี้มีหลักฐานเป็นหนังสือตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 538 แล้ว
บรรยายฟ้องในเรื่องเรียกค่าเสียหายเป็นใจความว่าโจทก์ไม่ยอมออกจากบ้านเช่าของจำเลย จำเลยเข้าอยู่ไม่ได้ย่อมเสียหาย เช่นนี้ถือได้ว่าฟ้องนั้นแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาแล้ว หาเคลือบคลุมไม่
เมื่อในคำฟ้องซึ่งโจทก์ลงชื่อมีข้อความปรากฏชัดว่าได้มีการเช่าห้องรายนี้ทั้งระบุจำนวนเงินค่าเช่าระหว่างโจทก์ ผู้เช่า กับจำเลยจริงดังนี้ย่อมถือได้ว่าการเช่ารายนี้มีหลักฐานเป็นหนังสือตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 538 แล้ว
บรรยายฟ้องในเรื่องเรียกค่าเสียหายเป็นใจความว่าโจทก์ไม่ยอมออกจากบ้านเช่าของจำเลย จำเลยเข้าอยู่ไม่ได้ย่อมเสียหาย เช่นนี้ถือได้ว่าฟ้องนั้นแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาแล้ว หาเคลือบคลุมไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 50/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์: การเปลี่ยนแปลงข้อความในเอกสารสัญญาเช่าเป็นไปตามเงื่อนไขของ ป.วิ.แพ่ง ม.94
การเช่าโรงเก็บสินค้าและการเช่าที่ดิน ก.ม.บังคับว่าต้องทำเป็นหนังสือตาม ป.พ.พ. ม.538
ส่วนสัญญาเช่ามีข้อความชัดเจนว่าจำเลยตกลงรับเช่าโรงหลังคาสังกะสีซึ่งเป็นของโจทก์ ไม่ใช่แต่เพียงที่ดินเพื่อไปปลูกสร้างโรงขึ้นเอง สัญญาเช่านี้ฝ่ายจำเลยรับรองได้ว่าเซ็นชื่อเป็นผู้เช่าในสัญญาเช่านั้นจริง ดังนี้การที่จำเลยจะขอสืบว่าไม่ได้เช่าโรงเก็บสินค้าของโจทก์ เช่าแต่ที่ดินเท่านั้น ถือว่าเป็นการขอสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในเอกสารนั้น ซึ่งต้องห้ามตาม ป.วิ.แพ่ง ม.94
จำเลยให้การต่อสู้แต่เพียงว่าจำเลยเช่าที่ดินไม่ใช่เช่าโรงเรือน สัญญาไม่ถูกต้องเฉย ๆ เท่านี้มิได้แสดงโดยแจ้งชัดว่าไม่ถูกต้องอย่างไร เมื่อเอกสารสัญญาเช่ามีข้อความชัดแจ้งอยู่แล้วเช่นนี้จำเลยจะขอนำสืบให้เป็นอื่นได้ต่อเมื่อจำเลยได้กล่าวอ้างแสดงเหตุผลเป็นข้อต่อสู้โดยแน่ชัดว่ากรณีต้องด้วยข้อยกเว้นประการใดตาม ม.94 วรรคท้าย จำเลยจึงนำสืบไม่ได้ทั้ง ก.ม.มีให้ศาลรับฟังพยานบุคคลในพฤติการณ์ดังกล่าว แม้คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งจะได้ยินยอมให้นำสืบกันได้ก็ดี
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2499).
ส่วนสัญญาเช่ามีข้อความชัดเจนว่าจำเลยตกลงรับเช่าโรงหลังคาสังกะสีซึ่งเป็นของโจทก์ ไม่ใช่แต่เพียงที่ดินเพื่อไปปลูกสร้างโรงขึ้นเอง สัญญาเช่านี้ฝ่ายจำเลยรับรองได้ว่าเซ็นชื่อเป็นผู้เช่าในสัญญาเช่านั้นจริง ดังนี้การที่จำเลยจะขอสืบว่าไม่ได้เช่าโรงเก็บสินค้าของโจทก์ เช่าแต่ที่ดินเท่านั้น ถือว่าเป็นการขอสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในเอกสารนั้น ซึ่งต้องห้ามตาม ป.วิ.แพ่ง ม.94
จำเลยให้การต่อสู้แต่เพียงว่าจำเลยเช่าที่ดินไม่ใช่เช่าโรงเรือน สัญญาไม่ถูกต้องเฉย ๆ เท่านี้มิได้แสดงโดยแจ้งชัดว่าไม่ถูกต้องอย่างไร เมื่อเอกสารสัญญาเช่ามีข้อความชัดแจ้งอยู่แล้วเช่นนี้จำเลยจะขอนำสืบให้เป็นอื่นได้ต่อเมื่อจำเลยได้กล่าวอ้างแสดงเหตุผลเป็นข้อต่อสู้โดยแน่ชัดว่ากรณีต้องด้วยข้อยกเว้นประการใดตาม ม.94 วรรคท้าย จำเลยจึงนำสืบไม่ได้ทั้ง ก.ม.มีให้ศาลรับฟังพยานบุคคลในพฤติการณ์ดังกล่าว แม้คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งจะได้ยินยอมให้นำสืบกันได้ก็ดี
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2499).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 50/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงเช่าทรัพย์สิน: การเปลี่ยนแปลงข้อความในสัญญาเช่าที่ทำเป็นหนังสือ
การเช่าโรงเก็บสินค้าและการเช่าที่ดิน กฎหมายบังคับว่าต้องทำเป็นหนังสือตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 538
ส่วนสัญญาเช่ามีข้อความชัดเจนว่าจำเลยตกลงรับเช่าโรงหลังคาสังกะสีซึ่งเป็นของโจทก์ ไม่ใช่แต่เพียงที่ดินเพื่อไปปลูกสร้างโรงขึ้นเองสัญญาเช่านี้ฝ่ายจำเลยรับรองว่าได้เซ็นชื่อเป็นผู้เช่านั้นในสัญญาเช่านั้นจริงดังนี้การที่จำเลยจะขอสืบว่าไม่ได้เช่าโรงเก็บสินค้าของโจทก์เช่าแต่ที่ดินเท่านั้น ถือว่าเป็นการขอสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในเอกสารนั้น ซึ่งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา94
จำเลยให้การต่อสู้แต่เพียงว่าจำเลยเช่าที่ดินไม่ใช่เช่าโรงเรือน สัญญาไม่ถูกต้องเฉยๆ เท่านี้มิได้แสดงโดยแจ้งชัดว่าไม่ถูกต้องอย่างไรเมื่อเอกสารสัญญาเช่ามีข้อความแจ้งชัดอยู่แล้วเช่นนี้จำเลยจะขอนำสืบให้เป็นอื่นได้ต่อเมื่อจำเลยได้กล่าวอ้างแสดงเหตุผลเป็นข้อต่อสู้โดยแน่ชัดว่ากรณีต้องด้วยข้อยกเว้นประการใดตาม มาตรา 94วรรคท้ายแต่กรณีนี้ไม่ต้องด้วยข้อยกเว้นใน มาตรา94วรรคท้าย จำเลยจึงนำสืบไม่ได้ทั้ง กฎหมาย มิให้ศาลรับฟังเป็นพยานบุคคลในพฤติการณ์ดังกล่าว แม้คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งจะได้ยินยอมให้นำสืบกันได้ก็ดี (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2499)
ส่วนสัญญาเช่ามีข้อความชัดเจนว่าจำเลยตกลงรับเช่าโรงหลังคาสังกะสีซึ่งเป็นของโจทก์ ไม่ใช่แต่เพียงที่ดินเพื่อไปปลูกสร้างโรงขึ้นเองสัญญาเช่านี้ฝ่ายจำเลยรับรองว่าได้เซ็นชื่อเป็นผู้เช่านั้นในสัญญาเช่านั้นจริงดังนี้การที่จำเลยจะขอสืบว่าไม่ได้เช่าโรงเก็บสินค้าของโจทก์เช่าแต่ที่ดินเท่านั้น ถือว่าเป็นการขอสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในเอกสารนั้น ซึ่งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา94
จำเลยให้การต่อสู้แต่เพียงว่าจำเลยเช่าที่ดินไม่ใช่เช่าโรงเรือน สัญญาไม่ถูกต้องเฉยๆ เท่านี้มิได้แสดงโดยแจ้งชัดว่าไม่ถูกต้องอย่างไรเมื่อเอกสารสัญญาเช่ามีข้อความแจ้งชัดอยู่แล้วเช่นนี้จำเลยจะขอนำสืบให้เป็นอื่นได้ต่อเมื่อจำเลยได้กล่าวอ้างแสดงเหตุผลเป็นข้อต่อสู้โดยแน่ชัดว่ากรณีต้องด้วยข้อยกเว้นประการใดตาม มาตรา 94วรรคท้ายแต่กรณีนี้ไม่ต้องด้วยข้อยกเว้นใน มาตรา94วรรคท้าย จำเลยจึงนำสืบไม่ได้ทั้ง กฎหมาย มิให้ศาลรับฟังเป็นพยานบุคคลในพฤติการณ์ดังกล่าว แม้คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งจะได้ยินยอมให้นำสืบกันได้ก็ดี (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2499)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1408/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าที่มีข้อผูกพันตลอดไปและเกิน 3 ปี: ข้อตกลงขัดต่อ ป.พ.พ.ม. 538 ไม่มีผลบังคับ
สัญญาเช่าที่มีข้อสัญญาผูกพันคู่สัญญาทั้งสองฝ่าย ว่าการเช่าจะต้องมีอยู่ตลอดไป เว้นแต่จะมีเหตุการบางประการเกิดขึ้นนั้น เป็นสัญญาที่มุ่งหวังประโยชน์ในการเช่า กันเกิน 3 ปียัดต่อ ป.พ.พ.ม. 538 ไม่มีผลใช้บังคับได้เกิน 3 ปี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1408/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่ากำหนดตลอดไปขัดต่อกฎหมาย หากเกิน 3 ปี สัญญาข้อผูกพันทั้งสองฝ่ายไม่มีผลบังคับ
สัญญาเช่าที่มีข้อสัญญาผูกพันคู่สัญญาทั้งสองฝ่าย ว่าการเช่าจะต้องมีอยู่ตลอดไป เว้นแต่จะมีเหตุการบางประการเกิดขึ้นนั้น เป็นสัญญาที่มุ่งหวังประโยชน์ในการเช่ากันเกิน 3 ปีขัดต่อ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 538 ไม่มีผลใช้บังคับได้เกิน 3 ปี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 49/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้ให้เช่าต่อการรื้อถอนอาคาร แม้จะอ้างคำสั่งทางราชการ ก็ไม่สามารถยกเว้นความรับผิดได้
ผู้เช่าฟ้องจำเลยผู้ให้เช่าว่าจ้างวานให้บุคคลอื่นรื้อหลังคาเคหะที่ให้เช่าเป็นเหตุให้ผู้เช่าโจทก์เสียหาย จึงขอให้จำเลยจัดการซ่อมหลังคา หรือถ้าจำเลยไม่จัดการ ก็ขอให้โจทก์ซ่อมแซมโดยจำเลยเสียค่าซ่อม ดังนี้ แม้การเช่าจะไม่มีหนังสือ ก็ยังฟ้องคดีเช่นนี้ได้ และเมื่อจำเลยให้การว่า 'จำเลยมิได้บังอาจสมคบจ้างวานบุคคลอื่นทำการรื้อหลังคาห้องที่โจทก์เช่าแต่จำเลยให้คนรื้อห้องพิพาทอันเป็นห้องของจำเลยตามคำสั่งของนายกเทศมนตรีซึ่งจำเลยเชื่อว่า เป็นคำสั่งของเจ้าพนักงานโดยชอบด้วยกฎหมาย และเชื่อว่า ถ้าจำเลยไม่ปฏิบัติตาม.จำเลยอาจมีความผิดตามกฎหมาย ทั้งก่อนรื้อจำเลยก็ได้แจ้งให้โจทก์และเจ้าหน้าที่อำเภอทราบล่วงหน้าแล้ว' ดังนี้ แม้จะได้เป็นความจริง ข้ออ้างดังกล่าวก็ไม่ใช่ข้อต่อสู้ที่จะให้จำเลยพ้นความรับผิดได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 49/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้ให้เช่าต่อความเสียหายของที่เช่า แม้การรื้อถอนจะอ้างคำสั่งเจ้าพนักงาน
ผู้เช่าฟ้องจำเลยผู้ให้เช่าว่าจ้างวานให้บุคคลอื่นรื้อหลังคาเคหะที่ให้เช่าเป็นเหตุให้ผู้เช่าโจทก์เสียหาย จึงขอให้จำเลยจัดการซ่อมหลังคา หรือถ้าจำเลยไม่จัดการ ก็ขอให้โจทก์ซ่อมแซมโดยจำเลยเสียค่าซ่อม ดังนี้ แม้การเช่าจะไม่มีหนังสือ ก็ยังฟ้องคดีเช่นนี้ได้ และเมื่อจำเลยให้การว่า " จำเลยมิได้บังอาจสมคบจ้างวานบุคคลอื่นทำการรื้อหลังคาห้องที่โจทก์เช่า แต่จำเลยให้คนรื้อห้องพิพาทอันเป็นห้องของจำเลยตามคำสั่งของนายเทศมนตรีซึ่งจำเลยเชื่อว่า เป็นคำสั่งของเจ้าพนักงานโดยชอบด้วยกฎหมายและเชื่อว่า ถ้าจำเลยไม่ปฎิบัติตามจำเลยอาจมีความผิดตามกฎหมายทั้งก่อนรื้อจำเลยก็ได้แจ้งให้โจทก์และเจ้าหน้าที่อำเภอทราบล่วงหน้าแล้ว " ดังนี้ แม้จะได้เป็นความจริง ข้ออ้างดังกล่าวก็ไม่ใช่ข้อต่อสู้ที่จะให้จำเลยพ้นความรับผิดชอบได้