คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ม. 160 วรรคแรก

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 6 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1489/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประมาททางรถยนต์และการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ไม่ถือว่าหลบหนี
การที่จำเลยขับรถยนต์ โดยประมาทชนผู้ตายแล้วจำเลยนำผู้ตายไปส่งโรงพยาบาลในทันทีหลังจากเกิดเหตุโดย มิได้แจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จะถือว่าจำเลยหลบหนีไปจนเป็นเหตุให้ผู้ตายได้รับอันตรายถึงตาย ตาม พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522มาตรา 160 วรรคสองหาได้ไม่ จำเลยคงมีความผิดตาม มาตรา 160วรรคแรก เท่านั้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1489/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานขับรถประมาทและหน้าที่หลังเกิดเหตุ: การนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลมิใช่การหลบหนี
การที่จำเลยขับรถยนต์โดยประมาทชนผู้ตายแล้วจำเลยนำผู้ตายไปส่งโรงพยาบาลในทันทีหลังจากเกิดเหตุ โดยมิได้แจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จะถือว่าจำเลยหลบหนีไปจนเป็นเหตุให้ผู้ตายได้รับอันตรายถึงตายตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522มาตรา 160 วรรคสอง หาได้ไม่ จำเลยคงมีความผิดตามมาตรา 160 วรรคแรกเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1489/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางอาญาจากการขับรถประมาทชนแล้วไม่แจ้งเหตุ การหลบหนีและความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก
การที่จำเลยขับรถยนต์โดยประมาทชนผู้ตายแล้วจำเลยนำผู้ตายไปส่งโรงพยาบาลในทันทีหลังจากเกิดเหตุ โดยมิได้แจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จะถือว่าจำเลยหลบหนีไปจนเป็นเหตุให้ผู้ตายได้รับอันตรายถึงตายตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 160 วรรคสองหาได้ไม่ จำเลยคงมีความผิดตาม มาตรา 160 วรรคแรก เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 126/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่แสดงตัว-แจ้งเหตุหลังเกิดอุบัติเหตุ แม้ไม่ผิดก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายจราจร
กรณีรถสองคันแล่นสวนทางกันและเกิดชนกันได้รับความเสียหายแม้ว่าความเสียหายนั้นจะมิได้เกิดขึ้นเพราะความผิดของจำเลยก็ตาม ก็ถือได้ว่าจำเลยขับรถในทางซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของบุคคลอื่นแล้ว จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องแสดงตัวและแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ใกล้เคียงทันที เมื่อจำเลยมิได้แจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก็เป็นการไม่ปฏิบัติตามที่กฎหมายบังคับไว้ จำเลยจึงต้องมีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 78 วรรคแรก และมีโทษตามมาตรา 160 วรรคแรก. (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2531)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 126/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่แสดงตัว-แจ้งเหตุหลังเกิดอุบัติเหตุ แม้ไม่ได้เป็นฝ่ายผิด
กรณีรถสองคันแล่นสวนทางกันและเกิดชนกันได้รับความเสียหายแม้ว่าความเสียหายนั้นจะมิได้เกิดขึ้นเพราะความผิดของจำเลยก็ตาม ก็ถือได้ว่าจำเลยขับรถในทางซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของบุคคลอื่นแล้วจำเลยจึงมีหน้าที่ต้องแสดงตัวและแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ใกล้เคียงทันที เมื่อจำเลยมิได้แจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ก็เป็นการไม่ปฏิบัติตามที่กฎหมายบังคับไว้ จำเลยจึงต้องมีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบกพ.ศ. 2522 มาตรา 78 วรรคแรกและมีโทษตามมาตรา 160 วรรคแรก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 126/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่แสดงตัวและแจ้งเหตุหลังเกิดอุบัติเหตุ แม้ไม่ผิดเอง ก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย
กรณีรถสองคันแล่นสวนทางกันและเกิดชนกันได้รับความเสียหายแม้ว่าความเสียหายนั้นจะมิได้เกิดขึ้นเพราะความผิดของจำเลยก็ตาม ก็ถือได้ว่าจำเลยขับรถในทางซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของบุคคลอื่นแล้ว จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องแสดงตัวและแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ใกล้เคียงทันที เมื่อจำเลยมิได้แจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก็เป็นการไม่ปฏิบัติตามที่กฎหมายบังคับไว้ จำเลยจึงต้องมีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 78 วรรคแรก และมีโทษตามมาตรา 160 วรรคแรก
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2531)