พบผลลัพธ์ทั้งหมด 381 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 557/2547 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สับเปลี่ยนสินค้า - มูลเหตุละเมิด - อายุความ - การแบ่งแยกการชำระหนี้
โจทก์ฟ้องว่า ลูกจ้างหรือตัวแทนของจำเลยที่ 1 และที่ 2 ได้ขนถ่ายสินค้ากระดาษของโจทก์และของจำเลยที่ 3 จากเรือ อ. ลงเรือ ฉ. โดยประมาทเลินเล่อทำให้สินค้ากระดาษของโจทก์บางส่วนถูกสับเปลี่ยนและส่งมอบไปให้แก่จำเลยที่ 3 โดยโจทก์ได้รับสินค้าของจำเลยที่ 3 มาแทน เมื่อหักกลบแล้วจำเลยที่ 3 รับสินค้ากระดาษของโจทก์เกินไปจำนวนหนึ่ง ให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 ในฐานะเจ้าของเรือ ผู้รับจ้างขนส่ง และนายจ้างหรือตัวการ จำเลยที่ 4 ในฐานะผู้รับประกันภัยสินค้ากระดาษของโจทก์ และจำเลยที่ 3 ในฐานะผู้รับมอบสินค้ากระดาษของโจทก์ไว้โดยไม่มีสิทธิตามกฎหมาย ร่วมกันชำระราคาสินค้าที่จำเลยที่ 3 รับเกินไปแก่โจทก์ กรณีเป็นเรื่องที่โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 รับผิดโจทก์ฐานละเมิด ให้จำเลยที่ 4 รับผิดต่อโจทก์ฐานผิดสัญญาประกันภัย และให้จำเลยที่ 3 รับผิดต่อโจทก์ฐานรับมอบทรัพย์ของโจทก์ไว้โดยไม่มีสิทธิตามกฎหมาย อันเป็นการใช้สิทธิของเจ้าของทรัพย์ในการติดตามเอาคืนซึ่งทรัพย์สินของตนจากผู้ไม่มีสิทธิจะยึดถือไว้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1336 มูลค่าแห่งคดีจึงเป็นการชำระหนี้ที่แบ่งแยกออกจากกันได้
จำเลยที่ 3 ฎีกาว่า คดีโจทก์ขาดอายุความ 1 ปี ตาม ป.พ.พ. มาตรา 624 แต่ไม่ได้ให้การต่อสู้เรื่องดังกล่าวไว้ แม้จำเลยที่ 1 ที่ 2 จะให้การต่อสู้เรื่องอายุความไว้ ก็ถือไม่ได้ว่าเป็นการต่อสู้เรื่องอายุความโดยจำเลยที่ 3 ด้วยตาม ป.วิ.พ. มาตรา 59 (1) เมื่อคดีของจำเลยที่ 3 ไม่มีประเด็นเรื่องอายุความ แม้ศาลชั้นต้นจะหยิบยกประโยชน์แห่งอายุความให้มีผลถึงจำเลยที่ 3 ด้วยก็เป็นการไม่ชอบ แม้โจทก์จะอุทธรณ์ในปัญหาเรื่องอายุความและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยในปัญหาดังกล่าวสำหรับจำเลยที่ 3 แล้ว ถือไม่ได้ว่าเป็นข้อที่ได้ว่ากล่าวกันมาแล้วโดยชอบในศาลล่างทั้งสอง ฎีกาของจำเลยที่ 3 ข้อนี้ต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 249 วรรคหนึ่ง
จำเลยที่ 3 ฎีกาว่า คดีโจทก์ขาดอายุความ 1 ปี ตาม ป.พ.พ. มาตรา 624 แต่ไม่ได้ให้การต่อสู้เรื่องดังกล่าวไว้ แม้จำเลยที่ 1 ที่ 2 จะให้การต่อสู้เรื่องอายุความไว้ ก็ถือไม่ได้ว่าเป็นการต่อสู้เรื่องอายุความโดยจำเลยที่ 3 ด้วยตาม ป.วิ.พ. มาตรา 59 (1) เมื่อคดีของจำเลยที่ 3 ไม่มีประเด็นเรื่องอายุความ แม้ศาลชั้นต้นจะหยิบยกประโยชน์แห่งอายุความให้มีผลถึงจำเลยที่ 3 ด้วยก็เป็นการไม่ชอบ แม้โจทก์จะอุทธรณ์ในปัญหาเรื่องอายุความและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยในปัญหาดังกล่าวสำหรับจำเลยที่ 3 แล้ว ถือไม่ได้ว่าเป็นข้อที่ได้ว่ากล่าวกันมาแล้วโดยชอบในศาลล่างทั้งสอง ฎีกาของจำเลยที่ 3 ข้อนี้ต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 249 วรรคหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 557/2547
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องร้องคดีชำระหนี้แบ่งแยกได้ และข้อจำกัดการอุทธรณ์เรื่องอายุความ
โจทก์ฟ้องว่า ลูกจ้างหรือตัวแทนของจำเลยที่ 1 และที่ 2 ได้ขนถ่ายสินค้ากระดาษของโจทก์และจำเลยที่ 3 จากเรืออริสโตเติลลงเรือฉลอมโดยประมาทเลินเล่อทำให้สินค้ากระดาษของโจทก์บางส่วนถูกสับเปลี่ยนและส่งมอบไปให้แก่จำเลยที่ 3 โดยโจทก์ได้รับสินค้ากระดาษของจำเลยที่ 3 มาแทน เมื่อหักกลบกันแล้ว จำเลยที่ 3 รับสินค้าของโจทก์เกินไป คิดเป็นเงิน 1,724,364 บาท ให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 ในฐานะเจ้าของเรือ ผู้รับจ้างขนส่ง และนายจ้างหรือตัวการ จำเลยที่ 4 ในฐานะผู้รับประกันภัยสินค้ากระดาษของโจทก์ และจำเลยที่ 3 ในฐานะผู้รับมอบสินค้ากระดาษของโจทก์ไว้โดยไม่มีสิทธิตามกฎหมาย ร่วมกันชำระราคาสินค้าที่จำเลยที่ 3 รับเกินไปแก่โจทก์ กรณีเป็นเรื่องที่โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 รับผิดต่อโจทก์ฐานละเมิด ให้จำเลยที่ 4 รับผิดต่อโจทก์ฐานผิดสัญญาประกันภัย และให้จำเลยที่ 3 รับผิดต่อโจทก์ฐานรับมอบทรัพย์ของโจทก์ไว้โดยไม่มีสิทธิตามกฎหมาย อันเป็นการใช้สิทธิของเจ้าของทรัพย์ในการติดตามเอาคืนซึ่งทรัพย์สินของตนจากผู้ไม่มีสิทธิจะยึดถือไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1336 มูลความแห่งคดีจึงเป็นการชำระหนี้ซึ่งแบ่งแยกจากกันได้ หาใช่มูลความแห่งคดีเป็นการชำระหนี้ซึ่งแบ่งแยกจากกันมิได้ เมื่อจำเลยที่ 1 และที่ 4 ให้การต่อสู้เรื่องอายุความไว้ แต่จำเลยที่ 3 มิได้ให้การต่อสู้เรื่องอายุความไว้ จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการต่อสู้เรื่องอายุความโดยจำเลยที่ 3 ด้วย ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 59 (1) เมื่อคดีของจำเลยที่ 3 ไม่มีประเด็นเรื่องอายุความ แม้ศาลชั้นต้นจะได้หยิบยกประโยชน์แห่งอายุความให้มีผลถึงจำเลยที่ 3 ด้วย ก็เป็นการไม่ชอบ แม้โจทก์จะอุทธรณ์ในปัญหาเรื่องอายุความและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยในปัญหาดังกล่าว สำหรับจำเลยที่ 3 แล้ว ถือไม่ได้ว่าเป็นข้อที่ได้ว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลล่างทั้งสอง ฎีกาของจำเลยที่ 3 ข้อนี้ จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคหนึ่ง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 325/2547
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพากษาคดีปิดกั้นทางสาธารณะ ศาลอุทธรณ์ชอบที่ให้สืบพยานเพิ่มเติมเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง
คดีนี้โจทก์ทั้งสามฟ้องจำเลยทั้งสองว่าปิดกั้นทางสาธารณะซึ่งอยู่ระหว่างที่ดินโจทก์ทั้งสามและจำเลยทั้งสอง มีความกว้าง 3 เมตร เหลือเพียง 1.50 เมตร ทำให้โจทก์ทั้งสามและชาวบ้านใช้ทางสาธารณะไม่ได้หรือไม่สะดวก ขอให้เลิกปิดกั้น จำเลยทั้งสองให้การว่าที่ดินพิพาทไม่ใช่ทางสาธารณะแต่เป็นที่ดินของจำเลยทั้งสอง จำเลยทั้งสองอนุญาตให้โจทก์และชาวบ้านใช้เดินผ่านเป็นครั้งคราว เช่นนี้มีประเด็นพิพาทเป็นข้อสำคัญว่ามีทางสาธารณะตามฟ้องและจำเลยทั้งสองทำการปิดกั้นจริงหรือไม่ การที่ศาลชั้นต้นเพียงแต่สอบถามคู่ความและโจทก์ทั้งสองแถลงรับว่า ทางพิพาทในปัจจุบันเหลือเพียงกว้าง 1.50 เมตร โดยเดินเท้าหรือรถจักรยานยนต์ผ่านได้ ศาลชั้นต้นก็สั่งงดสืบพยานโจทก์ทั้งสามและพยานจำเลยทั้งสอง แล้วพิพากษายกฟ้องโดยไม่พิจารณาให้ได้ความตามประเด็นข้อพิพาทให้ถูกต้อง คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์จำเลยตามประเด็นข้อพิพาทแล้วพิพากษาใหม่จึงชอบแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 298/2547
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้เช็คผ่านนายวงแชร์: การระงับหนี้เมื่อชำระเงินให้นายวงแชร์ซึ่งเป็นตัวแทนของโจทก์
นายวงแชร์คือบุคคลที่จัดให้มีการเล่นแชร์ขึ้น โดยมีหน้าที่จัดให้มีการประมูลแชร์รวบรวมเงินจากผู้ร่วมเล่นแชร์เพื่อมอบให้แก่ผู้ประมูลแชร์ได้ ต้องรับผิดชอบถ้าผู้ประมูลแชร์ได้รับเงินไม่ครบ นายวงแชร์จะได้รับผลตอบแทนโดยได้รับเงินจากผู้ร่วมเล่นแชร์เป็นอันดับแรกโดยไม่ต้องประมูล ดังนั้น เมื่อโจทก์ประมูลแชร์ได้ บ. นายวงแชร์จึงมอบเช็คของผู้ร่วมเล่นแชร์รวมทั้งเช็คพิพาทให้แก่โจทก์ เมื่อเช็คที่โจทก์ได้รับถูกธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินทั้ง 10 ฉบับ โจทก์จึงทวงถามให้ บ. ในฐานะเป็นนายวงแชร์รับผิดชอบและได้มอบเช็คที่ถูกปฏิเสธการจ่ายเงินทั้ง 10 ฉบับให้แก่ บ. เพื่อนำไปเปลี่ยนเป็นเช็คฉบับใหม่หรือเปลี่ยนเป็นเงินสด หาใช่ บ. ไปรับเฉพาะเช็คพิพาทมาจากโจทก์เท่านั้น บ. จึงหาใช่ตัวแทนของจำเลยแต่เป็นตัวแทนของโจทก์ เมื่อ บ. นำเช็คพิพาทไปแลกเงินสดจากจำเลยได้แล้ว ย่อมถือได้ว่าจำเลยได้ชำระหนี้ตามเช็คให้แก่โจทก์แล้ว จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์อีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 255/2547
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภาระจำยอมโดยอายุความ: การใช้ทางเดินต้องต่อเนื่อง เปิดเผย และเพื่อประโยชน์ที่ดิน
การที่โจทก์จะได้ภาระจำยอมโดยอายุความหรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่าโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์อันเป็นสามยทรัพย์ได้เดินผ่านหรือใช้ที่ดินของจำเลยอันเป็นภารยทรัพย์มาครบถ้วนตามที่กฎหมายบัญญัติไว้เกี่ยวกับการได้ภาระจำยอมโดยอายุความหรือไม่ ในส่วนที่ผู้อื่นจะได้ใช้ทางเดินอันเป็นทางพิพาทหรือไม่นั้น ไม่มีผลเกี่ยวกับการได้ภาระจำยอมโดยอายุความของโจทก์แต่ประการใด โจทก์จึงมีหน้าที่นำพยานหลักฐานมาสืบให้ฟังได้ว่าโจทก์ใช้ทางพิพาทอย่างปรปักษ์คือโดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาให้ได้สิทธิในภาระจำยอมเพื่อประโยชน์แก่ที่ดินของโจทก์เป็นเวลาติดต่อกัน 10 ปี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 226/2547
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนการวางค่าฤชาธรรมเนียมและชำระหนี้ตามคำพิพากษา
เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 หากจำเลยที่ 1 ประสงค์จะอุทธรณ์คำสั่ง จำเลยที่ 1 ต้องยื่นคำขอเป็นคำร้องต่อศาลชั้นต้น และนำค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาลและนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลภายในกำหนดสิบห้าวันนับแต่วันที่ศาลมีคำสั่งตาม ป.วิ.พ. มาตรา 234 เมื่อจำเลยที่ 1 เพียงแต่นำค่าฤชาธรรมเนียมมาวางศาลโดยไม่นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาล จึงเป็นการไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าวโดยครบถ้วน คำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยที่ 1 จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 170/2547
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คจากการประมูลแชร์: อำนาจฟ้องและหน้าที่ชำระหนี้ แม้เงินค่าแชร์ยังไม่ครบ
จำเลยระบุอย่างชัดแจ้งในหนังสือขออายัดเช็คว่าได้สั่งจ่ายเช็คให้แก่หัวหน้าวงแชร์ชื่อ ส. เพื่อนำไปเก็บเงินจากลูกแชร์มาคืนให้แก่จำเลย จำเลยย่อมทราบดีว่าแชร์วงนี้ ส. เป็นนายวงแชร์ ส่วนสำเนารายชื่อผู้เล่นแชร์ที่ปรากฏชื่อ ห้างหุ้นส่วนจำกัด น. โดย ส. หัวหน้าแชร์ น่าจะเป็นเพียงชื่อหรือยี่ห้อเพื่อให้ทราบกันอย่างชัดเจนภายในกลุ่มของผู้เล่นแชร์ด้วยกันว่า ส. นายวงแชร์อยู่ที่ไหนและมีฐานะอย่างใดเท่านั้น ไม่ทำให้วงแชร์วงนี้มีห้างหุ้นส่วนจำกัด น. ซึ่งเป็นนิติบุคคลเป็นนายวงแชร์ จึงไม่เป็นการต้องห้ามตาม พ.ร.บ.การเล่นแชร์ฯ มาตรา 5
พ.ร.บ.การเล่นแชร์ฯ มาตรา 6 นั้นห้ามมิให้บุคคลธรรมดาเป็นนายวงแชร์หรือจัดให้มีการเล่นแชร์ที่มีลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่ระบุไว้ในมาตรา 6 (1) ถึง (4) เท่านั้น ส่วนสมาชิกผู้เข้าเล่นแชร์ด้วยกันหาได้มีบทบัญญัติห้ามเล่นแชร์แต่อย่างใดไม่ ทั้งมาตรา 7 ยังระบุว่า บทบัญญัติในมาตรา 6 ไม่กระทบกระเทือนถึงการที่สมาชิกวงแชร์จะฟ้องคดีหรือใช้สิทธิเรียกร้องเอากับนายวงแชร์หรือผู้จัดให้มีการเล่นแชร์อีกด้วย การเล่นแชร์เป็นสัญญาประเภทหนึ่ง อันเกิดจากการตกลงกันระหว่างสมาชิกผู้เล่น จึงมีผลผูกพันและบังคับกันได้ตามกฎหมาย มูลหนี้ของเช็คพิพาท 2 ฉบับ เกิดจากการเล่นแชร์ ซึ่งไม่มีวัตถุประสงค์ต้องห้ามตามกฎหมายจึงไม่ตกเป็นโมฆะ โจทก์เป็นผู้ทรงจึงมีอำนาจฟ้องจำเลยผู้สั่งจ่ายชำระเงินตามเช็คได้
การที่จำเลยประมูลแชร์ได้แล้วสั่งจ่ายเช็คพิพาท 2 ฉบับ ให้แก่โจทก์ซึ่งเป็นผู้ที่ประมูลแชร์ยังไม่ได้ เช็คนั้นจึงมีมูลหนี้ต่อกัน เมื่อโจทก์ประมูลแชร์ได้แล้วนำเช็คพิพาท 2 ฉบับ ไปลงวันที่และนำเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงินแต่เช็คพิพาทเรียกเก็บเงินไม่ได้ จำเลยจึงต้องรับผิดชอบชำระเงินตามเช็คนั้นให้แก่โจทก์ การที่นายวงแชร์ยังไม่ได้นำเงินค่าแชร์ที่จำเลยประมูลได้มาชำระให้แก่จำเลยจนครบถ้วนนั้น ไม่เป็นเหตุที่จำเลยจะปฏิเสธไม่ชำระเงินตามเช็คพิพาท
พ.ร.บ.การเล่นแชร์ฯ มาตรา 6 นั้นห้ามมิให้บุคคลธรรมดาเป็นนายวงแชร์หรือจัดให้มีการเล่นแชร์ที่มีลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่ระบุไว้ในมาตรา 6 (1) ถึง (4) เท่านั้น ส่วนสมาชิกผู้เข้าเล่นแชร์ด้วยกันหาได้มีบทบัญญัติห้ามเล่นแชร์แต่อย่างใดไม่ ทั้งมาตรา 7 ยังระบุว่า บทบัญญัติในมาตรา 6 ไม่กระทบกระเทือนถึงการที่สมาชิกวงแชร์จะฟ้องคดีหรือใช้สิทธิเรียกร้องเอากับนายวงแชร์หรือผู้จัดให้มีการเล่นแชร์อีกด้วย การเล่นแชร์เป็นสัญญาประเภทหนึ่ง อันเกิดจากการตกลงกันระหว่างสมาชิกผู้เล่น จึงมีผลผูกพันและบังคับกันได้ตามกฎหมาย มูลหนี้ของเช็คพิพาท 2 ฉบับ เกิดจากการเล่นแชร์ ซึ่งไม่มีวัตถุประสงค์ต้องห้ามตามกฎหมายจึงไม่ตกเป็นโมฆะ โจทก์เป็นผู้ทรงจึงมีอำนาจฟ้องจำเลยผู้สั่งจ่ายชำระเงินตามเช็คได้
การที่จำเลยประมูลแชร์ได้แล้วสั่งจ่ายเช็คพิพาท 2 ฉบับ ให้แก่โจทก์ซึ่งเป็นผู้ที่ประมูลแชร์ยังไม่ได้ เช็คนั้นจึงมีมูลหนี้ต่อกัน เมื่อโจทก์ประมูลแชร์ได้แล้วนำเช็คพิพาท 2 ฉบับ ไปลงวันที่และนำเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงินแต่เช็คพิพาทเรียกเก็บเงินไม่ได้ จำเลยจึงต้องรับผิดชอบชำระเงินตามเช็คนั้นให้แก่โจทก์ การที่นายวงแชร์ยังไม่ได้นำเงินค่าแชร์ที่จำเลยประมูลได้มาชำระให้แก่จำเลยจนครบถ้วนนั้น ไม่เป็นเหตุที่จำเลยจะปฏิเสธไม่ชำระเงินตามเช็คพิพาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 107/2547
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าขึ้นศาล, ทุนทรัพย์, ดอกเบี้ย, การฟ้องคดีรวม, และการคิดดอกเบี้ยของสถาบันการเงิน
โจทก์เป็นสถาบันการเงินประกอบธุรกิจปล่อยสินเชื่อให้แก่ลูกค้า การที่โจทก์ให้จำเลยที่ 1 ทำสัญญาขายลดตั๋วสัญญาใช้เงินและให้กู้ยืมเงิน ล้วนแต่เป็นธุรกรรมเกี่ยวกับการปล่อยสินเชื่อให้แก่จำเลยที่ 1 ซึ่งหลักทรัพย์ที่จำเลยที่ 1 นำมาประกันก็ครอบคลุมหนี้ของจำเลยที่ 1 ทุกประเภท โจทก์จึงสามารถนำสินเชื่อทุกประเภทมารวมกันเป็นทุนทรัพย์ที่เรียกร้องฟ้องมาเป็นคดีเดียวกันได้ โจทก์ชำระค่าขึ้นศาลในศาลชั้นต้นตามจำนวนทุนทรัพย์ที่เรียกร้องในอัตราสูงสุดตามตาราง 1 ท้าย ป.วิ.พ. ข้อ (1) ก. จึงชอบแล้ว การที่ศาลชั้นต้นเรียกให้โจทก์เสียค่าขึ้นศาลเพิ่มเติมโดยแยกมูลหนี้แต่ละประเภท เป็นการเรียกเก็บค่าขึ้นศาลเกินกว่าที่จะต้องเสีย และการที่จำเลยทั้งสามอุทธรณ์ฎีกาโดยเสียค่าขึ้นศาลเกินกว่าสองแสนบาทจึงเป็นการเสียค่าขึ้นศาลเกินกว่าที่จะต้องเสียเช่นกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 28/2547
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์หลังมีคำพิพากษา ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขวางค่าฤชาธรรมเนียมและชำระหนี้
การอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 234 แม้จะเป็นการอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยทั้งสามในเรื่องขอให้เพิกถอนคำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้งดสืบพยานจำเลยทั้งสามและให้จำเลยทั้งสามนำพยานเข้าสืบต่อไป มิใช่อุทธรณ์ในเนื้อหาของคำพิพากษาศาลชั้นต้นก็ตาม จำเลยทั้งสามก็ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของบทบัญญัติกฎหมายดังกล่าวคือ จำเลยทั้งสามต้องนำค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาลและนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลภายในกำหนดสิบห้าวันนับแต่วันที่ศาลได้มีคำสั่ง หาใช่ไม่ต้องนำเงินมาชำระหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลไม่ เพราะการอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยทั้งสามกระทำขึ้นภายหลังที่ศาลชั้นต้นพิพากษาชี้ขาดตัดสินคดีแล้ว เมื่อมีการอุทธรณ์เช่นนี้ย่อมทำให้การบังคับคดีล่าช้าออกไป อาจเสียหายแก่โจทก์ผู้ชนะคดีได้ จำเลยทั้งสามผู้อุทธรณ์จึงต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของบทบัญญัติกฎหมายดังกล่าวให้ครบถ้วน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10700/2546 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของผู้ค้ำประกันการเช่าซื้อ: การไล่เบี้ยลูกหนี้ vs. การรับช่วงสิทธิในทรัพย์สิน
เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันได้ชำระค่าเช่าซื้อแทนจำเลยที่ 2 ผู้เช่าซื้อแล้ว โจทก์มีสิทธิเพียงไล่เบี้ยเอาจากจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นลูกหนี้เพื่อต้นเงินกับดอกเบี้ยและเพื่อการที่ต้องสูญหายหรือเสียหายไปอย่างใด ๆ เพราะการค้ำประกันเท่านั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 693 วรรคหนึ่ง แม้ตามวรรคสองบัญญัติว่า "ผู้ค้ำประกันย่อมเข้ารับช่วงสิทธิของเจ้าหนี้บรรดามีเหนือลูกหนี้ด้วย" และสัญญาค้ำประกัน ข้อ 3 ระบุให้ผู้ค้ำประกันมีสิทธิได้รับช่วงสิทธิทั้งหลายที่เจ้าของมีอยู่ในปัจจุบันไม่ว่าตามกฎหมายหรือตามสัญญาเกี่ยวกับสัญญาเช่าซื้อก็ตาม ก็คงมีความหมายเพียงว่า ผู้ค้ำประกันซึ่งเป็นผู้รับช่วงสิทธิของเจ้าหนี้ชอบที่จะใช้สิทธิทั้งหลายบรรดาที่เจ้าหนี้มีอยู่โดยมูลหนี้รวมทั้งประกันแห่งหนี้นั้นได้ในนามของตนเอง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 226 การที่โจทก์เข้ารับช่วงสิทธิของจำเลยที่ 1 บรรดามีเหนือของจำเลยที่ 2 หาทำให้โจทก์มีสิทธิในรถจักรยานยนต์ที่จำเลยที่ 2 เช่าซื้อไปจากจำเลยที่ 1 ไม่ เนื่องจากรถจักรยานยนต์ดังกล่าวได้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยที่ 2 เมื่อโจทก์ได้ชำระค่าเช่าซื้อแทนจำเลยที่ 2 ไปแล้ว ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 572 โจทก์ไม่อาจใช้สิทธิของจำเลยที่ 1 บอกเลิกสัญญาเช่าซื้อแก่จำเลยที่ 2 ทั้งไม่มีสิทธิฟ้องบังคับให้จำเลยที่ 1 จดทะเบียนโอนรถจักรยานยนต์ที่เช่าซื้อให้แก่โจทก์ และบังคับให้จำเลยที่ 2 ส่งมอบรถจักรยานยนต์แก่โจทก์ได้