คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สมจิตร ทองประดับ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 48 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 924/2542

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบุกรุกเคหสถาน, ข่มขืนใจ, และขู่เข็ญ: การพิจารณาความผิดและบทลงโทษ
โจทก์ฎีกาคัดค้านว่าจำเลยกับพวกกระทำความผิดฐานร่วมกัน บุกรุกเคหสถานของผู้เสียหาย โดยมีอาวุธและในเวลากลางคืน ซึ่งข้อหานี้ศาลชั้นต้นได้พิพากษาว่า จำเลยกับพวกมิได้กระทำ ความผิดและยุติแล้ว จึงเป็นการฎีกาข้อเท็จจริงที่มิได้ยกขึ้น ว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลล่าง ต้องห้ามฎีกาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคแรก ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 จำเลยกับพวกร่วมกันเข้าไปในเคหสถานของผู้เสียหายอีกคนหนึ่งในเวลาประมาณเที่ยงคืนในขณะที่ผู้เสียหายดังกล่าว เข้านอนแล้ว แม้จะมีเจตนาเพียงตามหาคนโดยไม่ได้แสดงอาการ ข่มขู่หรือทำร้ายผู้เสียหายดังกล่าวก็ตาม ก็ถือได้ว่าเป็นการ เข้าไปโดยไม่มีเหตุอันสมควรอันเป็นการกระทำความผิดตามข้อหา ที่โจทก์กล่าวอ้างแล้ว แม้ผู้เสียหายจะเบิกความว่าไม่กลัวต่อการขู่เข็ญของจำเลย ก็ตาม แต่ตามลักษณะการกระทำของจำเลยที่ใช้อาวุธปืนขู่ ผู้เสียหาย มิให้เกี่ยวข้องห้ามปรามหรือหยุดยั้งการกระทำของ จำเลยทั้งสามกับพวก โดยปกติย่อมทำให้เกิดความกลัวหรือ ความตกใจและผู้เสียหายก็ไม่กล้าขัดขืนหรืออีกนัยหนึ่งยอมปฏิบัติตามคำขู่เข็ญ แสดงให้เห็นได้ในตัวว่าการขู่เข็ญของจำเลยทำให้เกิดผลคือทำให้ผู้เสียหายเกิดความกลัวแล้วการกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานทำให้ผู้เสียหายเกิดความกลัว หรือตกใจโดยการขู่เข็ญตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 392 แล้ว จำเลยกระทำความผิดฐานบุกรุกเคหสถานและข่มขืนใจผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 365(2)(3) ประกอบมาตรา 364 และมาตรา 309 วรรคสอง เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท เมื่อความผิดทั้งสองฐานมีโทษเท่ากัน จึงลงโทษเพียงบทเดียว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 748/2542

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งมรดกโดยการครอบครองแทนและการเป็นเจ้าของรวม สิทธิในการแบ่งแยกที่ดินเมื่อมีการครอบครองแทน
เมื่อโจทก์และทายาทอื่นซึ่งมีสิทธิได้รับมรดกได้ตกลงแบ่งปันมรดก แม้มรดกส่วนที่โจทก์จะได้รับโจทก์ยังไม่เข้าครอบครองในฐานะเจ้าของแต่โจทก์ได้ให้ผู้อื่นครอบครองแทน ซึ่งเปรียบเสมือนโจทก์ได้รับส่วนแบ่งและได้ครอบครองที่ดินพิพาทด้วยตนเองแล้วการแบ่งปันมรดกจึงเสร็จสิ้นแล้ว โจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดก จำเลยที่ 2 และที่ 3 ให้การว่าที่ดินพิพาทเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินมรดกที่ บ. มารดาจำเลยที่ 2และที่ 3 ได้รับการแบ่งปันมาจากจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกโดยไม่มีส่วนของโจทก์ บ. ได้ครอบครองทำประโยชน์โดยโจทก์ไม่เคยเข้ามายุ่งเกี่ยว ต่อมา บ. ถึงแก่ความตายจำเลยที่ 2 และที่ 3 ครอบครองทำประโยชน์ต่อ โจทก์ไม่ฟ้องขอแบ่งมรดกภายใน 1 ปี คดีโจทก์ขาดอายุความ ดังนี้ตามคำให้การจำเลยที่ 2 และที่ 3 ไม่มีประเด็นเรื่องจำเลยที่ 2 และที่ 3ได้เปลี่ยนลักษณะการยึดถือที่ดินพิพาทอันเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์อันเป็นการแย่งการครอบครองของโจทก์ การที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยประเด็นนี้แล้วอ้างเป็นเหตุยกฟ้องจึงเป็นการไม่ชอบ โจทก์และ บ. มารดาจำเลยที่ 2 และที่ 3 เป็นเจ้าของรวมในที่ดินพิพาท โดย บ. ครอบครองที่ดินพิพาทส่วนของโจทก์ไว้แทน การที่จำเลยที่ 2 และที่ 3 ครอบครองที่ดินพิพาทต่อมาหลังจาก บ. ถึงแก่ความตาย จึงเป็นการครอบครองแทนโจทก์ด้วย โจทก์จึงยังคงเป็นเจ้าของรวมในที่ดินพิพาทอยู่ครึ่งหนึ่ง และมีสิทธิขอแบ่งที่ดินพิพาทตามฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 748/2542 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งมรดกโดยการครอบครองแทนและการคงสิทธิในฐานะเจ้าของรวม
เมื่อโจทก์และทายาทอื่นซึ่งมีสิทธิได้รับมรดก ได้ตกลงแบ่งปันมรดกกันแล้ว แม้มรดกส่วนที่โจทก์จะได้รับโจทก์ยังไม่เข้าครอบครองในฐานะเจ้าของแต่โจทก์ได้ให้ผู้อื่นครอบครองแทน ซึ่งเปรียบเสมือนโจทก์ได้รับส่วนแบ่งและได้ครอบครองที่ดินพิพาทด้วยตนเองแล้ว การแบ่งปันมรดกจึงเสร็จสิ้นแล้ว
โจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดก จำเลยที่ 2 และที่ 3 ให้การว่า ที่ดินพิพาทเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินมรดกที่ บ.มารดาจำเลยที่ 2 และที่ 3 ได้รับการแบ่งปันมาจากจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกโดยไม่มีส่วนของโจทก์ บ.ได้ครอบครองทำประโยชน์โดยโจทก์ไม่เคยเข้ามายุ่งเกี่ยว ต่อมา บ.ถึงแก่ความตาย จำเลยที่ 2และที่ 3 ครอบครองทำประโยชน์ต่อ โจทก์ไม่ฟ้องขอแบ่งมรดกภายใน 1 ปี คดีโจทก์ขาดอายุความ ดังนี้ตามคำให้การจำเลยที่ 2 และที่ 3 ไม่มีประเด็นเรื่องจำเลยที่ 2และที่ 3 ได้เปลี่ยนลักษณะการยึดถือที่ดินพิพาทอันเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์อันเป็นการแย่งการครอบครองของโจทก์ การที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยประเด็นนี้แล้วอ้างเป็นเหตุยกฟ้องจึงเป็นการไม่ชอบ
โจทก์และ บ.มารดาจำเลยที่ 2 และที่ 3 เป็นเจ้าของรวมในที่ดินพิพาท โดย บ.ครอบครองที่ดินพิพาทส่วนของโจทก์ไว้แทน การที่จำเลยที่ 2 และที่ 3 ครอบครองที่ดินพิพาทต่อมาหลังจาก บ.ถึงแก่ความตาย จึงเป็นการครอบครองแทนโจทก์ด้วย โจทก์จึงยังคงเป็นเจ้าของรวมในที่ดินพิพาทอยู่ครึ่งหนึ่ง และมีสิทธิขอแบ่งที่ดินพิพาทตามฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 433/2542

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิฟ้องคดีเช็คหมดอายุเมื่อมีการประนีประนอมยอมความในคดีแพ่งแล้ว คดีอาญาจึงระงับ
โจทก์และจำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความในศาลแพ่งและศาลได้มีคำพิพากษาตามยอมคดีถึงที่สุดแล้วทำให้หนี้ที่จำเลยได้ออกเช็คเพื่อใช้เงินนั้นสิ้นผลผูกพันไปก่อนที่ศาลซึ่งพิจารณาคดีนี้มีคำพิพากษาถึงที่สุด คดีจึงเลิกกัน ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ. 2534 มาตรา 7 สิทธิของโจทก์ในการนำคดีอาญามา ฟ้องย่อมระงับไปตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(3) ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ย่อมมีผลเท่ากับว่าศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ พิพากษายกฟ้องโจทก์ จึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 427/2542

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเล่นแชร์ผิดกฎหมายทำให้หนี้เช็คไม่บังคับใช้ได้ และนายวงแชร์ไม่สามารถเรียกร้องหนี้จากสมาชิกได้
ตามพระราชบัญญัติการเล่นแชร์ พ.ศ. 2534 มาตรา 6 บัญญัติห้ามมิให้บุคคลธรรมดาเป็นนายวงแชร์หรือจัดให้มีการเล่นแชร์ที่มีลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้ ฯลฯ (3) มีทุนกองกลางต่อหนึ่งงวด รวมกันทุกวงเป็นมูลค่ามากกว่าจำนวนที่กำหนดไว้ ในกฎกระทรวง และมีกฎกระทรวงการคลัง (พ.ศ. 2534) ให้กำหนดทุนกองกลางที่ห้ามมิให้ บุคคลธรรมดาเป็นนายวงแชร์ หรือจัดให้มีการเล่นแชร์ต่อหนึ่งงวดรวมกันทุกวงเป็นมูลค่ามากกว่าสามแสนบาท เมื่อการเล่นแชร์ของโจทก์จำเลยกับพวกมีผู้ร่วมเล่น 18 คน มีทุนกองกลางต่อหนึ่งงวด รวมกันมีมูลค่ามากกว่าสามแสนบาทจึงต้องห้ามตามบทบัญญัติดังกล่าวข้างต้น ย่อมตกเป็น โมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 150 ดังนี้ เมื่อโจทก์ไม่มีสิทธิที่จะเรียกร้อง ให้จำเลยชำระหนี้ตามเช็คฉบับเดิมหรือเช็คพิพาทได้เพราะเหตุดังกล่าว หนี้ตามเช็คพิพาท จึงเป็นหนี้ที่ไม่อาจบังคับได้ตามกฎหมาย การกระทำของจำเลยย่อมไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4 บทบัญญัติพระราชบัญญัติการเล่นแชร์ พ.ศ. 2534 มาตรา 7 เป็นบทบัญญัติให้สิทธิ แก่สมาชิกวงแชร์ฝ่ายเดียวที่จะฟ้องเรียกร้องเอากับนายวงแชร์หรือผู้จัดให้มีการเล่นแชร์ มิได้บัญญัติให้นายวงแชร์หรือผู้จัดให้มีการเล่นแชร์เรียกร้องหนี้สินการเล่นแชร์จากสมาชิกวงแชร์ดังนี้ บทบัญญัติตามมาตรา 7 ดังกล่าวจึงไม่ใช่เป็นบทบัญญัติพิเศษที่ยกเว้นมาตรา 6

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 427/2542 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเล่นแชร์ผิดกฎหมายทำให้หนี้เช็คไม่บังคับได้
ตามพระราชบัญญัติการเล่นแชร์ พ.ศ. 2534 มาตรา 6บัญญัติ ห้ามมิให้บุคคลธรรมดาเป็นนายวงแชร์หรือจัดให้มีการ เล่นแชร์ที่มีลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้ ฯลฯ(3) มีทุนกองกลางต่อหนึ่งงวด รวมกันทุกวงเป็นมูลค่ามากกว่าจำนวนที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง และมี กฎกระทรวงการคลัง (พ.ศ. 2534) ให้กำหนดทุนกองกลางที่ห้ามมิให้บุคคลธรรมดาเป็นนายวงแชร์ หรือจัดให้มีการเล่นแชร์ต่อหนึ่งงวดรวมกันทุกวงเป็นมูลค่ามากกว่าสามแสนบาทเมื่อการเล่นแชร์ของโจทก์จำเลยกับพวกมีผู้ร่วมเล่น18 คน มีทุนกองกลางต่อหนึ่งงวดรวมกันมีมูลค่ามากกว่าสามแสนบาท จึงต้องห้ามตามบทบัญญัติดังกล่าวข้างต้น ย่อมตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 150 ดังนี้ เมื่อโจทก์ไม่มีสิทธิที่จะเรียกร้องให้จำเลยชำระหนี้ตามเช็คฉบับเดิมหรือเช็คพิพาทซึ่งจำเลยสั่งจ่ายให้โจทก์เพื่อชำระค่าเล่นแชร์หนี้ตามเช็คพิพาทจึงเป็นหนี้ที่ไม่อาจบังคับได้ตามกฎหมาย การกระทำของจำเลยย่อมไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ. 2534 มาตรา 4 พระราชบัญญัติการเล่นแชร์ พ.ศ. 2534 มาตรา 7เป็นบทบัญญัติให้สิทธิแก่สมาชิกวงแชร์ฝ่ายเดียวที่จะฟ้องเรียกร้องเอากับนายวงแชร์หรือผู้จัดให้มีการเล่นแชร์บทบัญญัติดังกล่าวมิได้ให้สิทธินายวงแชร์หรือผู้จัดให้มีการเล่นแชร์เรียกร้องหนี้สินการเล่นแชร์จาก สมาชิกวงแชร์ จึงไม่ใช่เป็นบทบัญญัติพิเศษที่ยกเว้นมาตรา 6

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 427/2542 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเล่นแชร์ผิดกฎหมายทำให้หนี้เช็คไม่บังคับได้ นายวงแชร์ไม่มีสิทธิเรียกร้องหนี้จากสมาชิก
ตาม พ.ร.บ.การเล่นแชร์ พ.ศ. 2534 มาตรา 6 บัญญัติห้ามมิให้บุคคลธรรมดาเป็นนายวงแชร์หรือจัดให้มีการเล่นแชร์ที่มีลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้ ....ฯลฯ... (3) มีทุนกองกลางต่อหนึ่งงวด รวมกันทุกวงเป็นมูลค่ามากกว่าจำนวนที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง.... และมีกฎกระทรวงการคลัง(พ.ศ. 2534) ให้กำหนดทุนกองกลางที่ห้ามมิให้บุคคลธรรมดาเป็นนายวงแชร์ หรือจัดให้มีการเล่นแชร์ต่อหนึ่งงวดรวมกันทุกวงเป็นมูลค่ามากกว่าสามแสนบาท ดังนั้นเมื่อการเล่นแชร์ของโจทก์จำเลยกับพวกมีผู้ร่วมเล่น 18 คน มีทุนกองกลางต่อหนึ่งงวดรวมกันมีมูลค่ามากกว่าสามแสนบาท จึงต้องห้ามตามบทบัญญัติดังกล่าวข้างต้นย่อมตกเป็นโมฆะตามป.พ.พ. มาตรา 150 ดังนี้โจทก์เมื่อไม่มีสิทธิที่จะเรียกร้องให้จำเลยชำระหนี้ตามเช็คฉบับเดิมหรือเช็คพิพาทได้เพราะเหตุดังกล่าว หนี้ตามเช็คพิพาทจึงเป็นหนี้ที่ไม่อาจบังคับได้ตามกฎหมาย การกระทำของจำเลยย่อมไม่เป็นความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ. 2534 มาตรา 4
บทบัญญัติพระราชบัญญัติการเล่นแชร์พ.ศ. 2534 มาตรา 7เป็นบทบัญญัติให้สิทธิแก่สมาชิกวงแชร์ฝ่ายเดียวที่จะฟ้องเรียกร้องเอากับนายวงแชร์หรือผู้จัดให้มีการเล่นแชร์ มิได้บัญญัติให้นายวงแชร์หรือผู้จัดให้มีการเล่นแชร์เรียกร้องหนี้สินการเล่นแชร์จากสมาชิกวงแชร์จึงไม่ใช่เป็นบทบัญญัติพิเศษที่ยกเว้นมาตรา 6

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 427/2542 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเล่นแชร์เกินทุนที่กำหนดตามกฎหมาย ทำให้หนี้ตามเช็คที่ออกชำระค่าแชร์เป็นหนี้ที่ไม่อาจบังคับได้
ตามพระราชบัญญัติการเล่นแชร์ พ.ศ. 2534 มาตรา 6ห้ามมิให้บุคคลธรรมดาเป็นนายวงแชร์หรือจัดให้มีการเล่นแชร์ที่มีลักษณะ ฯลฯ (3) มีทุนกองกลางต่อหนึ่งงวด รวมกันทุกวงเป็นมูลค่ามากกว่าจำนวนที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง และมีกฎกระทรวง การคลัง (พ.ศ. 2534) ให้กำหนดทุนกองกลางที่ห้ามมิให้ บุคคลธรรมดาเป็นนายวงแชร์ หรือจัดให้มีการเล่นแชร์ต่อหนึ่งงวดรวมกันทุกวงเป็นมูลค่ามากกว่าสามแสนบาท ดังนั้นเมื่อการเล่นแชร์ของโจทก์จำเลยกับพวกมีผู้ร่วมเล่น 18 คนมีทุนกองกลางต่อหนึ่งงวดรวมกันมีมูลค่ามากกว่าสามแสนบาทจึงต้องห้ามตามบทบัญญัติดังกล่าวข้างต้น ย่อมตกเป็นโมฆะตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 150 โจทก์ไม่มีสิทธิที่จะเรียกร้องให้จำเลยชำระหนี้ตามเช็คฉบับเดิมหรือเช็คพิพาทได้ หนี้ตามเช็คพิพาทจึงเป็นหนี้ที่ไม่อาจบังคับได้ตามกฎหมาย การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติ ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4 ตามพระราชบัญญัติการเล่นแชร์ฯ มาตรา 7 ที่บัญญัติว่า บทบัญญัติในมาตรา 6 ไม่กระทบกระเทือนถึงการที่สมาชิกวงแชร์ จะฟ้องคดีหรือใช้สิทธิเรียกร้องเอากับนายวงแชร์หรือผู้จัด ให้มีการเล่นแชร์นั้น เป็นการให้สิทธิแก่สมาชิกวงแชร์ฝ่ายเดียวที่จะฟ้องเรียกร้องเอากับนายวงแชร์หรือผู้จัดให้มีการเล่นแชร์ มิได้บัญญัติให้นายวงแชร์หรือผู้จัดให้มีการเล่นแชร์ เรียกร้องหนี้สินการเล่นแชร์จากสมาชิกวงแชร์ มาตรา 7 จึง ไม่ใช่เป็นบทบัญญัติพิเศษที่ยกเว้นมาตรา 6
of 5