คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 702

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 387 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2207/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตสัญญาจำนองครอบคลุมหนี้ค้ำประกันหรือไม่ แม้สัญญาระบุถึงหนี้สินต่าง ๆ ที่ลูกหนี้ต้องรับผิดชอบต่อเจ้าหนี้
ก. ผู้เป็นสมาชิกสหกรณ์จำเลยได้กู้เงินจำเลยโดยโจทก์ผู้เป็นสมาชิกอีกผู้หนึ่งเป็นผู้ค้ำประกัน ต่อมาโจทก์กู้เงินจำเลยโดยจำนองที่ดินไว้แก่จำเลยสัญญาจำนองมีข้อความว่า เพื่อประกันเงินซึ่งโจทก์เป็นหนี้จำเลยอยู่ในขณะทำสัญญาหรือในเวลาหนึ่งเวลาใดต่อไปภายหน้า กับทั้งหนี้สินต่าง ๆ ซึ่งโจทก์จะต้องรับผิดไม่ว่าในฐานะใด ๆ ต่อจำเลย ดังนี้ สัญญาจำนองย่อมครอบคลุมถึงหนี้ตามสัญญาค้ำประกันดังกล่าวด้วย แม้โจทก์จะชำระหนี้ที่โจทก์กู้จากจำเลยครบถ้วนแล้ว สัญญาจำนองก็ยังไม่ระงับสิ้นไป จำเลยมีสิทธิที่จะไม่จดทะเบียนไถ่ถอนจำนองที่ดินให้โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2207/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตสัญญาจำนอง: ครอบคลุมหนี้ค้ำประกันหรือไม่ แม้สัญญาจำนองระบุเป็นประกันหนี้สินทั้งหมด
ก. ผู้เป็นสมาชิกสหกรณ์จำเลยได้กู้เงินจำเลยโดยโจทก์ผู้เป็นสมาชิกอีกผู้หนึ่งเป็นผู้ค้ำประกัน ต่อมาโจทก์กู้เงินจำเลยโดยจำนองที่ดินไว้แก่จำเลยสัญญาจำนองมีข้อความว่า เพื่อประกันเงินซึ่งโจทก์เป็นหนี้จำเลยอยู่ในขณะทำสัญญาหรือในเวลาหนึ่งเวลาใดต่อไปภายหน้า กับทั้งหนี้สินต่าง ๆ ซึ่งโจทก์จะต้องรับผิดไม่ว่าในฐานะใด ๆ ต่อจำเลย ดังนี้ สัญญาจำนองย่อมครอบคลุมถึงหนี้ตามสัญญาค้ำประกันดังกล่าวด้วย แม้โจทก์จะชำระหนี้ที่โจทก์กู้จากจำเลยครบถ้วนแล้ว สัญญาจำนองก็ยังไม่ระงับสิ้นไป จำเลยมีสิทธิที่จะไม่จดทะเบียนไถ่ถอนจำนองที่ดินให้โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2012/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินจำนอง แม้คดีค้ำประกันขาดอายุความ ผู้รับจำนองยังมีสิทธิบังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินจำนองได้
จำเลยที่ 1 ทำสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีกับโจทก์ โดยมีอ.เป็นผู้ค้ำประกันรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วมและอ. ได้นำที่ดินมาจำนองประกันหนี้ของจำเลยที่ 1 และหนี้ตามสัญญาค้ำประกันของ อ.ด้วยอ. ถึงแก่กรรมมีจำเลยที่ 2 เป็นผู้จัดการมรดก แม้โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ 2 รับผิดตามสัญญาค้ำประกันเกิน 1 ปีนับแต่ อ. ถึงแก่กรรม คดีขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754 แล้วก็ตาม แต่โจทก์ในฐานะผู้รับจำนองก็ยังคงฟ้องบังคับชำระหนี้ตามสัญญาค้ำประกันดังกล่าวจากที่ดินที่จำนองได้ ตามมาตรา 189 และมาตรา 745.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2012/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำนองประกันหนี้ลูกหนี้ร่วมและหนี้ค้ำประกัน แม้คดีขาดอายุความแต่บังคับชำระจากที่ดินจำนองได้
จำเลยที่ 1 ทำสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีกับโจทก์ โดยมีอ.เป็นผู้ค้ำประกันรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วม และ อ. ได้นำที่ดินมาจำนองประกันหนี้ของจำเลยที่ 1 และหนี้ตามสัญญาค้ำประกันของ อ. ด้วย อ. ถึงแก่กรรมมีจำเลยที่ 2 เป็นผู้จัดการมรดก แม้โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ 2 รับผิดตามสัญญาค้ำประกันเกิน 1 ปีนับแต่ อ. ถึงแก่กรรม คดีขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754 แล้วก็ตาม แต่โจทก์ในฐานะผู้รับจำนองก็ยังคงฟ้องบังคับชำระหนี้ตามสัญญาค้ำประกันดังกล่าวจากที่ดินที่จำนองได้ ตามมาตรา 189 และมาตรา 745

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1863/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจำนองครอบคลุมหนี้ทั้งปัจจุบันและอนาคต การเพิ่มเติมหลักประกันไม่ลบล้างสัญญาเดิม
โจทก์จำนองที่ดินเพื่อประกันหนี้เงินกู้ของโจทก์และ ก.ที่มีต่อจำเลยทั้งที่มีอยู่แล้วและที่จะมีขึ้นในภายหน้าทุกลักษณะต่อมาโจทก์กับพวกร่วมกันกู้เงินจำเลยไปอีก การจำนองดังกล่าวย่อมเป็นประกันหนี้ที่โจทก์กับพวกร่วมกันกู้ไปจากจำเลยด้วยการที่สัญญากู้นั้นมิได้ระบุให้เอาที่ดินตามสัญญาจำนองเป็นประกันโดยระบุแต่ที่ดินอื่นเป็นประกัน ก็เป็นเพียงการเพิ่มเติมหลักประกันให้มั่นคงขึ้นเท่านั้น หาได้ลบล้างข้อสัญญาตามสัญญาจำนองไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1863/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำนองครอบคลุมหนี้ทั้งปัจจุบันและอนาคต สัญญาเพิ่มเติมหลักประกันไม่ลบล้างสัญญาเดิม
โจทก์จำนองที่ดินเพื่อประกันหนี้เงินกู้ของโจทก์และ ก. ที่มีต่อจำเลยทั้งที่มีอยู่แล้วและที่จะมีขึ้นในภายหน้าทุกลักษณะ ต่อมาโจทก์กับพวกร่วมกันกู้เงินจำเลยไปอีก การจำนองดังกล่าวย่อมเป็นประกันหนี้ที่โจทก์กับพวกร่วมกันกู้ไปจากจำเลยด้วยการที่สัญญากู้นั้นมิได้ระบุให้เอาที่ดินตามสัญญาจำนองเป็นประกัน โดยระบุแต่ที่ดินอื่นเป็นประกัน ก็เป็นเพียงการเพิ่มเติมหลักประกันให้มั่นคงขึ้นเท่านั้นหาได้ลบล้างข้อสัญญาตามสัญญาจำนองไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1863/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจำนองครอบคลุมหนี้ทั้งที่มีอยู่แล้วและที่จะมีขึ้นในอนาคต สิทธิการไถ่ถอนจำนองขึ้นอยู่กับการชำระหนี้ทั้งหมด
โจทก์จำนองที่ดินเพื่อประกันหนี้เงินกู้ของโจทก์และ ก. ที่มีต่อจำเลยทั้งที่มีอยู่แล้วและที่จะมีขึ้นในภายหน้าทุกลักษณะ ต่อมาโจทก์กับพวกร่วมกันกู้เงินจำเลยไปอีก การจำนองดังกล่าวย่อมเป็นประกันหนี้ที่โจทก์กับพวกร่วมกันกู้ไปจากจำเลยด้วยการที่สัญญากู้นั้นมิได้ระบุให้เอาที่ดินตามสัญญาจำนองเป็นประกัน โดยระบุแต่ที่ดินอื่นเป็นประกัน ก็เป็นเพียงการเพิ่มเติมหลักประกันให้มั่นคงขึ้นเท่านั้น หาได้ลบล้างข้อสัญญาตามสัญญาจำนองไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1302-1303/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำนองประกันหนี้และดอกเบี้ย: เริ่มผูกพันเมื่อจดทะเบียนจำนอง, ดอกเบี้ยคำนวณรายวัน, จำกัดความรับผิดของผู้ค้ำประกัน
ทรัพย์ซึ่งจำนองย่อมเป็นประกันเพื่อชำระหนี้กับทั้งค่าอุปกรณ์อันรวมถึงดอกเบี้ยซึ่งคำนวณและถือได้เป็นรายวัน ดังนั้น ผู้จำนองจึงต้องรับผิดเรื่องดอกเบี้ยตั้งแต่วันจดทะเบียนจำนองเป็นต้นไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 791/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประกันตัวผู้ต้องหาไม่ใช่การจำนอง เจ้าหนี้มีสิทธิบังคับคดีจากทรัพย์สินอื่นของลูกหนี้ได้
สัญญาประกันตัวผู้ต้องหามิใช่เป็นการจำนองตาม ป.พ.พ.มาตรา 702 หลักประกันที่ระบุไว้ในสัญญาก็เป็นเพียงหลักประกันเบื้องต้นตาม ป.วิ.อ. มาตรา 114 ฉะนั้นแม้ตามสัญญาจะไม่มีข้อตกลงว่า ในกรณีขายทอดตลาดหลักประกันตามสัญญาได้เงินไม่ครบจะยอมให้โจทก์ยึดทรัพย์อื่นใช้หนี้จนครบก็ตาม หากปรากฏว่าขายทอดตลาดหลักประกันตามสัญญาประกันได้เงินไม่ครบตามสัญญาโจทก์ก็ย่อมมีสิทธิบังคับให้จำเลยชำระหนี้ของตนจากทรัพย์สินอื่นของจำเลยได้จนสิ้นเชิง.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 401/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาในการทำสัญญาประนีประนอมยอมความ: การชำระหนี้เงินกู้แทนจำเลยและการไถ่ถอนจำนอง
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความ โดยมีเจตนาให้โจทก์ชำระหนี้เงินกู้แทนจำเลยแล้วจำเลยจะโอนที่ดินพิพาทให้โจทก์ แต่เนื่องจากโจทก์จำเลยเข้าใจว่าการที่จำเลยกู้เงินโดยมอบใบน.ส.3 ก. ให้เจ้าหนี้ไว้นั้นเป็นจำนองจึงระบุในสัญญาประนีประนอมว่าให้โจทก์เป็นผู้ไถ่ถอนจำนองที่ดินพิพาทดังนี้ ตามสัญญาประนีประนอมนั้นโจทก์มีหน้าที่ต้องชำระเงินกู้แทนจำเลย
คดีในชั้นฎีกาพิพาทกันเกี่ยวกับการแปลเจตนาของคู่ความในการทำสัญญาประนีประนอมยอมความในศาล โจทก์ฎีกาเกี่ยวกับคำสั่งอันเกี่ยวด้วยคำขอเพื่อจะบังคับคดีตามคำพิพากษาต่อไป ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 228 (2) ตอนท้าย จึงต้องเสียค่าขึ้นศาลเพียง 200 บาท ตามตาราง 1 ข้อ 2 ข.
of 39