พบผลลัพธ์ทั้งหมด 273 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3915/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ด้วยเช็ค การเลิกสัญญาเช่าซื้อ และสิทธิของผู้ทรงเช็คหลังเช็คไม่สามารถเรียกเก็บเงินได้
จำเลยออกเช็คผ่อนชำระค่าเช่าซื้อรถแทรกเตอร์ให้แก่โจทก์รวม 7 งวด งวดละฉบับ ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คทุกฉบับ จำเลยได้ชำระค่าเช่าซื้อที่ค้างโดยออกเช็คพิพาททั้งสองฉบับให้แก่โจทก์ แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คพิพาทอีก และโจทก์ได้บอกเลิกสัญญาเช่าซื้อแล้ว สัญญาเช่าซื้อย่อมเลิกกันนับแต่นั้นเมื่อเช็คพิพาททั้งสองฉบับจำเลยชำระให้แก่โจทก์ก่อนเลิกสัญญากัน ถือได้ว่าเป็นค่าเช่าซื้อที่โจทก์ได้รับชำระไว้แล้วด้วยเช็คแทนเงิน หาใช่ค่าเช่าซื้อที่โจทก์ยังไม่ได้รับชำระและค้างชำระอยู่ไม่ แม้เช็คพิพาทจะรับเงินไม่ได้เพราะธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน มูลหนี้ตามเช็คก็ยังไม่ระงับจนกว่าจะได้ใช้เงินตามเช็คนั้นแล้ว จำเลยจึงต้องรับผิดใช้หนี้ตามเช็คพิพาท เมื่อโจทก์นำเช็คพิพาทไปขายลดให้แก่ธนาคาร ธนาคารเรียกเก็บเงินตามเช็คไม่ได้และโจทก์ได้นำเงินไปชำระให้แก่ธนาคารแล้วรับเช็คคืน โจทก์จึงกลับมาเป็นผู้ทรงมีสิทธิฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ตามเช็คพิพาททั้งสองฉบับได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1303/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การระงับหนี้จากการชำระหนี้บางส่วน (สินค้าถังแก๊สเปล่า) ไม่ครอบคลุมหนี้ทั้งหมด (สินค้าวาล์วถังแก๊ส) และการบังคับจำนำ
จำเลยที่ 1 เป็นหนี้โจทก์อยู่ 2 รายการ คือ หนี้ตามสัญญารับฝากและจำนำสินค้าถังแก๊สเปล่า กับหนี้ตาม สัญญารับฝากและจำนำสินค้าวาล์ว ถังแก๊ส ต่อมาจำเลยที่ 1 ได้ ทำบันทึกข้อตกลงกับโจทก์ว่า จำเลยที่ 1 ได้ ตกลง ให้โจทก์ขายถังแก๊สรวม 1064 ท่อโดย ให้โจทก์ยกหนี้ค้างชำระหมดไป และจำเลยที่ 1 จะเอาเงินมาไถ่ถอนวาล์ว ถังแก๊ส 60 หีบ เป็นเงิน 272,701 บาท โดย โจทก์จะไม่คิดค่าดอกเบี้ย และค่ารักษา การที่บันทึกข้อตกลงการชำระหนี้ได้ แยกหนี้สินของจำเลยที่ 1 เป็น 2 รายการโดย ชัดแจ้งแยกต่างหากจากกันเช่นนี้ ถือ ว่าข้อตกลงดังกล่าวเป็นข้อตกลงที่มีเงื่อนไขการชำระหนี้ เมื่อโจทก์ยอมรับเอาสินค้าถังแก๊สเปล่าไปขายเป็นการชำระหนี้ หนี้เฉพาะ รายการนี้ย่อมเป็นอันระงับสิ้นไปตาม ป.พ.พ. มาตรา 321 วรรคแรก แต่ หาทำให้หนี้ตาม สัญญารับฝากและจำนำสินค้าวาล์ว ถังแก๊สระงับไปด้วย แต่ อย่างใดไม่ ถ้าหากคู่กรณีมีเจตนาจะให้หนี้ทั้งสองรายการระงับไปด้วย กันแล้ว ก็ไม่น่าจะมีการแยกประเภทหนี้สินค่าถังแก๊สเปล่าไว้ส่วนหนึ่ง และหนี้สินค้าวาล์ว ถังแก๊สไว้อีกส่วนหนึ่ง เมื่อจำเลยยังมิได้นำเงินมาไถ่ถอนวาล์ว ถังแก๊ส หนี้สินค้าวาล์ว ถังแก๊สจึงยังไม่ระงับสิ้นไป.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4144/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ด้วยทรัพย์สินจำนอง: การตีใช้หนี้กับสิทธิของผู้รับจำนอง
โจทก์กู้ยืมเงินจำเลยที่ 2 โดยจำนองที่พิพาทเป็นประกันต่อมาโจทก์ตกลงโอนที่พิพาทชำระหนี้เงินกู้ให้แก่จำเลยที่ 2ขณะโอนที่พิพาทมีราคาเท่ากับจำนวนหนี้ การตกลงดังกล่าวจึงเป็นไปตามเงื่อนไขแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 656 วรรคสองมีผลให้หนี้เงินกู้และสัญญาจำนองระงับไปตามมาตรา 321744และเป็นการที่โจทก์เอาทรัพย์จำนองตีใช้หนี้จำเลยที่ 2 หาใช่ผู้รับจำนองเรียกเอาทรัพย์จำนองหลุดซึ่งผู้จำนองจะต้องขาดส่งดอกเบี้ยถึง 5 ปี ตามมาตรา 729 ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4144/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ด้วยทรัพย์จำนอง: การตีใช้หนี้ตามมาตรา 656 วรรคสอง และไม่ใช่การหลุดจำนอง
โจทก์กู้ยืมเงินจำเลยที่ 2 โดยจำนองที่พิพาทเป็นประกันต่อมาโจทก์ตกลงโอนที่พิพาทชำระหนี้เงินกู้ให้แก่จำเลยที่ 2 ขณะโอนที่พิพาทมีราคาเท่ากับจำนวนหนี้ การตกลงดังกล่าวจึงเป็นไปตามเงื่อนไขแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 656 วรรคสองมีผลให้หนี้เงินกู้และสัญญาจำนองระงับไปตามมาตรา 321, 744 และเป็นการที่โจทก์เอาทรัพย์จำนองตีใช้หนี้จำเลยที่ 2 หาใช่ผู้รับจำนองเรียกเอาทรัพย์จำนองหลุดซึ่งผู้จำนองจะต้องขาดส่งดอกเบี้ยถึง 5 ปี ตามมาตรา 729 ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3517/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ด้วยรถแทรกเตอร์ ไม่ใช่การหักกลบลบหนี้ ศาลฎีกาตัดสินประเด็นนอกกรอบ
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ตามสัญญากู้ จำเลยให้การต่อสู้ว่าได้ส่งมอบรถแทรกเตอร์ชำระหนี้ให้โจทก์แล้ว ซึ่งศาลชั้นต้นก็ได้กำหนดประเด็นไว้เพียงว่า จำเลยได้เอารถแทรกเตอร์ตีใช้หนี้ตามฟ้อง หนี้ระงับแล้วหรือไม่ ประเด็นแห่งคดีจึงเป็นเรื่องมีการชำระหนี้อย่างอื่นแทนการชำระหนี้ที่ได้ตกลงกันไว้หรือไม่ ไม่ใช่เรื่องหักกลบลบหนี้ตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 341 ดังนั้น การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าเป็นเรื่องหักกลบลบหนี้จึงเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3517/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ด้วยการส่งมอบรถแทรกเตอร์และการวินิจฉัยนอกประเด็นของศาลอุทธรณ์
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ตามสัญญากู้ จำเลยให้การต่อสู้ว่าได้ส่งมอบรถแทรกเตอร์ ชำระหนี้ให้โจทก์แล้ว ซึ่งศาลชั้นต้นก็ได้กำหนดประเด็นไว้เพียงว่า จำเลยได้เอารถแทรกเตอร์ ใช้หนี้ตามฟ้องหนี้ระงับแล้วหรือไม่ประเด็นแห่งคดีจึงเป็นเรื่องมีการชำระหนี้อย่างอื่นแทนการชำระหนี้ที่ได้ตกลงกันไว้หรือไม่ ไม่ใช่เรื่องหักกลบลบหนี้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 341 ดังนั้น การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าเป็นเรื่องหักกลบลบหนี้จึงเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3517/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ด้วยรถแทรกเตอร์แทนเงินกู้ ประเด็นสำคัญอยู่ที่การตีใช้หนี้ไม่ใช่การหักกลบลบหนี้
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ตามสัญญากู้ จำเลยให้การต่อสู้ว่าได้ส่งมอบรถแทรกเตอร์ชำระหนี้ให้โจทก์แล้ว ซึ่งศาลชั้นต้นก็ได้กำหนดประเด็นไว้เพียงว่า จำเลยได้เอารถแทรกเตอร์ตีใช้หนี้ตามฟ้อง หนี้ระงับแล้วหรือไม่ ประเด็นแห่งคดีจึงเป็นเรื่องมีการชำระหนี้อย่างอื่นแทนการชำระหนี้ที่ได้ตกลงกันไว้หรือไม่ ไม่ใช่เรื่องหักกลบลบหนี้ตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 341 ดังนั้น การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าเป็นเรื่องหักกลบลบหนี้จึงเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2399/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความค่าจ้างว่าความ: การรับสภาพหนี้ด้วยเช็คและการฟ้องแย้งที่ไม่เกี่ยวข้องกับประเด็นหลัก
เมื่อมีข้อตกลงกันว่า ถ้า โจทก์ฟ้องคดีให้จำเลยได้เงินจำนวน10 ล้านบาท จำเลยจะต้อง จ่ายเงินค่าจ้างว่าความให้แก่โจทก์จำนวน1 ล้านบาท ภายหลังที่คดีเสร็จเด็ดขาดแล้ว สิทธิเรียกร้องในค่าว่าจ้างว่าความของโจทก์ก็ย่อมเริ่มนับแต่วันที่จำเลยได้รับเงินจำนวนดังกล่าวเป็นต้นไป เมื่อนับถึง วันยื่นฟ้องเลยระยะเวลา2 ปี คดีของโจทก์ย่อมขาดอายุความ แม้ก่อนหน้านั้นจำเลยได้ ชำระค่าจ้างว่าความให้โจทก์เป็นเช็ค ซึ่ง เป็นการรับสภาพหนี้ อายุความย่อมสะดุดหยุดลงและเริ่มต้นนับกันใหม่นับแต่วันที่ระบุในเช็คอันเป็นวันที่โจทก์สามารถบังคับตาม สิทธิเรียกร้องได้ เป็นต้นไปแต่ เมื่อนับถึง วันฟ้องก็ล่วงเลยระยะเวลา 2 ปี คดีโจทก์จึงขาดอายุความ
ฟ้องเดิมของโจทก์เป็นเรื่องที่ขอให้ศาลบังคับจำเลยชำระค่าจ้างว่าความที่ค้าง เมื่อจำเลยให้การปฏิเสธ คดีจึงมีประเด็นเพียงว่า จำเลยยังคงค้างชำระค่าจ้างว่าความอยู่จริงหรือไม่ การที่จำเลยฟ้องแย้งขอเรียกทรัพย์คืนโดย อ้างเหตุเนรคุณเป็นคนละเรื่องคนละประเด็น แตกต่าง ไปจากฟ้องเดิมของโจทก์ที่ขอบังคับตาม สัญญาจ้างว่าความ หาได้ เกี่ยวข้องกับสิทธิและหน้าที่ตาม สัญญาที่โจทก์อ้างความผูกพันอันจำเลยจะต้อง รับผิดไม่ หากจำเลยเห็นว่าเงินที่มอบให้โจทก์ไปนั้นความจริงเป็นการให้โดย เสน่หา และการกระทำของโจทก์เป็นการประพฤติเนรคุณ อันเป็นต้นเหตุให้จำเลยมีสิทธิถอนคืนการให้ได้ แล้ว ก็ชอบที่จำเลยจะไปว่ากล่าวเป็นคดีอีกเรื่องหนึ่งต่างหากฟ้องแย้งของจำเลยจึงไม่อาจรับไว้พิจารณารวมกับฟ้องเดิมได้
ฟ้องเดิมของโจทก์เป็นเรื่องที่ขอให้ศาลบังคับจำเลยชำระค่าจ้างว่าความที่ค้าง เมื่อจำเลยให้การปฏิเสธ คดีจึงมีประเด็นเพียงว่า จำเลยยังคงค้างชำระค่าจ้างว่าความอยู่จริงหรือไม่ การที่จำเลยฟ้องแย้งขอเรียกทรัพย์คืนโดย อ้างเหตุเนรคุณเป็นคนละเรื่องคนละประเด็น แตกต่าง ไปจากฟ้องเดิมของโจทก์ที่ขอบังคับตาม สัญญาจ้างว่าความ หาได้ เกี่ยวข้องกับสิทธิและหน้าที่ตาม สัญญาที่โจทก์อ้างความผูกพันอันจำเลยจะต้อง รับผิดไม่ หากจำเลยเห็นว่าเงินที่มอบให้โจทก์ไปนั้นความจริงเป็นการให้โดย เสน่หา และการกระทำของโจทก์เป็นการประพฤติเนรคุณ อันเป็นต้นเหตุให้จำเลยมีสิทธิถอนคืนการให้ได้ แล้ว ก็ชอบที่จำเลยจะไปว่ากล่าวเป็นคดีอีกเรื่องหนึ่งต่างหากฟ้องแย้งของจำเลยจึงไม่อาจรับไว้พิจารณารวมกับฟ้องเดิมได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2399/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องค่าจ้างว่าความ & ฟ้องแย้งเหตุเนรคุณไม่เกี่ยวเนื่องกับฟ้องเดิม
เมื่อมีข้อตกลงกันว่า ถ้าโจทก์ฟ้องคดีให้จำเลยได้เงินจำนวน10 ล้านบาท จำเลยจะต้องจ่ายเงินค่าจ้างว่าความให้แก่โจทก์จำนวน1 ล้านบาท ภายหลังที่คดีเสร็จเด็ดขาดแล้ว สิทธิเรียกร้องในค่าจ้างว่าความของโจทก์ก็ย่อมเริ่มนับตั้งแต่วันที่จำเลยได้รับเงินจำนวนดังกล่าวเป็นต้นไป เมื่อนับถึงวันยื่นฟ้องเลยระยะเวลา 2 ปีคดีของโจทก์ย่อมขาดอายุความ แม้ก่อนหน้านั้นจำเลยได้ชำระค่าจ้างว่าความให้โจทก์เป็นเช็คซึ่งเป็นการรับสภาพหนี้ อายุความย่อมสะดุดหยุดลงและเริ่มต้นนับกันใหม่นับตั้งแต่วันที่ระบุในเช็คอันเป็นวันที่โจทก์สามารถบังคับตามสิทธิเรียกร้องได้เป็นต้นไปแต่เมื่อนับถึงวันฟ้องก็ล่วงเลยระยะเวลา 2 ปี คดีโจทก์จึงขาดอายุความ ฟ้องเดิมของโจทก์เป็นเรื่องที่ขอให้ศาลบังคับจำเลยชำระค่าจ้างว่าความที่ค้าง เมื่อจำเลยให้การปฏิเสธ คดีจึงมีประเด็นเพียงว่าจำเลยยังคงค้างชำระค่าจ้างว่าความอยู่จริงหรือไม่ การที่จำเลยฟ้องแย้งขอเรียกทรัพย์คืนโดยอ้างเหตุเนรคุณเป็นคนละเรื่องคนละประเด็นแตกต่างไปจากฟ้องเดิมของโจทก์ที่ขอบังคับตามสัญญาจ้างว่าความ หาได้เกี่ยวข้องกับสิทธิและหน้าที่ตามสัญญาที่โจทก์อ้างความผูกพันอันจำเลยจะต้องรับผิดไม่ หากจำเลยเห็นว่าเงินที่มอบให้โจทก์ไปนั้นความจริงเป็นการให้โดยเสน่หา และการกระทำของโจทก์เป็นการประพฤติเนรคุณ อันเป็นต้นเหตุให้จำเลยมีสิทธิถอนคืนการให้ได้แล้ว ก็ชอบที่จำเลยจะไปว่ากล่าวเป็นคดีอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก ฟ้องแย้งของจำเลยจึงไม่อาจรับไว้พิจารณารวมกับฟ้องเดิมได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2399/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความค่าจ้างว่าความ และการฟ้องแย้งที่ไม่เกี่ยวเนื่องกับฟ้องเดิม
เมื่อมีข้อตกลงกันว่า ถ้า โจทก์ฟ้องคดีให้จำเลยได้เงินจำนวน10 ล้านบาท จำเลยจะต้อง จ่ายเงินค่าจ้างว่าความให้แก่โจทก์จำนวน1 ล้านบาท ภายหลังที่คดีเสร็จเด็ดขาดแล้ว สิทธิเรียกร้องในค่าว่าจ้างว่าความของโจทก์ก็ย่อมเริ่มนับแต่วันที่จำเลยได้รับเงินจำนวนดังกล่าวเป็นต้นไป เมื่อนับถึง วันยื่นฟ้องเลยระยะเวลา2 ปี คดีของโจทก์ย่อมขาดอายุความ แม้ก่อนหน้านั้นจำเลยได้ ชำระค่าจ้างว่าความให้โจทก์เป็นเช็ค ซึ่ง เป็นการรับสภาพหนี้ อายุความย่อมสะดุดหยุดลงและเริ่มต้นนับกันใหม่นับแต่วันที่ระบุในเช็คอันเป็นวันที่โจทก์สามารถบังคับตาม สิทธิเรียกร้องได้ เป็นต้นไปแต่ เมื่อนับถึง วันฟ้องก็ล่วงเลยระยะเวลา 2 ปี คดีโจทก์จึงขาดอายุความ ฟ้องเดิมของโจทก์เป็นเรื่องที่ขอให้ศาลบังคับจำเลยชำระค่าจ้างว่าความที่ค้าง เมื่อจำเลยให้การปฏิเสธ คดีจึงมีประเด็นเพียงว่า จำเลยยังคงค้างชำระค่าจ้างว่าความอยู่จริงหรือไม่ การที่จำเลยฟ้องแย้งขอเรียกทรัพย์คืนโดย อ้างเหตุเนรคุณเป็นคนละเรื่องคนละประเด็น แตกต่าง ไปจากฟ้องเดิมของโจทก์ที่ขอบังคับตาม สัญญาจ้างว่าความ หาได้ เกี่ยวข้องกับสิทธิและหน้าที่ตาม สัญญาที่โจทก์อ้างความผูกพันอันจำเลยจะต้อง รับผิดไม่ หากจำเลยเห็นว่าเงินที่มอบให้โจทก์ไปนั้นความจริงเป็นการให้โดย เสน่หา และการกระทำของโจทก์เป็นการประพฤติเนรคุณ อันเป็นต้นเหตุให้จำเลยมีสิทธิถอนคืนการให้ได้ แล้ว ก็ชอบที่จำเลยจะไปว่ากล่าวเป็นคดีอีกเรื่องหนึ่งต่างหากฟ้องแย้งของจำเลยจึงไม่อาจรับไว้พิจารณารวมกับฟ้องเดิมได้.