พบผลลัพธ์ทั้งหมด 273 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 243/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้เงินกู้ยืมและการนำสืบพยานบุคคลเรื่องดอกเบี้ย ไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ
การนำสืบการใช้เงินว่าต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือตามที่บัญญัติไว้ใน ป.พ.พ. มาตรา 653 วรรค 2 นั้น หมายความเฉพาะถึงการใช้ต้นเงินที่กู้ยืมไปเกินกว่า 50 บาท เท่านั้น ไม่กินความถึงการใช้ดอกเบี้ยด้วย การชำระดอกเบี้ยย่อมนำสืบด้วยพยานบุคคลได้ ไม่ขัดต่อ ป.วิ.พ. มาตรา 94
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 2/2503)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 2/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 243/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้เงินกู้ยืมและการนำสืบพยานบุคคลเรื่องดอกเบี้ย: หลักฐานหนังสือไม่ครอบคลุมดอกเบี้ย
การนำสืบการใช้เงินว่าต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 วรรคสอง นั้นหมายความเฉพาะถึงการใช้ต้นเงินที่กู้ยืมไปเกินกว่า 50 บาท เท่านั้น ไม่กินความถึงการใช้ดอกเบี้ยด้วยการชำระดอกเบี้ยย่อมนำสืบด้วยพยานบุคคลได้ไม่ขัดต่อ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 2/2503)
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 2/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1475/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ด้วยทรัพย์สิน: โอนที่ดินหักหนี้ ย่อมระงับหนี้เดิม
จำเลยกู้เงินโจทก์ไป แล้วตกลงกันว่าเมื่อถึงกำหนดชำระในสัญญาจำเลยไม่ชำระให้โจทก์โอนที่ 2 แปลงไปเป็นของโจทก์ตกลงกันแล้วจำเลยได้มอบที่ 2 แปลงพร้อมด้วยตราจอง และเซ็นใบมอบอำนาจไว้ในกระดาษเปล่าให้โจทก์กรอกข้อความเอาเอง เพื่อโอนที่เป็นของโจทก์หรือของใครตามที่โจทก์ต้องการ ครั้นถึงกำหนดชำระ จำเลยไม่ชำระเงินตามสัญญา โจทก์จึงจัดการโอนที่ 2 แปลงใส่ชื่อภรรยาโจทก์และเข้าครอบครอง เช่นนี้ ถือได้ว่าเจ้าหนี้ยอมรับหนี้อย่างอื่นแทน นับว่าเป็นการสมบูรณ์แล้ว หนี้สินที่จำเลยกู้ โจทก์มาย่อมระงับไป และกรณีไม่เข้ามาตรา 656 เพราะไม่มีใครฟ้องร้องขอให้บังคับตามข้อตกลงนั้น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1475/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ด้วยทรัพย์สิน: การโอนที่ดินเพื่อหักกลบลบหนี้ ทำให้หนี้ระงับสิ้น
จำเลยกู้เงินโจทก์ไป แล้วตกลงกันว่า เมื่อถึงกำหนดชำระในสัญญาจำเลยไม่ชำระให้โจทก์โอนที่ 2 แปลงไปเป็นของโจทก์ตกลงกันแล้วจำเลยได้มอบที่ 2 แปลงพร้อมด้วยตราจอง และเซ็นใบมอบอำนาจไว้ในกระดาษเปล่าให้โจทก์กรอกข้อความเอาเองเพื่อโอนที่เป็นของโจทก์หรือของใครตามที่โจทก์ต้องการ ครั้นถึงกำหนดชำระ จำเลยไม่ชำระเงินตามสัญญา โจทก์จึงจัดการโอนที่ 2 แปลงใส่ชื่อภรรยาโจทก์และเข้าครอบครอง เช่นนี้ ถือได้ว่าเจ้าหนี้ยอมรับหนี้อย่างอื่นแทน นับว่าเป็นการสมบูรณ์แล้ว หนี้สินที่จำเลยกู้โจทก์มาย่อมระงับไป และกรณีไม่เข้ามาตรา 656เพราะไม่มีใครฟ้องร้องขอให้บังคับตามข้อตกลงนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1466/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแปลงหนี้: หนี้เดิมระงับเมื่อทำสัญญากู้ใหม่แทน
หนี้เดิมเป็นการตกลงซื้อขายที่ดินกัน ฝ่ายจำเลยไม่มีเงินพอจะจ่ายได้ครบตามจำนวนเงินที่ได้ตกลงซื้อขาย จึงตกลงทำสัญญากู้ขึ้นเฉพาะจำนวนเงินที่ยังขาด ถือว่าเป็นการแปลงสาระสำคัญแห่งหนี้ หนี้เดิม(จำนวนเงินที่ยังขาด) จึงเป็นอันระงับสิ้นไปด้วย การแปลงหนี้ใหม่ตาม ป.พ.พ.ม.349
จำเลยจะอาศัยสัญญาชื้อขายที่ดินซึ่งปรากฎว่าโจทก์ได้รับเงินค่าซื้อขายที่ดินไปครบถ้วนแล้ว มาเป็นข้ออ้างให้ไม่ต้องชำระเงินตามสัญญากู้ที่แปลงขึ้นใหม่มาได้ไม่ เพราะหนี้เก่าได้แปลงเป็นหนี้ใหม่แล้ว หนี้เก่าหนี้เดิมเป็นอันระงับสิ้นไปตาม ก.ม.แล้ว แต่มีหนี้ใหม่เข้ามาแทนหาได้ระงับสิ้นไปด้วยไม่
จำเลยจะอาศัยสัญญาชื้อขายที่ดินซึ่งปรากฎว่าโจทก์ได้รับเงินค่าซื้อขายที่ดินไปครบถ้วนแล้ว มาเป็นข้ออ้างให้ไม่ต้องชำระเงินตามสัญญากู้ที่แปลงขึ้นใหม่มาได้ไม่ เพราะหนี้เก่าได้แปลงเป็นหนี้ใหม่แล้ว หนี้เก่าหนี้เดิมเป็นอันระงับสิ้นไปตาม ก.ม.แล้ว แต่มีหนี้ใหม่เข้ามาแทนหาได้ระงับสิ้นไปด้วยไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1466/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแปลงหนี้: หนี้เดิมระงับเมื่อทำสัญญากู้ใหม่ สัญญาซื้อขายเดิมใช้ไม่ได้
หนี้เดิมเป็นการตกลงซื้อขายที่ดินกัน ฝ่ายจำเลยไม่มีเงินพอจะจ่ายได้ครบตามจำนวนเงินที่ได้ตกลงซื้อขาย จึงตกลงทำสัญญากู้ขึ้นเฉพาะจำนวนเงินที่ยังขาด ถือว่าเป็นการแปลงสาระสำคัญแห่งหนี้ หนี้เดิม(จำนวนเงินที่ยังขาด) จึงเป็นอันระงับสิ้นไปด้วย การแปลงหนี้ใหม่ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 349
จำเลยจะอาศัยสัญญาซื้อขายที่ดินซึ่งปรากฏว่าโจทก์ได้รับเงินค่าซื้อขายที่ดินไปครบถ้วนแล้ว มาเป็นข้ออ้างให้ไม่ต้องชำระเงินตามสัญญากู้ที่แปลงขึ้นใหม่หาได้ไม่ เพราะหนี้เก่าได้แปลงเป็นหนี้ใหม่แล้ว หนี้เก่าหรือหนี้เดิมเป็นอันระงับสิ้นไปตาม กฎหมายแล้ว แต่มีหนี้ใหม่เข้ามาแทนหาได้ระงับสิ้นไปด้วยไม่
จำเลยจะอาศัยสัญญาซื้อขายที่ดินซึ่งปรากฏว่าโจทก์ได้รับเงินค่าซื้อขายที่ดินไปครบถ้วนแล้ว มาเป็นข้ออ้างให้ไม่ต้องชำระเงินตามสัญญากู้ที่แปลงขึ้นใหม่หาได้ไม่ เพราะหนี้เก่าได้แปลงเป็นหนี้ใหม่แล้ว หนี้เก่าหรือหนี้เดิมเป็นอันระงับสิ้นไปตาม กฎหมายแล้ว แต่มีหนี้ใหม่เข้ามาแทนหาได้ระงับสิ้นไปด้วยไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1466/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแปลงหนี้: หนี้เดิมระงับสิ้นเมื่อทำสัญญากู้ใหม่แทน
หนี้เดิมเป็นการตกลงซื้อขายที่ดินกัน ฝ่ายจำเลยไม่มีเงินพอจะจ่ายได้ครบตามจำนวนเงินที่ได้ตกลงซื้อขาย จึงตกลงทำสัญญากู้ขึ้นเฉพาะจำนวนเงินที่ยังขาด ถือว่าเป็นการแปลงสาระสำคัญแห่งหนี้ หนี้เดิม(จำนวนเงินที่ยังขาด) จึงเป็นอันระงับสิ้นไปด้วย การแปลงหนี้ใหม่ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 349
จำเลยจะอาศัยสัญญาซื้อขายที่ดินซึ่งปรากฏว่าโจทก์ได้รับเงินค่าซื้อขายที่ดินไปครบถ้วนแล้ว มาเป็นข้ออ้างให้ไม่ต้องชำระเงินตามสัญญากู้ที่แปลงขึ้นใหม่หาได้ไม่ เพราะหนี้เก่าได้แปลงเป็นหนี้ใหม่แล้ว หนี้เก่าหรือหนี้เดิมเป็นอันระงับสิ้นไปตาม กฎหมายแล้ว แต่มีหนี้ใหม่เข้ามาแทนหาได้ระงับสิ้นไปด้วยไม่
จำเลยจะอาศัยสัญญาซื้อขายที่ดินซึ่งปรากฏว่าโจทก์ได้รับเงินค่าซื้อขายที่ดินไปครบถ้วนแล้ว มาเป็นข้ออ้างให้ไม่ต้องชำระเงินตามสัญญากู้ที่แปลงขึ้นใหม่หาได้ไม่ เพราะหนี้เก่าได้แปลงเป็นหนี้ใหม่แล้ว หนี้เก่าหรือหนี้เดิมเป็นอันระงับสิ้นไปตาม กฎหมายแล้ว แต่มีหนี้ใหม่เข้ามาแทนหาได้ระงับสิ้นไปด้วยไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 905/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ด้วยการโอนทรัพย์สิน ถือเป็นการระงับหนี้เดิม แม้จะยังไม่ได้คืนสัญญา
จำเลยกู้เงินโจทก์ไปซื้อรถยนตร์แล้วโจทก์ยอมรับโอนรถยนต์จากจำเลยดังนี้ เท่ากับโจทก์ยอมรับชำระหนี้อย่างอื่นแทนหนี้สินระหว่างโจทก์จำเลยตามหนังสือสัญญากู้เงินย่อมระงับสิ้นไป แม้หนังสือสัญญากู้เงินจะอยู่กับโจทก์ก็นำมาฟ้องไม่ขึ้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 905/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้ด้วยวิธีการอื่นแทนการชำระตามสัญญาเดิม ทำให้หนี้ระงับสิ้นไป แม้สัญญากู้จะยังอยู่กับเจ้าหนี้
จำเลยกู้เงินโจทก์ไปซื้อรถยนตร์แล้วโจทก์ยอมรับโอนรถยนตร์จากจำเลยดังนี้ เท่ากับโจทก์ยอมรับชำระหนี้อย่างอื่นแทนหนี้สินระหว่างโจทก์จำเลยตามหนังสือสัญญากู้เงินย่อมระงับสิ้นไปแม้หนังสือสัญญากู้เงินจะอยู่กับโจทก์ โดยยังมิได้คืนโจทก์ก็นำมาฟ้องไม่ขึ้น จำเลยนำสืบด้วยพยานบุคคลได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่8/2497)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 119/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หักกลบลบหนี้กับการใช้ทรัพย์แทนหนี้: การนำสืบข้อต่อสู้
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระเงินกู้ ตามสัญญากู้เงิน จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ซื้อปืนพกจำเลยไป 1 กระบอกเป็นจำนวนเงินแน่นอน และว่าได้ตกลงกันหักกลบลบหนี้กันแล้ว ดังนี้ ได้ชื่อว่าเป็นการหักกลบลบหนี้กัน ตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 341 หาใช่เป็นการใช้ทรัพย์แทนเงินกู้ตามมาตรา 321 ไม่ ฉะนั้นจำเลยจึงนำพยานมาสืบตามข้อต่อสู้ได้ ไม่ใช่กรณีตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 653 วรรค 2.