คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 223

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 328 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 457-458/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การงดบังคับคดีและการใช้ดุลพินิจของศาลเมื่อมีคดีอื่นเกี่ยวข้อง
มาตรา 293 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งบัญญัติไว้สำหรับงดการบังคับคดีในเรื่องขายทอดตลาด หรือจำหน่ายทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษา ในเมื่อลูกหนี้นั้นอาจกลับชนะคดี เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในคดีเรื่องอื่น อันจะก่อให้เกิดหนี้มาหักกลบลบกับหนี้ตามคำพิพากษาที่กำลังมีการบังคับคดีนั้นเท่านั้น
คดีนี้ ศาลอุทธรณ์พิพากษาขับไล่จำเลยออกจากที่เช่าคดีถึงที่สุดแล้วจำเลยยื่นคำร้องขอให้งดการบังคับคดีโดยอ้างว่าจำเลยได้ฟ้องโจทก์เป็นอีกคดีหนึ่งขอให้เพิกถอนคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ คดียังอยู่ระหว่างพิจารณานั้น ศาลชั้นต้นหาอาจเอามาตรา 293 อนุโลมมาใช้ในกรณีเช่นคดีนี้ไม่ ฉะนั้นการที่ศาลชั้นต้นสั่งงดการบังคับคดีในคดีนี้นั้น จึงต้องถือว่าเป็นคำสั่งตามดุลพินิจดังบัญญัติไว้ในมาตรา 292(2) ซึ่งคำสั่งโดยทั่วไปเช่นนี้คู่ความย่อมอุทธรณ์ฎีกาได้ และในกรณีดังกล่าวข้างต้นยังไม่เป็นเหตุเพียงพอให้ศาลงดการบังคับคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 457-458/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การงดบังคับคดีเมื่อมีคดีอื่นเกี่ยวข้อง: ข้อจำกัดการอนุโลมมาตรา 293 ป.วิ.แพ่ง และขอบเขตอำนาจดุลยพินิจศาล
มาตรา 293 ป.ม.วิ.แพ่ง บัญญัติไว้สำหรับงดการบังคับคดีในเรื่องขายทอดตลาด หรือจำหน่ายทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษา ในเมื่อลูกหนี้นั้นอาจกลับชนะคดีเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในคดีเรื่องอื่น อันจะก่อให้เกิดหนี้มาหักกลบลบกับหนี้ตามคำพิพากษาที่กำลังมีการบังคับคดีนั้นเท่านั้น.
คดีนี้ ศาลอุทธรณ์พิพากษาขับไล่จำเลยออกจากที่เช่า คดีถึงที่สุดแล้ว จำเลยยื่นคำร้องขอให้งดการบังคับคดี โดยอ้างว่าจำเลยได้ฟ้องโจทก์เป็นอีกคดีหนึ่งขอให้เพิกถอนคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ คดียังอยู่ระหว่างพิจารณานั้น ศาลชั้นต้นอาจเอามาตรา 293 อนุโลมมาใช้ในกรณีเช่นคดีนี้ไม่ฉะนั้นการที่ศาลชั้นต้นสั่งงดการบังคับคดีนี้นั้น จึงต้องถือว่าเป็นคำสั่งตามดุลยพินิจดังบัญญัติไว้ในมาตรา 252(2) ซึ่งคำสั่งโดยทั่วไปเช่นนี้ คู่ความย่อมอุทธรณ์,ฎีกาได้ และในกรณีดังกล่าวข้างต้นยังไม่เป็นเหตุเพียงพอให้ศาลงดการบังคับคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 267/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่เป็นประโยชน์เมื่อคดีถึงที่สุดแล้ว แม้จะโต้แย้งคำสั่งศาลชั้นต้นก่อนพิพากษา
จำเลยขอให้ศาลชี้ขาดปัญหาข้อกฏหมายเบื้องต้นตาม ป.วิ.แพ่ง ม.24 ศาลชั้นต้นวินิจฉัยแล้วมีคำสั่งให้ยกคำขอของจำเลยเสีย จำเลยอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นต่อศาลอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นคงดำเนินการพิจารณาคดีต่อไปแล้วพิพากษาให้จำเลยแพ้คดี จำเลยมิได้อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นอีก ดังนี้ ถือว่าคดีย่อมถึงที่สุดเด็ดขาดตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นแล้ว เมื่อศาลอุทธรณ์ยืนตามคำสั่งศาลชั้นต้นที่ยกคำขอของจำเลยนั้น จำเลยฎีกาคำสั่งนั้นต่อศาลฎีกาอีก ก็ไม่เป็นประโยชน์แก่คดีจำเลยอย่างใด เพราะศาลฎีกาไม่อาจจะพิพากษายกหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาของศาลชั้นต้นที่ถึงที่สุดเด็ดขาดแล้วนั้นได้ และฎีกาชะนิดนี้ไม่เป็นประเด็นในผลแห่งคดี ศาลฎีกาไม่จำต้องวินิจฉัย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 267/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่เป็นประโยชน์เมื่อคดีถึงที่สุดแล้ว แม้มีการอุทธรณ์คำสั่งชี้ขาดเบื้องต้น
จำเลยขอให้ศาลชี้ขาดปัญหาข้อกฎหมายเบื้องต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 24 ศาลชั้นต้นวินิจฉัยแล้วมีคำสั่งให้ยกคำขอของจำเลยเสีย จำเลยอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นต่อศาลอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นคงดำเนินการพิจารณาคดีต่อไปแล้วพิพากษาให้จำเลยแพ้คดี จำเลยมิได้อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นอีก ดังนี้ ถือว่าคดีย่อมถึงที่สุดเด็ดขาดตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นแล้ว เมื่อศาลอุทธรณ์ยืนตามคำสั่งศาลชั้นต้นที่ยกคำขอของจำเลยนั้น จำเลยฎีกาคำสั่งนั้นต่อศาลฎีกาอีก ก็ไม่เป็นประโยชน์แก่คดีจำเลยอย่างใด เพราะศาลฎีกาไม่อาจจะพิพากษายกหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาของศาลชั้นต้นที่ถึงที่สุดเด็ดขาดแล้วนั้นได้ และฎีกาชนิดนี้ไม่เป็นประเด็นในผลแห่งคดีศาลฎีกาไม่จำต้องวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 237/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่การนำสืบในคดีเรือชน และการทิ้งฟ้องอุทธรณ์: ศาลฎีกาชี้ขาดประเด็นการนำสืบและการดำเนินการทางกฎหมาย
ในเรื่องเรือใบกับเรือกลไฟชนกัน เมื่อเจ้าของเรือใบมาฟ้องเรียกค่าเสียหาย เป็นหน้าที่ของฝ่ายเรือกลไฟจะต้องนำสืบก่อนในข้อที่จะไม่ต้องรับผิด ส่วนจำนวนค่าเสียหายเป็นหน้าที่ของฝ่ายเรือใบจะต้องนำสืบก่อน
ในเรื่องเรือชนกัน เมื่อศาลชั้นต้นกะหน้าที่นำสืบก่อนหลังผิดไป และคู่ความได้นำสืบไปตามนั้นแล้ว แม้ฎีกาของคู่ความที่คัดค้านในข้อนี้ฟังขึ้น ศาลฎีกาก็ไม่ย้อนสำนวนให้สืบพยานกันใหม่
เพียงแต่ปรากฏว่า ผู้อุทธรณ์ไปนำเจ้าพนักงานส่งสำเนาฟ้องอุทธรณ์ให้แก่อีกฝ่ายหนึ่งเกินกำหนด 15 วันไป 4 วันนับแต่วันศาลสั่งรับอุทธรณ์นั้นยังไม่พอถือว่าทิ้งฟ้องอุทธรณ์อันถึงกับจะให้จำหน่ายคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 237/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่นำสืบในคดีเรือชน และการทิ้งฟ้องอุทธรณ์: ศาลฎีกาไม่ย้อนสำนวนหากสืบพยานสิ้นกระแสความแล้ว
(ประมวลแพ่งฯ ละเมิด วิธีพิจารณาความแพ่ง หน้าที่นำสืบ ทิ้งฟ้องอุทธรณ์)
ในเรื่องเรือใบกับเรือกลไฟชนกัน เมื่อเจ้าของเรือใบมาฟ้องเรียกค่าเสียหาย เป็นหน้าที่ของฝ่ายเรือกลไฟจะต้องนำสืบก่อนในข้อที่จะไม่ต้องรับผิด ส่วนจำนวนค่าเสียหายเป็นหน้าที่ของฝ่ายเรือใบจะต้องนำสืบก่อน
ในเรื่องเรือชนกัน เมื่อศาลชั้นต้นกะหน้าที่นำสืบก่อนหลังผิดไป และคู่ความได้นำสืบไปตามนั้นแล้ว แม้ฎีกาของคู่ความที่คัดค้านในข้อนี้ฟังขึ้น ศาลฎีกาก็ไม่ย้อนสำนวนให้สืบพะยานกันใหม่
เพียงแต่ปรากฏว่า ผู้อุทธรณ์ไปนำเจ้าพนักงานส่งสำเนาฟ้องอุทธรณ์ให้แก่อีกฝ่ายหนึ่งเกินกำหนด 15 วันไป 4 วัน นับแต่วันศาลสั่งรับอุทธรณ์นั้น ยังไม่พอถือว่าทิ้งฟ้องอุทธรณ์อันถึงกับจะให้จำหน่ายคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 67-68/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าตลอดอายุผู้ให้เช่าสิ้นสุดเมื่อผู้ให้เช่าถึงแก่กรรมและไม่ได้จดทะเบียนต่อ
สัญญาเช่าเรือน มีข้อความว่า ผู้ให้เช่าจะไม่ขึ้นราคาค่าเช่าและเรียกกลับคืนไม่ได้นั้น แม้จะถือว่าเป็นการเช่าตลอดอายุของผู้ให้เช่าก็ดี
เมื่อปรากฏว่าเช่ากันมาเกิน3 ปีแล้ว และผู้ให้เช่าคนเดิมก็ตายแล้ว และ การเช่าก็มิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ดังนี้ ผู้รับมฤดกมีสิทธิบอกเลิกสัญญา และฟ้องเรียกคืนได้
ในกรณีที่มีการฎีกาคัดค้านคำสั่งศาลชั้นต้น ที่ให้งดการบังคับคดีนั้น เมื่อศาลฎีกาพิพากษาให้จำเลยแพ้คดีแล้วก็ไม่จำต้องพิจารณาฎีกาคัดค้านคดีคำสั่งต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 67-68/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าตลอดอายุ ผู้ให้เช่าเดิมเสียชีวิต สัญญาไม่จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ผู้รับมรดกมีสิทธิบอกเลิกสัญญา
สัญญาเช่าเรือน มีข้อความว่าผู้ให้เช่าจะไม่ขึ้นราคาค่าเช่าและเรียกกลับคืนไม่ได้นั้น แม้จะถือว่าเป็นการเช่าตลอดอายุของผู้ให้เช่าก็ดีเมื่อปรากฏว่าเช่ากันมาเกิน 3 ปีแล้ว และผู้ให้เช่าคนเดิมก็ตายแล้วและการเช่าก็มิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ดังนี้ผู้รับมรดกมีสิทธิบอกเลิกสัญญาและฟ้องเรียกคืนได้
ในกรณีที่มีการฎีกาคัดค้านคำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้งดการบังคับคดีนั้นเมื่อศาลฎีกาพิพากษาให้จำเลยแพ้คดีแล้ว ก็ไม่จำต้องพิจารณาฎีกาคัดค้านคดีคำสั่งต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 124/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ: ใช้ราคาทางการสุดท้ายก่อนมีควบคุม แม้ตลาดมืดมีราคาต่าง
ในกรณีที่ไม่ปรากฎอัตราแลกเปลี่ยนเงินอันแน่นอนเพราะเหตุทางการห้ามการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศนั้น ต้องถือเอาอัตราแลกเปลี่ยนครั้งสุดท้ายที่ทางการกำหนดไว้ก่อนมีการควบคุม จะถือเอาอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันในตลาดมืดมาใช้ไม่ได้
ศาลชั้นต้นตัดสินให้จำเลยใช้เงินอัตรารูเปียละหนึ่งบาท จำเลยยอมไม่อุทธรณ์แม้ศาลอุทธรณ์จะเห็นว่าจำเลยควรต้องใช้น้อยกว่านี้ ก็ไม่อาจแก้ไขได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 124/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ: ใช้ราคาทางการล่าสุดก่อนมีกฎหมายควบคุม แม้มีการเปลี่ยนแปลงในตลาดมืด
ในกรณีที่ไม่ปรากฏอัตราแลกเปลี่ยนเงินอันแน่นอนเพราะเหตุทางการห้ามการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศนั้น ต้องถือเอาอัตราแลกเปลี่ยนครั้งสุดท้ายที่ทางการกำหนดไว้ก่อนมีการควบคุม จะถือเอาอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันในตลาดมืดมาใช้ไม่ได้
ศาลชั้นต้นตัดสินให้จำเลยใช้เงินในอัตรารูเปียละหนึ่งบาทจำเลยยอมไม่อุทธรณ์ แม้ศาลอุทธรณ์จะเห็นว่าจำเลยควรต้องใช้น้อยกว่านี้ ก็ไม่อาจแก้ไขได้
of 33