พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1736/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องอาญาโดยอ้างกฎหมายที่ถูกยกเลิกแล้ว ศาลฎีกามีอำนาจวินิจฉัยแม้ไม่มีการฎีกาในประเด็นนี้
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 295 ข้อ 2,4,56,83 แต่ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับดังกล่าวได้ถูกยกเลิกโดยพระราชบัญญัติทางหลวงพ.ศ. 2535 มาตรา 3 ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน 2535 เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องว่า เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2535 จำเลยได้กระทำความผิดและขอให้ลงโทษตาม ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับดังกล่าว จึงเท่ากับโจทก์ขอให้ ลงโทษ ตามกฎหมายที่ถูกยกเลิกแล้วซึ่งมีผลเท่ากับโจทก์ไม่ได้อ้างกฎหมายอันใดมาเลย ไม่ใช่เรื่องอ้างบทกฎหมายผิด ศาลจะ พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตาประกาศของคณะปฏิวัติฉบับดังกล่าว ไม่ได้ ปัญหานี้เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจหยิบยกขึ้น วินิจฉัยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195,225
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4870/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรทุกเกินน้ำหนักทำลายทางหลวงและเศรษฐกิจของชาติ ศาลพิพากษาให้ริบรถ
รถยนต์บรรทุกของกลางบรรทุกดิน มีน้ำหนักรถและน้ำหนักบรรทุกรวม 29,300 กิโลกรัม เกินกว่าอัตราที่กำหนดไว้ถึง 8,300 กิโลกรัมนับได้ว่ามีน้ำหนักเกินอัตราจำนวนมาก เป็นการทำความเสียหายแก่ทางหลวงจังหวัดอันเป็นทางสัญจรไปมาของประชาชน ทั้งมีผลเป็นการทำลายเศรษฐกิจของชาติ จึงเป็นทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำความผิดอันควรริบ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4791/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้สิทธิทางศาลโดยไม่สุจริตของผู้ให้เช่าซื้อ กรณีสัญญาเช่าซื้อระบุความรับผิดของผู้เช่าซื้อต่อความเสียหายหรือสูญหายของทรัพย์สิน
ช. ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์บรรทุกของกลางกับผู้ร้อง เมื่อช.ผิดสัญญาผู้ร้องก็ให้ช. ทำสัญญาเช่าซื้อใหม่ หลังจากนั้นชง ก็ผิดสัญญาอีก และสัญญาก็ระบุไว้ทำนองว่า ไม่ว่ารถยนต์บรรทุกของกลางจะเกิดความเสียหายหรือสูญหายไปด้วยประการใด ผู้เช่าซื้อก็ต้องชำระหนี้เท่ากับค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระ แสดงว่าผู้ร้องประสงค์จะได้ค่าเช่าซื้อเท่านั้น ผู้ร้องไม่ประสงค์จะยึดรถยนต์บรรทุกของกลางคืนเมื่อ ช. ผิดสัญญาพฤติการณ์เช่นนี้เห็นได้ว่าผู้ร้องร้องขอคืนของกลางเพื่อประโยชน์ของ ช. แต่ฝ่ายเดียวจึงเป็นการใช้สิทธิทางศาลโดยไม่สุจริต แม้ขณะเกิดเหตุผู้ร้องยังคงเป็นเจ้าของรถยนต์บรรทุกของกลาง แต่ผู้ร้องก็ไม่มีพยานมาสืบว่า ผู้ร้องและ ช. มิได้รู้เห็นเป็นใจในการที่จำเลยใช้รถยนต์บรรทุกของกลางกระทำผิด ซึ่งผู้ร้องมีหน้าที่ต้องพิสูจน์ให้ได้ความดังกล่าวผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิขอคืนรถยนต์บรรทุกของกลาง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1327/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
น้ำหนักบรรทุกเกินกำหนดก่อความเสียหายร้ายแรง ไม่รอการลงโทษและริบรถ
การที่จำเลยนำรถยนต์บรรทุกของกลาง ซึ่ง มีน้ำหนักบรรทุกเกินกว่าที่ทางราชการกำหนดถึง 5,800 กิโลกรัม มาเดิน บนทางหลวงแผ่นดิน นอกจากจะทำความเสียหายแก่ทางสัญจรไปมาของประชาชน ทำให้ต้อง สิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดินในการบูรณะซ่อมแซม อันมีผลเป็นการทำลายเศรษฐกิจของชาติโดย ส่วนรวมแล้วก็ยังอาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อ ผู้ขับขี่ยานพาหนะอื่นอีกด้วย ทั้งจำเลยกระทำความผิดเพื่อแสวงหาประโยชน์ส่วนตัวโดยไม่คำนึงถึง ความสูญเสียที่จะเกิดตาม มา จึงไม่มีเหตุที่จะรอการลงโทษให้จำเลย และไม่มีเหตุที่จะไม่ริบรถยนต์บรรทุกของกลางที่จำเลยใช้ กระทำความผิด.