พบผลลัพธ์ทั้งหมด 219 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 288/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งทรัพย์มรดกตามพินัยกรรม และการโอนสิทธิในมรดก
ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินให้แก่บุคคลหลายคนเป็นผู้รับเมื่อเจ้ามรดกตายสิทธิในทรัพย์ย่อมตกได้แก่ผู้รับพินัยกรรม
บรรดาผู้รับพินัยกรรมจึงได้ชื่อว่า เป็นเจ้าของร่วมในทรัพย์มรดกฉะนั้นการที่ผู้รับพินัยกรรมคนหนึ่งจัดการเรียกร้องทรัพย์มรดกได้มาจากบุคคลอื่นแล้วจะกีดกันเอาไว้แต่ผู้เดียวมิได้ จำต้องแบ่งกันระหว่างผู้รับพินัยกรรมตามส่วน
ผู้รับพินัยกรรมคนหนึ่งทำหนังสือยอมมอบสิทธิการรับทรัพย์มรดกตามพินัยกรรมของตน ซึ่งตกอยู่กับผู้รับมรดกอีกคนหนึ่งให้แก่ผู้รับพินัยกรรมอีกคนหนึ่ง นั้น มิใช่เป็นการสละมรดก และการโอนเช่นนี้ถือว่าใช้ได้ ผู้รับโอนย่อมมีสิทธิฟ้องเรียกมรดกส่วนที่โอนนั้นจากผู้ยึดถือทรัพย์มรดกนั้นอยู่ได้
บรรดาผู้รับพินัยกรรมจึงได้ชื่อว่า เป็นเจ้าของร่วมในทรัพย์มรดกฉะนั้นการที่ผู้รับพินัยกรรมคนหนึ่งจัดการเรียกร้องทรัพย์มรดกได้มาจากบุคคลอื่นแล้วจะกีดกันเอาไว้แต่ผู้เดียวมิได้ จำต้องแบ่งกันระหว่างผู้รับพินัยกรรมตามส่วน
ผู้รับพินัยกรรมคนหนึ่งทำหนังสือยอมมอบสิทธิการรับทรัพย์มรดกตามพินัยกรรมของตน ซึ่งตกอยู่กับผู้รับมรดกอีกคนหนึ่งให้แก่ผู้รับพินัยกรรมอีกคนหนึ่ง นั้น มิใช่เป็นการสละมรดก และการโอนเช่นนี้ถือว่าใช้ได้ ผู้รับโอนย่อมมีสิทธิฟ้องเรียกมรดกส่วนที่โอนนั้นจากผู้ยึดถือทรัพย์มรดกนั้นอยู่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 242/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของร่วมมรดกมีอำนาจฟ้องแย่งกรรมสิทธิ แม้ทายาทอื่นมิได้ร่วมฟ้อง
โจทก์ฟ้องอ้างว่า ที่ดินพิพาทเป็นมรดกตกได้แก่โจทก์และทายาทอีกคนหนึ่ง จำเลยคิดแย่งกรรมสิทธิ โจทก์จึงขอให้ขับไล่จำเลยและขอให้ศาลแสดงกรรมสิทธิในที่พิพาทดังนี้ แม้ทายาทนั้นจะไม่ได้มาร่วมเป็นโจทก์ด้วย โจทก์ก็ยังเป็นผู้รับมรดกและเป็นเจ้าของร่วมในที่ดินพิพาท จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยได้ ฝ่ายจำเลยไม่มีอำนาจอะไรเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 242/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีแย่งกรรมสิทธิ์ในที่ดินมรดก เจ้าของร่วมมีสิทธิฟ้อง แม้ทายาทอื่นไม่ร่วมฟ้อง
โจทก์ฟ้องอ้างว่า ที่ดินพิพาทเป็นมรดกตกได้แก่โจทก์และทายาทอีกคนหนึ่ง จำเลยคิดแย่งกรรมสิทธิ์ โจทก์จึงขอให้ขับไล่จำเลยและขอให้ศาลแสดงกรรมสิทธิ์ในที่พิพาทดังนี้แม้ทายาทนั้นจะไม่ได้มาร่วมเป็นโจทก์ด้วยโจทก์ก็ยังเป็นผู้รับมรดกและเป็นเจ้าของร่วมในที่ดินพิพาทจึงมีอำนาจฟ้องจำเลยได้ ฝ่ายจำเลยไม่มีอำนาจอะไรเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1460/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อที่ดินร่วมกับเงื่อนไขการโอน และผลกระทบต่อสิทธิเจ้าของเมื่อมีการโอนโดยไม่สุจริต
โจทก์ออกเงินซื้อที่ดินร่วมกับจำเลยโดยมีเงื่อนไขว่า เมื่อสามีโจทก์แปลงชาติเป็นไทยได้เรียกร้อยแล้ว จำเลยจะโอนโฉนดใส่ชื่อโจทก์ร่วมด้วย ดังนี้หาเป็นสัญญาที่ผิดกฎหมายไม่และต่อมาเมื่อสามีโจทก์แปลงชาติเป็นไทยได้เรียบร้อยแล้ว จำเลยก็ต้องปฏิบัติตามสัญญานั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1460/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อที่ดินร่วมกับเงื่อนไขการโอนสิทธิ - การโอนโดยไม่สุจริตไม่กระทบสิทธิเจ้าของร่วม
โจทก์ออกเงินซื้อที่ดินร่วมกับจำเลยโดยมีเงื่อนไขว่า เมื่อสามีโจทก์แปลงชาติเป็นไทยได้เรียบร้อยแล้ว จำเลยจะโอนโฉนดใส่ชื่อโจทก์ร่วมด้วย ดังนี้ หาเป็นสัญญาที่ผิดกฎหมายไม่ และต่อมาเมื่อสามีโจทก์แปลงชาติเป็นไทยได้เรียบร้อยแล้ว จำเลยก็ต้องปฏิบัติตามสัญญานั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1127/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลและการพิพาทกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน: คดีเกินอำนาจศาลแขวงเนื่องจากราคาเกินเกณฑ์
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากเรือนพิพาทโดยอ้างว่าเป็นของบิดา บิดาตาย จึงเป็นมรดกตกได้แก่โจทก์ จำเลยต่อสู้ว่า โรงเรือนพิพาทไม่ใช่ของบิดาโจทก์เป็นโรงเรือนที่จำเลยร่วมกับผู้มีชื่อออกเงินทุนสร้างขึ้นเป็นสถานกุศลกิจดังนี้ เป็นคดีพิพาทกันเรื่องกรรมสิทธิ์ในโรงเรือนพิพาทนั้น เมื่อโรงเรือนพิพาทมีราคาถึง 6000 บาท คดีก็เกินอำนาจผู้พิพากษานายเดียวจะพิจารณาพิพากษาได้
โจทก์ฟ้องคดีเกินอำนาจศาลแขวงต่อศาลแขวง แม้จำเลยจะไม่ได้ยกอำนาจศาลขึ้นต่อสู้ไว้ในศาลแขวงนั้น ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับอำนาจศาลตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรมเป็นเรื่องเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จะไม่มีฝ่ายใดยกขึ้นว่ากล่าวศาลสูงก็หยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้
โจทก์ฟ้องคดีเกินอำนาจศาลแขวงต่อศาลแขวง แม้จำเลยจะไม่ได้ยกอำนาจศาลขึ้นต่อสู้ไว้ในศาลแขวงนั้น ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับอำนาจศาลตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรมเป็นเรื่องเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จะไม่มีฝ่ายใดยกขึ้นว่ากล่าวศาลสูงก็หยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1766-1767/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายมรดกที่ยังไม่ได้แบ่งปันเป็นโมฆะ ศาลไม่บังคับสัญญาได้
มฤดกซึ่งยังมิได้แบ่งปันกันระหว่างทายาท ทายาทคนใดคนหนึ่งจะเอาไปขายมิได้ หากไปตกลงขาย ก็ถือว่าทำไปโดยไม่มีสิทธิ ศาลบังคับตามสัญญามิได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1766-1767/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
มรดกยังไม่แบ่งแยก ทายาทคนใดคนหนึ่งขายไม่ได้ สัญญาไม่ผูกพัน
มรดกซึ่งยังมิได้แบ่งปันกันระหว่างทายาท ทายาทคนใดคนหนึ่งจะเอาไปขายมิได้ หากไปตกลงขาย ก็ถือว่าทำไปโดยไม่มีสิทธิ ศาลบังคับตามสัญญามิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1546/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองมรดก: สิทธิการครอบครองร่วมในที่ดินมรดกเป็นอุปสรรคต่อการฟ้องขับไล่
ที่ดินบ้านเรือนเป็นมรดกตกได้แก่โจทก์และจำเลย โจทก์ไปขอโอนโฉนดรับมรดก ฝ่ายจำเลยขอลงชื่อด้วย แต่เจ้าพนักงานขัดข้องและจำเลยครอบครองที่ดินตลอดมา เช่นนี้โจทก์จะฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากที่หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1546/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
มรดกตกทอดและการครอบครองที่ดินร่วม: สิทธิการครอบครองย่อมมีผลแม้เป็นผู้รับมรดกส่วนหนึ่ง
ที่ดินบ้านเรือนเป็นมฤดกตกได้แก่โจทก์และจำเลย โจทก์ไปขอโอนโฉนดรับมฤดก ฝ่ายจำเลยขอลงชื่อด้วย แต่เจ้าพนักงานขัดข้องและจำเลยครอบครองที่ดินตลอดมา เช่นนี้โจทก์จะฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากที่หาได้ไม่