พบผลลัพธ์ทั้งหมด 219 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1282/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งทรัพย์สินร่วมกัน โดยพิจารณาการครอบครองเป็นส่วนสัดและการใช้ประโยชน์ร่วมกัน
โจทก์ฟ้องว่าเป็นเจ้าของที่พิพาทร่วมกับจำเลย ขอให้ศาลแบ่งครึ่งระหว่างโจทก์จำเลย จำเลยว่าได้ปกครองเป็นส่วนสัดขอให้แบ่งตามส่วนที่ปกครองมา ศาลฎีกาเห็นว่าในที่พิพาทมีทั้งที่ ที่ปลูกบ้านและที่สวนสำหรับที่บ้านโจทก์จำเลยปกครองเป็นส่วนสัดกันมาต้องแบ่งตามที่ปกครองโดยถือลำคูเป็นเขต ส่วนที่สวนหลังบ้านต่างยังปกครองร่วมกันอยู่ ฉะนั้นส่วนในการเป็นเจ้าของ ของโจทก์จำเลยยังคงมีอยู่คนละครึ่งในที่ดินพิพาททั้งแปลงนั้น จึงให้แบ่งให้โจทก์จำเลยคนละเท่าๆกัน โดยให้ถือแนวกลางอู่หรือคู จากคลองยืนขึ้นมาทางเหนือแล้วหักมุมตามแนวกลางคูหรือร่องสวนไปทางทิศตะวันออกจนถึงจุด จุดหนึ่ง ซึ่งเมื่อลากเส้นขนานกับเขตที่ดินด้านทิศตะวันตกจากจุดนั้นไปทางทิศเหนือ จนจดเขตทางด้านทิศเหนือแล้ว ที่ดินทั้งสองจะมีเนื้อที่แปลงละ 3 งาน 46 วา 2 ศอก หรือครึ่งหนึ่งของจำนวนเนื้อที่ทั้งหมดเท่าๆกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1282/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งทรัพย์สินร่วมกัน โดยพิจารณาการครอบครองเป็นส่วนสัดและการใช้ประโยชน์ร่วมกัน
โจทก์ฟ้องว่าเป็นเจ้าของที่พิพาทร่วมกับจำเลย ขอให้ศาลแบ่งครึ่งระหว่างโจทก์, จำเลย ๆ ว่าได้ปกครองเป็นส่วนสัดขอให้แบ่งตามส่วนที่ปกครองมา ศาลฎีกาเห็นว่าในที่พิพาทมีทั้งที่ ๆ ปลูกบ้าน และที่สวน สำหรับที่บ้านโจทก์,จำเลยปกครองเป็นส่วนสัดกันมาต้องแบ่งตามที่ปกครอง โดยถือลำคูเป็นเขตต์ ส่วนที่สวนหลังบ้านต่างยังปกครองร่วมกันอยู่ ฉะนั้นส่วนในการเป็นเจ้าของๆ โจทก์จำเลยยังคงมีอยู่คนละครึ่งในที่ดินพิพาททั้งแปลงนั้น จึงให้แบ่งให้โจทก์,จำเลยคนละเท่า ๆ กัน โดยให้ถือแนวกลางอู่หรือคู จากคลองยืนขึ้นมาทางเหนือแล้วหักมุมตามแนวกลางคู หรือร่องสวนไปทางทิศตะวันออกจนถึงจุด ๆ หนึ่ง ซึ่งเมื่อลากเส้นขนานกับเขตต์ที่ดินด้านทิศตะวันตกจากจุดนั้นไปทางทิศเหนือ จนจดเขตต์ทางด้านทิศเหนือแล้ว ที่ดินทั้งสองจะมีเนื้อที่แปลงละ 3 งาน 46 วา 2 ศอก หรือครึ่งหนึ่งของจำนวนเนื้อที่ทั้งหมดเท่า ๆกัน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1033/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทรัพย์สินที่ได้มาจากการร่วมแรงร่วมทุน: สิทธิในการแบ่งทรัพย์สินเมื่อไม่ได้จดทะเบียนสมรส
โจทก์ฟ้องเรียกทรัพย์ของมารดาโจทก์จากจำเลยซึ่งเป็นสามีของมารดาโจทก์โดยไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน เมื่อปรากฏว่าทรัพย์เหล่านั้นไม่ใช่เป็นทรัพย์ที่จำเลยร่วมแรงร่วมทุนกับมารดาโจทก์หาได้มา จำเลยก็ไม่มีสิทธิจะเรียกให้แบ่งได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 963/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทรัพย์มฤดกที่จำเลยครอบครองแทนทายาท ไม่ถือเป็นทรัพย์สินของจำเลย ศาลต้องถอนการยึด
ทรัพย์ที่ศาลสั่งยึดปรากฎว่าเป็นทรัพย์มฤดกของภรรยาจำเลย ซึ่งได้รับมฤดกมาจากบิดามารดา ร่วมกับทายาทคนอื่น ๆ แต่ทายาทได้มอบให้จำเลยกับภริยาครอบครองแทนทำได้ผลประโยชน์ก็แบ่งปันกัน ดังนี้ หาเป็นทรัพย์ของจำเลยไม่ ศาลต้องถอนการยึด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 963/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทรัพย์มรดกที่ครอบครองแทนกัน การยึดทรัพย์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ทรัพย์ที่ศาลสั่งยึดปรากฏว่าเป็นทรัพย์มรดกของภรรยาจำเลยซึ่งได้รับมรดกมาจากบิดามารดา ร่วมกับทายาทคนอื่นๆ แต่ทายาทได้มอบให้จำเลยกับภริยาครอบครองแทนทำได้ผลประโยชน์ก็แบ่งปันกัน ดังนี้ หาเป็นทรัพย์ของจำเลยไม่ ศาลต้องถอนการยึด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 750/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการแบ่งทรัพย์สินร่วม กรณีฟ้องขอแบ่งที่ดิน ศาลต้องพิพากษาภายในส่วนแบ่งที่โจทก์ขอ
โจทก์ฟ้องกล่าวว่า โจทก์กับจำเลยปกครองที่ดินร่วมกันมา บัดนี้จำเลยจะเอาที่ดินเสียผู้เดียว จึงขอให้จำเลยส่งโฉนดมาทำการแบ่งแยกตามส่วนครึ่งหนึ่ง หากแบ่งแยกไม่ตกลง ก็ขอให้ประมูลราคาหรือขายทอดตลาดแบ่งเงินกัน ชั้นพิจารณาโจทก์นำสืบว่า โจทก์จำเลยต่างปกครองเป็นส่วนสัดกัน ดังนี้ ไม่เป็นการนำสืบนอกฟ้องนอกประเด็น
โจทก์ฟ้องขอแบ่งที่พิพาทแต่เพียงครึ่งหนึ่ง ถ้าทางพิจารณาได้ความว่า โจทก์มีกรรมสิทธิ์อยู่ในที่พิพาทจริง ศาลก็พิพากษาให้ที่ดินพิพาทไม่เกินครึ่งหนึ่งเป็นของโจทก์ได้ ไม่ผิดจากฟ้อง หรือเกินคำขอ
ศาลชั้นต้นพิพากษาชี้ขาดเลยจากคำขอท้ายฟ้องของโจทก์หรืออย่างไรนั้น ศาลอุทธรณ์มีอำนาจที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขเสียให้ถูกต้องได้
โจทก์ฟ้องขอแบ่งที่พิพาทแต่เพียงครึ่งหนึ่ง ถ้าทางพิจารณาได้ความว่า โจทก์มีกรรมสิทธิ์อยู่ในที่พิพาทจริง ศาลก็พิพากษาให้ที่ดินพิพาทไม่เกินครึ่งหนึ่งเป็นของโจทก์ได้ ไม่ผิดจากฟ้อง หรือเกินคำขอ
ศาลชั้นต้นพิพากษาชี้ขาดเลยจากคำขอท้ายฟ้องของโจทก์หรืออย่างไรนั้น ศาลอุทธรณ์มีอำนาจที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขเสียให้ถูกต้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 632/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทรัพย์สินระหว่างคู่ไม่สมรสตามกฎหมาย: ถือเป็นกรรมสิทธิ์ร่วม มิใช่สินสมรส ศาลสั่งคืนได้
ทรัพย์สินของสามีภริยาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายต้องถือหลักกรรมสิทธิ์ร่วม
โจทก์เป็นมารดาผู้ตายฟ้องขอแบ่งทรัพย์มรดกของผู้ตายจากจำเลยเมื่อฟังว่าจำเลยและผู้ตายไม่ใช่สามีภริยาโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยก็ไม่มีสิทธิในทรัพย์มรดกของผู้ตาย ศาลย่อมสั่งให้จำเลยคืนทรัพย์มรดกของผู้ตายให้แก่โจทก์ได้ ไม่เป็นการนอกฟ้องนอกประเด็นอย่างไร
ในประเด็นที่ศาลชั้นต้นชี้ขาดให้เป็นโทษแก่โจทก์แล้วโจทก์พอใจไม่อุทธรณ์ จำเลยอุทธรณ์แต่ไม่ได้อุทธรณ์ในประเด็นข้อนั้น แต่อุทธรณ์ในประเด็นข้ออื่น ดังนี้ศาลอุทธรณ์จะกลับไปชี้ขาดในประเด็นข้อนั้นให้เป็นโทษแก่จำเลยไม่ได้
โจทก์เป็นมารดาผู้ตายฟ้องขอแบ่งทรัพย์มรดกของผู้ตายจากจำเลยเมื่อฟังว่าจำเลยและผู้ตายไม่ใช่สามีภริยาโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยก็ไม่มีสิทธิในทรัพย์มรดกของผู้ตาย ศาลย่อมสั่งให้จำเลยคืนทรัพย์มรดกของผู้ตายให้แก่โจทก์ได้ ไม่เป็นการนอกฟ้องนอกประเด็นอย่างไร
ในประเด็นที่ศาลชั้นต้นชี้ขาดให้เป็นโทษแก่โจทก์แล้วโจทก์พอใจไม่อุทธรณ์ จำเลยอุทธรณ์แต่ไม่ได้อุทธรณ์ในประเด็นข้อนั้น แต่อุทธรณ์ในประเด็นข้ออื่น ดังนี้ศาลอุทธรณ์จะกลับไปชี้ขาดในประเด็นข้อนั้นให้เป็นโทษแก่จำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 17/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายเรือนเพื่อรื้อถอน ไม่ต้องจดทะเบียนก็สมบูรณ์ หากผู้ซื้อสุจริตและเจ้าของร่วมยินยอม
ซื้อเรือนเพื่อรื้อไป ไม่จำต้องทำสัญญาจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก็สมบูรณ์
เจ้าของร่วมคนหนึ่งทำสัญญาขายทรัพย์ให้แก่เขา เขาซื้อไว้โดยสุจริตเมื่อปรากฏว่าเจ้าของร่วมคนอื่นๆ ได้รู้เห็นยินยอมในการซื้อขายนั้นด้วยการซื้อขายย่อมสมบูรณ์และผู้ซื้อได้ทรัพย์นั้นเป็นกรรมสิทธิ์
เจ้าของร่วมคนหนึ่งทำสัญญาขายทรัพย์ให้แก่เขา เขาซื้อไว้โดยสุจริตเมื่อปรากฏว่าเจ้าของร่วมคนอื่นๆ ได้รู้เห็นยินยอมในการซื้อขายนั้นด้วยการซื้อขายย่อมสมบูรณ์และผู้ซื้อได้ทรัพย์นั้นเป็นกรรมสิทธิ์