พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3311/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบวกโทษคดีอาญาที่รอการลงโทษและการตีความ 'ผู้ต้องโทษ' ตาม พ.ร.บ.ล้างมลทิน
ขณะที่จำเลยกับผู้ตายโต้เถียง กันอยู่นั้น จำเลยได้ใช้มีดแทงผู้ตาย 1 ที ส่วนที่ผู้ตายใช้เหล็กตีศีรษะจำเลยนั้น ตีหลังจากที่จำเลยแทงผู้ตายแล้ว ดังนั้นขณะที่จำเลยแทงผู้ตายไม่มีภยันตรายที่จำเลยจะต้องป้องกัน การกระทำของจำเลยไม่เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย พ.ร.บ. ล้างมลทินในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีพระชนมพรรษา60 พรรษาฯ มาตรา 4 บัญญัติว่า "ให้ล้างมลทินให้แก่บรรดาผู้ต้องโทษในกรณีความผิดต่าง ๆ ซึ่งได้กระทำก่อนหรือในวันที่ 5 ธันวาคมพ.ศ. 2530 และได้พ้นโทษไปแล้วก่อนหรือในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับหรือซึ่งได้พ้นโทษไปโดยผลแห่งพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. 2530 โดยให้ถือว่าผู้นั้นมิได้เคยถูกลงโทษในกรณีความผิดนั้น ๆ" และมาตรา 3 ได้ให้ความหมายของคำว่า"ผู้ต้องโทษ" ไว้ว่า "หมายความว่า ผู้ต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลให้ลงโทษหรือให้กักกัน..." ศาลพิพากษาให้รอการลงโทษจำเลยไว้มีกำหนด 2 ปี โดยพิพากษาเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2528 การที่ศาลกำหนดโทษจำคุกแต่รอการลงโทษไว้เท่ากับจำเลยยังมิได้รับโทษจำคุกมาก่อน จำเลยจึงมิใช่ "ผู้ต้องโทษ" ตามความหมายของมาตรา 3,4แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว และไม่ได้รับผลตามพระราชบัญญัตินี้ศาลจึงนำโทษจำคุกที่รอไว้มาบวกกับโทษในคดีนี้ได้.