พบผลลัพธ์ทั้งหมด 5 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4180/2539
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมายและการใช้ดุลพินิจในการลงโทษคดีอาวุธปืน
ขณะผู้เสียหายทั้งแปดยืนรอขึ้นรถโดยสารประจำทาง อ. กับจำเลยที่1และที่2มาพบผู้เสียหายที่1 อ. ซึ่งรู้จักกับผู้เสียหายที่1ได้เข้าถามหาเพื่อนคนหนึ่งแล้วไม่พอใจคำตอบของผู้เสียหายที่1จึงเกิดการโต้เถียงและเข้าต่อยใบหน้าของผู้เสียหายที่1แต่ไม่ถูกขณะนั้นจำเลยที่1ก็ยืนอยู่พวกของผู้เสียหายคนหนึ่งถือมีดดาบยาวประมาณครึ่งเมตรชูขึ้นเหนือศีรษะวิ่งตรงเข้าจะช่วยผู้เสียหายที่1จำเลยที่1และที่2จึงชักอาวุธปืนลูกซองสั้นและยิงลงไปที่พื้นดินคนละนัดก็เพื่อยับยั้งไม่ให้เพื่อนของผู้เสียหายที่1ใช้มีดฟัน อ. หรือจำเลยทั้งสองเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายแม้กระสุนปืนที่จำเลยที่1ยิงไปจะกระทบพื้นดินและแผ่กระจายถูกผู้เสียหายทั้งแปดจนได้รับอันตรายแก่กายจำเลยที่1ก็ไม่มีความผิดฐานพยายามฆ่าหรือทำร้ายร่างกายผู้อื่น จำเลยที่1ฎีกาโต้เถียงดุลพินิจในการลงโทษของศาลเป็นปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา218วรรคแรกแม้จำเลยที่1จะฎีกาได้เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายหากศาลฎีกาเห็นว่าศาลล่างลงโทษจำเลยที่1หนักเกินไปย่อมมีอำนาจที่จะพิพากษาลงโทษจำเลยที่1ให้เหมาะสมแก่ความผิดได้โดยให้รอการลงโทษแต่ให้ลงโทษปรับและกำหนดเงื่อนไขเพื่อคุมความประพฤติด้วย กรณีที่ศาลล่างปรับบทมาตราผิดศาลสูงย่อมมีอำนาจแก้ไขให้ถูกต้องได้แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดหยิบยกขึ้นว่ากล่าวก็ตาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1729/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อาวุธปืนไม่มีสภาพใช้งานได้ ก็ยังถือเป็นอาวุธปืนตามกฎหมาย
ปืนของกลางแม้มีสภาพเก่า ลำกล้องมีสนิมขึ้นไม่สามารถใช้ยิงได้ และบางกระบอกไม่มีด้ามปืนก็ตาม ก็ถือเป็น "อาวุธปืน"ตามความหมายแห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 4(1)ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 3)พ.ศ. 2501 มาตรา 3 ดังนั้น การที่จำเลยมีอาวุธปืนของกลางไว้ในความครอบครอง จึงมีความผิดฐานมีอาวุธปืนไม่มีทะเบียนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1294/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แจ้งความเท็จเกี่ยวกับอาวุธปืนและบทลงโทษที่ถูกต้องตามประมวลกฎหมายอาญา
ในชั้นอุทธรณ์จำเลยอุทธรณ์ว่ามิได้กระทำความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตขึ้นมาด้วยแต่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 มิได้วินิจฉัยปัญหาข้อนี้ แม้ศาลอุทธรณ์ภาค 2ยังมิได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงตามอุทธรณ์ของจำเลย แต่เมื่อโจทก์จำเลยสืบพยานมาจนสิ้นกระแสความแล้ว ศาลฎีกามีอำนาจวินิจฉัยข้อเท็จจริงไปได้ โดยไม่ต้องย้อนสำนวนให้ศาลอุทธรณ์ภาค 2วินิจฉัยก่อน จำเลยแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวนซึ่งอาจทำให้ผู้เสียหายได้รับความเสียหายเพื่อแกล้งให้ผู้เสียหายต้องรับโทษ เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 172 ประกอบ มาตรา 174 วรรคสอง ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยว่าผิดมาตรา 172,181(1) แล้วลงโทษตาม มาตรา 181(1) ไม่ถูกต้องเพราะคำว่า "เป็นการกระทำในกรณีแห่งข้อหาว่า ผู้ใดกระทำความผิดที่มีระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีขึ้นไป" ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 181(1) หมายความว่ากรณีแห่งข้อหาว่าผู้ใดกระทำความผิดจะต้องมีอัตราโทษขั้นต่ำจำคุกสามปี แต่คดีนี้จำเลยแจ้งความเท็จว่าผู้เสียหายมีและพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตซึ่งมีระวางโทษจำคุก ตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี โทษขั้นต่ำไม่ถึงสามปี จำเลยจึงไม่ผิดมาตรา 181(1) แม้โจทก์จำเลยไม่ได้อุทธรณ์ฎีกาในปัญหานี้ แต่เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกาปรับบทการลงโทษจำเลยให้ถูกต้อง โดยไม่กำหนดโทษให้สูงขึ้นอีกได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4955/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นฎีกาเกินกำหนด, เหตุสุดวิสัย, และการวางโทษอาวุธปืนที่ซ้ำซ้อน
จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นรับฎีกาภายหลังระยะเวลาที่จะยื่นฎีกาได้สิ้นสุดลงแล้ว ดังนี้ จำเลยมีสิทธิจะขอขยายระยะเวลายื่นฎีกาได้เฉพาะกรณีที่มีเหตุสุดวิสัยเท่านั้น แต่พฤติการณ์ตามคำร้องของจำเลยที่อ้างว่า จำเลยไม่เข้าใจขั้นตอนต่าง ๆ ในการต่อสู้คดีว่าจำเลยมีสิทธิที่จะยื่นฎีกาภายใน 1 เดือน นับแต่วันที่อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ทนายจำเลยเพิ่งทราบว่าศาลชั้นต้นได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาฎีกาแล้วจำเลยไม่มีเจตนาที่จะไม่ยื่นฎีกาภายในกำหนดระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดนั้น ไม่ใช่กรณีที่มีเหตุสุดวิสัย จึงไม่เข้าเกณฑ์ที่จำเลยจะขอขยายระยะเวลาได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยมีมอร์ฟีน โคเคอีน และฝิ่นไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายในวาระเดียวกัน แม้วัตถุแห่งการกระทำความผิดจะต่างชนิดกัน แต่ต่างเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 2การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียว จำเลยมีอาวุธปืนลูกซองพร้อมกระสุนปืนลูกซองและกระสุนปืนขนาด .32 ไว้ในครอบครองเป็นกรรมเดียวกัน แต่ศาลล่างทั้งสองวางโทษ 2 กระทง จึงไม่ชอบ แม้จำเลยมิได้อุทธรณ์และฎีกาปัญหาข้อนี้แต่ปัญหานี้เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกาจึงวางโทษเสียใหม่ให้ถูกต้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4955/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นฎีกาเกินกำหนด & ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและอาวุธปืน: ศาลฎีกาไม่รับฎีกาเนื่องจากเหตุสุดวิสัยไม่สมเหตุผล & วางโทษอาวุธปืนใหม่
จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นรับฎีกาภายหลังระยะเวลาที่จะยื่นฎีกาได้สิ้นสุดลงแล้ว ดังนี้ จำเลยมีสิทธิจะขอขยายระยะเวลายื่นฎีกาได้เฉพาะกรณีที่มีเหตุสุดวิสัยเท่านั้น แต่พฤติการณ์ตามคำร้องของจำเลยที่อ้างว่า จำเลยไม่เข้าใจขั้นตอนต่าง ๆ ในการต่อสู้คดีว่าจำเลยมีสิทธิที่จะยื่นฎีกาภายใน 1 เดือน นับแต่วันที่อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ทนายจำเลยเพิ่งทราบว่าศาลชั้นต้นได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาฎีกาแล้วจำเลย ไม่มีเจตนาที่จะไม่ยื่นฎีกาภายในกำหนดระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดนั้น ไม่ใช่กรณีที่มีเหตุสุดวิสัย จึงไม่เข้าเกณฑ์ที่จำเลยจะขอขยายระยะเวลาได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยมีมอร์ฟีน โคเคอีน และฝิ่นไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายในวาระเดียวกัน แม้วัตถุแห่งการกระทำความผิดจะต่างชนิดกัน แต่ต่างเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 2การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียว
จำเลยมีอาวุธปืนลูกซองพร้อมกระสุนปืนลูกซองและกระสุนปืนขนาด .32 ไว้ในครอบครองเป็นกรรมเดียวกัน แต่ศาลล่างทั้งสองวางโทษ 2 กระทง จึงไม่ชอบ แม้จำเลยมิได้อุทธรณ์และฎีกาปัญหาข้อนี้แต่ปัญหานี้เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกาจึงวางโทษเสียใหม่ให้ถูกต้อง.
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยมีมอร์ฟีน โคเคอีน และฝิ่นไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายในวาระเดียวกัน แม้วัตถุแห่งการกระทำความผิดจะต่างชนิดกัน แต่ต่างเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 2การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียว
จำเลยมีอาวุธปืนลูกซองพร้อมกระสุนปืนลูกซองและกระสุนปืนขนาด .32 ไว้ในครอบครองเป็นกรรมเดียวกัน แต่ศาลล่างทั้งสองวางโทษ 2 กระทง จึงไม่ชอบ แม้จำเลยมิได้อุทธรณ์และฎีกาปัญหาข้อนี้แต่ปัญหานี้เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกาจึงวางโทษเสียใหม่ให้ถูกต้อง.