คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 1359

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 163 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 288/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งทรัพย์มรดกตามพินัยกรรม และการโอนสิทธิในมรดก
ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินให้แก่บุคคลหลายคนเป็นผู้รับเมื่อเจ้ามรดกตายสิทธิในทรัพย์ย่อมตกได้แก่ผู้รับพินัยกรรม
บรรดาผู้รับพินัยกรรมจึงได้ชื่อว่า เป็นเจ้าของร่วมในทรัพย์มรดกฉะนั้นการที่ผู้รับพินัยกรรมคนหนึ่งจัดการเรียกร้องทรัพย์มรดกได้มาจากบุคคลอื่นแล้วจะกีดกันเอาไว้แต่ผู้เดียวมิได้ จำต้องแบ่งกันระหว่างผู้รับพินัยกรรมตามส่วน
ผู้รับพินัยกรรมคนหนึ่งทำหนังสือยอมมอบสิทธิการรับทรัพย์มรดกตามพินัยกรรมของตน ซึ่งตกอยู่กับผู้รับมรดกอีกคนหนึ่งให้แก่ผู้รับพินัยกรรมอีกคนหนึ่ง นั้น มิใช่เป็นการสละมรดก และการโอนเช่นนี้ถือว่าใช้ได้ ผู้รับโอนย่อมมีสิทธิฟ้องเรียกมรดกส่วนที่โอนนั้นจากผู้ยึดถือทรัพย์มรดกนั้นอยู่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 242/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของร่วมมรดกมีอำนาจฟ้องแย่งกรรมสิทธิ แม้ทายาทอื่นมิได้ร่วมฟ้อง
โจทก์ฟ้องอ้างว่า ที่ดินพิพาทเป็นมรดกตกได้แก่โจทก์และทายาทอีกคนหนึ่ง จำเลยคิดแย่งกรรมสิทธิ โจทก์จึงขอให้ขับไล่จำเลยและขอให้ศาลแสดงกรรมสิทธิในที่พิพาทดังนี้ แม้ทายาทนั้นจะไม่ได้มาร่วมเป็นโจทก์ด้วย โจทก์ก็ยังเป็นผู้รับมรดกและเป็นเจ้าของร่วมในที่ดินพิพาท จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยได้ ฝ่ายจำเลยไม่มีอำนาจอะไรเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 242/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีแย่งกรรมสิทธิ์ในที่ดินมรดก เจ้าของร่วมมีสิทธิฟ้อง แม้ทายาทอื่นไม่ร่วมฟ้อง
โจทก์ฟ้องอ้างว่า ที่ดินพิพาทเป็นมรดกตกได้แก่โจทก์และทายาทอีกคนหนึ่ง จำเลยคิดแย่งกรรมสิทธิ์ โจทก์จึงขอให้ขับไล่จำเลยและขอให้ศาลแสดงกรรมสิทธิ์ในที่พิพาทดังนี้แม้ทายาทนั้นจะไม่ได้มาร่วมเป็นโจทก์ด้วยโจทก์ก็ยังเป็นผู้รับมรดกและเป็นเจ้าของร่วมในที่ดินพิพาทจึงมีอำนาจฟ้องจำเลยได้ ฝ่ายจำเลยไม่มีอำนาจอะไรเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1685/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน: คดีก่อนผูกพันคดีหลังไม่ได้ หากคู่ความและประเด็นข้อพิพาทเปลี่ยนแปลง
ผู้มีชื่อในโฉนดร่วมกับผู้อื่นฟ้องขอแบ่งที่ดินเฉพาะส่วนของตนจากผู้ที่ยึดถือครอบครองที่ดิน ผู้ครอบครองที่ดินต่อสู้ว่า ผู้มีชื่อในโฉนดคนอื่นเอาที่ดินนี้ตีใช้หนี้ตน ทางพิจารณาศาลฟังว่าไม่มีการตีใช้หนี้ แต่เห็นว่า การที่จะฟ้องขอแบ่งเฉพาะส่วนของโจทก์นั้นย่อมแบ่งให้ไม่ได้ จึงพิพากษายกฟ้อง ภายหลังผู้ครอบครองที่ดินเป็นโจทก์ฟ้องทายาทผู้มีชื่อในโฉนดคนหนึ่งขอให้ศาลแสดงว่า ที่พิพาทนี้เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ครอบครองที่ดิน ทายาทผู้เป็นจำเลยต่อสู้ว่า ผู้ครอบครองที่ดินไม่มีอำนาจนำคดีมาฟ้องอีกเพราะเคยฟ้องกันมาแล้วและในคดีหลังนี้ ผู้มีชื่อในโฉนดที่เคยเป็นโจทก์ฟ้องผู้ครอบครองก็ได้ร้องเข้ามาเป็นจำเลยร่วม จนศาลอนุญาตแล้วก็ตาม ศาลฎีกาก็เห็นว่าจะเอาข้อเท็จจริงในคดีก่อนมารับฟังเป็นข้อเท็จจริงในคดีนี้ไม่ได้ เพราะโจทก์จำเลยในคดีนี้เป็นคู่กรณีคนใหม่ และในคดีก่อนศาลยกฟ้องเพราะเห็นว่า การฟ้องขอแบ่งเฉพาะส่วนของตน ย่อมแบ่งให้ไม่ได้ เป็นประเด็นสำคัญ การที่ผู้ครอบครองที่ดินมาฟ้องอ้างสิทธิในที่ดินนี้ทั้งแปลงประเด็นก็ไม่เหมือนกับคดีก่อนซึ่งพิพาทกันเฉพาะที่ดินส่วนของผู้มีชื่อในโฉนดผู้เป็นโจทก์ฟ้องเท่านั้น จึงจะยกเอาสำนวนก่อนมาผูกพันบังคับคู่ความคดีนี้ใหม่หาได้ไม่ชอบที่ศาลจะสืบพยานฟังข้อเท็จจริงในสำนวนหลังนี้ต่อไป(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 23/2493)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1546/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของร่วมมีอำนาจฟ้องขับไล่ผู้แย่งกรรมสิทธิในที่ดินได้ตามกฎหมาย
เจ้าของร่วมที่ดินเพียงคนใดคนหนึ่งย่อมมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องขับไล่ผู้ที่แย่งกรรมสิทธิในที่ดินนั้นได้ตามมาตรา 1359

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1546/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของร่วมมีอำนาจฟ้องขับไล่ผู้รุกล้ำกรรมสิทธิ์ในที่ดินร่วมได้
เจ้าของร่วมที่ดินเพียงคนใดคนหนึ่ง ย่อมมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องขับไล่ผู้ที่แย่งกรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้นได้ตามมาตรา1359

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 981/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีและการปล่อยทรัพย์สิน: สิทธิของเจ้าของรวม
ตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 288 นั้นการร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ ต้องเป็นกรณีที่กล่าวอ้างว่า ลูกหนี้ตามคำพิพากษามิใช่เจ้าของทรัพย์สินที่ยึด เมื่อข้อเท็จจริงปรากฎว่าลูกหนี้ตามคำพิพากษาเป็นเจ้าของทรัพย์สินนั้นอยู่ด้วย ศาลต้องยกคำร้องของผู้ร้องที่ขอให้ปล่อยการยึดเสีย เพราะกรรมสิทธิของเจ้าของร่วม แต่ละคนย่อมครอบไปเหนือทรัพย์สินทั้งหมด จนกว่าจะมีการแบ่ง ผู้ร้องมีทางที่จะเรียกร้องขอแบ่งส่วนของตนตามสิทธิของเจ้าของรวมได้ในทางการบังคับคดี ตาม ป.ม.วิ.แพ่ง มาตรา 287.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 981/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าของรวมและการบังคับคดี: การปล่อยทรัพย์ที่ยึดต้องพิจารณาว่าลูกหนี้เป็นเจ้าของทรัพย์หรือไม่
ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 288 นั้นการร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ ต้องเป็นกรณีที่กล่าวอ้างว่าลูกหนี้ตามคำพิพากษามิใช่เจ้าของทรัพย์สินที่ยึด เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าลูกหนี้ตามคำพิพากษาเป็นเจ้าของทรัพย์สินนั้นอยู่ด้วย ศาลต้องยกคำร้องของผู้ร้องที่ขอให้ปล่อยการยึดเสีย เพราะกรรมสิทธิ์ของเจ้าของร่วม แต่ละคนย่อมครอบไปเหนือทรัพย์สินทั้งหมด จนกว่าจะมีการแบ่งผู้ร้องมีทางที่จะเรียกร้องขอแบ่งส่วนของตนตามสิทธิของเจ้าของรวมได้ในทางการบังคับคดี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 287

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1080/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าของฟ้องขับไล่ผู้บุกรุก - การอยู่โดยอาศัยไม่อ้างอายุความได้
โจทก์กับพวกเป็นเจ้าของและใช้ห้องพิพาทเป็นสมาคม ซึ่งไม่ได้จดทะเบียนและให้จำเลยอาศัยอยู่ โจทก์ผู้เดียว ย่อมฟ้องขับไล่จำเลยในฐานะเป็นบุคคลธรรมดาที่เป็นเจ้าของร่วมกันได้
จำเลยอยู่ห้องพิพาทโดยทางอาศัย จะยกอายุความขึ้นต่อสู้โจทก์ ผู้เป็นเจ้าของไม่ได้
การอยู่โดยอาศัยหาอยู่ในความคุ้มครองของ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขันไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1080/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าของร่วมฟ้องขับไล่ผู้บุกรุกและการไม่อ้างอายุความในการอาศัย
โจทก์กับพวกเป็นเจ้าของและใช้ห้องพิพาทเป็นสมาคมซึ่งไม่ได้จดทะเบียนและให้จำเลยอาศัยอยู่ โจทก์ผู้เดียว ย่อมฟ้องขับไล่ จำเลยในฐานะเป็นบุคคลธรรมดาที่เป็นเจ้าของร่วมกันได้
จำเลยอยู่ห้องพิพาทโดยทางอาศัย จะยกอายุความขึ้นต่อสู้โจทก์ผู้เป็นเจ้าของไม่ได้
การอยู่โดยอาศัย หาอยู่ในความคุ้มครองของ พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขันไม่
of 17