พบผลลัพธ์ทั้งหมด 27 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5356/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานฉ้อโกงจากการใช้เช็คเดินทางปลอมหลายธนาคาร ถือเป็นกรรมต่างกัน
จำเลยที่ 1 กับพวกปลอมหนังสือเดินทางและเช็คเดินทางรวม 12 ฉบับ แล้วแยกนำไปใช้แสดงต่อเจ้าหน้าที่ธนาคารต่าง ๆ รวม 4 ธนาคารในคราวเดียวกันในแต่ละธนาคาร โดยมีเจตนาเพียงประการเดียวเพื่อฉ้อโกงเงินจากธนาคารแต่ละธนาคารด้วยการขอแลกเงินตามเช็คเดินทาง ปลอมนั้นให้ได้ ความผิดข้อหาปลอมหนังสือเดินทางและเช็คเดินทางกับใช้เอกสารปลอมดังกล่าวแต่ละครั้งในแต่ละธนาคาร จึงเป็นกรรมเดียวกันกับความผิดฐานฉ้อโกงอันเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ต้องลงโทษข้อหาใช้เช็คเดินทางปลอมซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด แต่จำเลยที่ 1ได้ใช้เช็คเดินทางปลอมดังกล่าวที่ธนาคารต่าง ๆ รวม 4 ธนาคารการกระทำความผิดในส่วนนี้จึงเป็นความผิดหลายกรรมรวม 4 กรรม.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5356/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานฉ้อโกงจากการใช้เช็คเดินทางปลอมเป็นกรรมเดียวแต่หลายกรรมต่างกันตามแต่ละธนาคาร
จำเลยที่ 1 กับพวกปลอมหนังสือเดินทางและเช็คเดินทางรวม 12 ฉบับแล้วแยกนำไปใช้แสดงต่อเจ้าหน้าที่ธนาคารต่าง ๆ รวม 4 ธนาคารในคราวเดียวกันในแต่ละธนาคาร โดยมีเจตนาเพียงประการเดียวเพื่อฉ้อโกงเงินจากธนาคารแต่ละธนาคารด้วยการขอแลกเงินตามเช็คเดินทางปลอมนั้นให้ได้ ความผิดข้อหาปลอมหนังสือเดินทางและเช็คเดินทางกับใช้เอกสารปลอมดังกล่าวแต่ละครั้งในแต่ละธนาคาร จึงเป็นกรรมเดียวกันกับความผิดฐานฉ้อโกงอันเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ต้องลงโทษข้อหาใช้เช็คเดินทางปลอมซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด แต่จำเลยที่ 1ได้ใช้เช็คเดินทางปลอมดังกล่าวที่ธนาคารต่าง ๆ รวม 4 ธนาคารการกระทำความผิดในส่วนนี้จึงเป็นความผิดหลายกรรมรวม 4 กรรม.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3355/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานปลอมเอกสารที่เป็นตั๋วเงินและการเรียงกระทงความผิดหลายกรรม
จำเลยร่วมปลอมลายมือชื่อของ ป. เป็นผู้รับอาวัลเช็คเพื่อให้เช็คทั้งสิบฉบับเป็นที่น่าเชื่อถือยิ่งขึ้น เช็คทั้งสิบฉบับเป็นเช็คที่สมบูรณ์ครบถ้วนตามกฎหมาย เช็คดังกล่าวจึงเป็นตั๋วเงิน จำเลยจึงมีความผิดฐานปลอมเอกสารที่เป็นตั๋วเงินตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 266(4) ไม่ใช่เป็นความผิดตามมาตรา 264 เท่านั้น แม้จำเลยปลอมลายมือชื่อของ ป. ที่ด้านหลังเช็คทั้งสิบฉบับในคราวเดียวกันแต่การปลอมลายมือชื่อดังกล่าวในแต่ละฉบับเป็นความผิดฐานปลอมเอกสารแยกออกจากกันได้อีก ทั้งจำเลยกระทำโดยมีเจตนานำเช็คที่มีลายมือชื่อปลอมนั้นไปหลอกขายลดให้แก่บุคคลอื่นเป็นรายฉบับไปจึงเป็นความผิดต่างกรรมกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3355/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานปลอมเอกสาร (เช็ค) หลายกรรม การเรียงกระทงและข้อยกเว้นการฎีกา
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรม ให้เรียงกระทงลงโทษ 10 กระทง กระทงละ 2 ปี เป็นการแก้ไขเล็กน้อย และลงโทษจำคุกจำเลยกระทงละไม่เกิน 5 ปี คดีต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรก
จำเลยปลอมลายมือชื่อของผู้จัดการธนาคารเป็นผู้อาวัลลงในเช็ค แม้เช็คนั้นมีรายการครบถ้วนตามกฎหมายแล้วก็เป็นความผิดฐานปลอมเอกสารที่เป็นตั๋วเงิน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 266 (4)
จำเลยปลอมลายมือชื่อของผู้จัดการธนาคารที่ด้านหลังเช็คทั้งสอบฉบับในคราวเดียวกัน การปลอมลายมือชื่อดังกล่าวในแต่ละฉบับเป็นความผิดฐานปลอมเอกสารแยกออกจากกันได้ทั้งจำเลยกระทำโดยมีเจตนานำเช็คที่มีลายมือชื่อปลอมนั้นไปหลอกขายให้แก่บุคคลอื่น ซึ่งจำเลยก็สามารถหลอกขายเช็คให้แก่บุคคลอื่นเป็นรายฉบับไป จึงเป็นความผิดต่างกรรมกันจำนวน 10 กระทง
จำเลยปลอมลายมือชื่อของผู้จัดการธนาคารเป็นผู้อาวัลลงในเช็ค แม้เช็คนั้นมีรายการครบถ้วนตามกฎหมายแล้วก็เป็นความผิดฐานปลอมเอกสารที่เป็นตั๋วเงิน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 266 (4)
จำเลยปลอมลายมือชื่อของผู้จัดการธนาคารที่ด้านหลังเช็คทั้งสอบฉบับในคราวเดียวกัน การปลอมลายมือชื่อดังกล่าวในแต่ละฉบับเป็นความผิดฐานปลอมเอกสารแยกออกจากกันได้ทั้งจำเลยกระทำโดยมีเจตนานำเช็คที่มีลายมือชื่อปลอมนั้นไปหลอกขายให้แก่บุคคลอื่น ซึ่งจำเลยก็สามารถหลอกขายเช็คให้แก่บุคคลอื่นเป็นรายฉบับไป จึงเป็นความผิดต่างกรรมกันจำนวน 10 กระทง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 630/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานใช้เอกสารปลอมและฉ้อโกง แม้ไม่มีหลักฐานการปลอมเช็คโดยตรง แต่พฤติการณ์บ่งชี้ถึงความรู้เท่าทัน
จำเลยเป็นพนักงานของธนาคารโจทก์ร่วมไม่มีหน้าที่การเงินจำเลยนำเช็คปลอมจำนวน3ฉบับไปยื่นต่อส.และอ.ซึ่งเป็นพนักงานการเงินของโจทก์ร่วมต่างวันกันโดยแต่ละครั้งจำเลยนำใบฝากโอนเงินเข้าธนาคารต่างสาขาในบัญชีของบ.ซึ่งจำเลยแต่ผู้เดียวมีอำนาจถอนเงินจากบัญชีดังกล่าวแม้ไม่มีพยานหลักฐานบ่งชี้ว่าจำเลยเป็นผู้ปลอมหรือมีส่วนในการปลอมเช็ค3ฉบับดังกล่าว.แต่ตามพฤติการณ์แสดงได้ว่าจำเลยรู้ว่าเช็คนั้นเป็นเอกสารปลอมดังนั้นการที่จำเลยนำเช็คปลอมไปแสดงต่อพนักงานการเงินของโจทก์ร่วมโดยปกปิดความจริงจนเป็นเหตุให้โจทก์ร่วมหลงเชื่อยอมสั่งจ่ายเงินตามเช็คปลอมจึงเป็นความผิดฐานใช้เอกสารปลอมและฉ้อโกง. พนักงานอัยการโจทก์ขอให้ศาลสั่งให้จำเลยคืนหรือใช้เงินที่จำเลยฉ้อโกงไปคืนแก่ผู้เสียหายมาท้ายฟ้องและโจทก์ร่วมได้เสียค่าธรรมเนียมมาถูกต้องแล้วจำเลยจึงต้องคืนหรือใช้เงินตามฟ้องให้โจทก์ร่วม.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 630/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยรู้เช็คปลอมนำไปแสดงต่อธนาคาร ทำให้ธนาคารหลงเชื่อจ่ายเงินเข้าบัญชีตนเองเข้าข่ายความผิดฐานใช้เอกสารปลอมและฉ้อโกง
จำเลยเป็นพนักงานของธนาคารโจทก์ร่วมไม่มีหน้าที่การเงินจำเลยนำเช็คปลอมจำนวน3ฉบับไปยื่นต่อส. และอ. ซึ่งเป็นพนักงานการเงินของโจทก์ร่วมต่างวันกันโดยแต่ละครั้งจำเลยนำใบฝากโอนเงินเข้าธนาคารต่างสาขาในบัญชีของบ. ซึ่งจำเลยแต่ผู้เดียวมีอำนาจถอนเงินจากบัญชีดังกล่าวแม้ไม่มีพยานหลักฐานบ่งชี้ว่าจำเลยเป็นผู้ปลอมหรือมีส่วนในการปลอมเช็ค3ฉบับดังกล่าวแต่ตามพฤติการณ์แสดงได้ว่าจำเลยรู้ว่าเช็คนั้นเป็นเอกสารปลอมดังนั้นการที่จำเลยนำเช็คปลอมไปแสดงต่อพนักงานการเงินของโจทก์ร่วมโดยปกปิดความจริงจนเป็นเหตุให้โจทก์ร่วมหลงเชื่อยอมสั่งจ่ายเงินตามเช็คปลอมจึงเป็นความผิดฐานใช้เอกสารปลอมและฉ้อโกง พนักงานอัยการโจทก์ขอให้ศาลสั่งให้จำเลยคืนหรือใช้เงินที่จำเลยฉ้อโกงไปคืนแก่ผู้เสียหายมาท้ายฟ้องและโจทก์ร่วมได้เสียค่าธรรมเนียมมาถูกต้องแล้วจำเลยจึงต้องคืนหรือใช้เงินตามฟ้องให้โจทก์ร่วม.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 403/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขรายการในบัญชีธนาคารไม่ทำให้เจ้าของบัญชีเสียสิทธิ จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
การ์ดบัญชีเงินฝากกระแสรายวันเป็นเอกสารที่ธนาคารจัดทำขึ้นเป็นหลักฐานของธนาคารเอง แสดงการเป็นลูกหนี้เจ้าหนี้ที่มีต่อเจ้าของบัญชีตามรายการที่แสดงไว้ การที่จำเลยที่ 2 ผู้รักษาการในตำแหน่งสมุห์บัญชีและจำเลยที่ 3 ผู้จัดการธนาคารแก้ไขเพิ่มจำนวนเงินฝากในการ์ดบัญชีเงินฝากกระแสรายวันของโจทก์ที่ธนาคาร โดยโจทก์มิได้นำเงินเข้าบัญชีตามรายการนั้น การแก้ไขรายการเช่นนั้นมิได้ทำให้โจทก์เสียสิทธิที่มีต่อธนาคาร โจทก์มิใช่ผู้เสียหายไม่มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 403/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขบัญชีเงินฝากไม่ทำให้เจ้าของบัญชีเสียหาย จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
การ์ดบัญชีเงินฝากกระแสรายวันเป็นเอกสารที่ธนาคารจัดทำขึ้นเป็นหลักฐานของธนาคารเอง แสดงการเป็นลูกหนี้เจ้าหนี้ที่มีต่อเจ้าของบัญชีตามรายการที่แสดงไว้ การที่จำเลยที่ 2 ผู้รักษาการในตำแหน่งสมุห์บัญชีและจำเลยที่ 3 ผู้จัดการธนาคารแก้ไขเพิ่มจำนวนเงินฝากในการ์ดบัญชีเงินฝากกระแสรายวันของโจทก์ที่ธนาคาร โดยโจทก์มิได้นำเงินเข้าบัญชีตามรายการนั้น การแก้ไขรายการเช่นนั้นมิได้ทำให้โจทก์เสียสิทธิที่มีต่อธนาคาร โจทก์มิใช่ผู้เสียหายไม่มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2092/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดหลายบท: ใช้เอกสารปลอมขอแลกเงิน ธ.กรุงเทพ ต้องใช้บทหนัก
โจทก์บรรยายฟ้องไว้ชัดเจนว่าจำเลยนำหนังสือเดินทางปลอมและเช็คเดินทางปลอมไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ของธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาราชเทวีในคราวเดียวกัน เพื่อขอแลกเงินตามเช็คเดินทางปลอมนั้น เป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ต้องใช้กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2092/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดหลายบท: ใช้เอกสารปลอม ขอแลกเงินธนาคาร ต้องลงโทษบทหนักสุด
โจทก์บรรยายฟ้องไว้ชัดเจนว่าจำเลยนำหนังสือเดินทางปลอมและเช็คเดินทางปลอมไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ของธนาคารกรุงเทพจำกัด สาขาราชเทวีในคราวเดียวกัน เพื่อขอแลกเงินตามเช็คเดินทางปลอมนั้น เป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ต้องใช้กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90