พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7041/2542
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เพิกถอนการโอนทรัพย์สินในคดีล้มละลาย การกำหนดราคาที่ดินเมื่อศาลสั่งเพิกถอน
คำสั่งเพิกถอนการโอนตามมาตรา 114 (เดิม) แห่ง พ.ร.บ. ล้มละลาย พ.ศ. 2483 ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำสั่ง กรณียังถือได้ว่าเป็นการโอนโดยชอบอยู่ ที่ดินพิพาทยังคงเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้คัดค้านและมิใช่เป็นทรัพย์สินในคดีล้มละลายอันอาจเอามาชำระหนี้ตามมาตรา 109 (3) แห่ง พ.ร.บ. ล้มละลาย พ.ศ. 2483 เมื่อศาลมีคำสั่งเพิกถอนการโอนแล้ว แต่ไม่สามารถโอนที่ดินกลับมาได้ต้องมีการใช้ราคา การกำหนดราคาที่ดินพิพาทต้องถือราคาที่ดินในวันที่ศาลมีคำสั่งให้เพิกถอนการโอน อันเป็นวันที่ถือว่าที่ดินพิพาทเป็นทรัพย์ในคดีล้มละลายอันอาจแบ่งแก่เจ้าหนี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6535/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าซื้อเลิกแล้ว ทรัพย์สินยังเป็นของผู้ให้เช่า ไม่ถือเป็นทรัพย์สินในคดีล้มละลาย
ผู้ร้องเป็นเจ้าของรถยนต์พิพาท ที่ผู้ร้องยอมให้รถยนต์พิพาทอยู่ในครอบครองใช้สอยของจำเลยเกิดจากสัญญาเช่าซื้อ เมื่อจำเลยผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าซื้อจนมีผลให้สัญญาเช่าซื้อเลิกกัน จำเลยมีหน้าที่ต้องส่งมอบรถยนต์พิพาทคืนแก่ผู้ร้องโดยพลัน ถ้าไม่ส่งมอบถือว่าครอบครองไว้โดยมิชอบตามสัญญาเช่าซื้อ การที่สัญญาเช่าซื้อเลิกกันก่อนมีการขอให้จำเลยล้มละลายและก่อนที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะยึดรถยนต์พิพาท อีกทั้งผู้ร้องก็ได้มีหนังสือแจ้งเตือนให้จำเลยชำระหนี้ มิฉะนั้น ผู้ร้องจะดำเนินคดีกับจำเลย แสดงว่า ผู้ร้องมิได้ยินยอมให้จำเลยครอบครองรถยนต์พิพาทนับแต่วันที่สัญญาเช่าซื้อเลิกกัน ทั้งผู้ร้องก็เตรียมจะฟ้องจำเลยแล้วจะถือว่ารถยนต์พิพาทอยู่ในครอบครองของจำเลยด้วยความยินยอม อนุญาตของผู้ร้องหาได้ไม่ จึงยังถือไม่ได้ว่ารถยนต์พิพาท เป็นทรัพย์สินในคดีล้มละลายอันอาจแบ่งแก่เจ้าหนี้ได้ ตามพระราชบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา 109(3)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5783/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเจ้าของทรัพย์สินที่จำนองเมื่อลูกหนี้ล้มละลาย แม้ชื่อในโฉนดยังเป็นของลูกหนี้ ผู้เช่าซื้อมีสิทธิไถ่ถอนจำนองและรับโอนกรรมสิทธิ์
ผู้ร้องเช่าซื้อที่พิพาท เมื่อชำระค่าเช่าซื้อครบได้รับโอนกรรมสิทธิ์มาเป็นของผู้ร้อง โดยใส่ชื่อ ลูกหนี้ที่ 1 ไว้ในโฉนด แทนเพื่อให้ลูกหนี้ที่ 1 นำโฉนด ไปเป็นหลักประกันในการหาเงินมาทำการค้าโดยลูกหนี้ที่ 1 ทำหนังสือยืนยันมอบไว้แก่ผู้ร้องว่ากรรมสิทธิ์ในที่พิพาทเป็นของผู้ร้อง และจะไถ่ถอนจำนองโอนคืนผู้ร้องภายใน 1 ปีจึงถือได้ว่า ที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้อง ลูกหนี้ที่ 1 เป็นเพียงผู้มีชื่อ ในโฉนด ในฐานะผู้ถือกรรมสิทธิ์แทน แม้ลูกหนี้ที่ 1 จะเอาที่พิพาทไปจำนองแล้วไม่ไถ่ถอน ผู้ร้องในฐานะเจ้าของทรัพย์สินที่จำนองก็มีสิทธิจะไถ่ถอนจำนองเองได้ หากไถ่ถอนจำนองเองก็ชอบจะเรียกให้ลูกหนี้ที่ 1 ชดใช้ค่าไถ่ถอนจำนองได้ เมื่อผู้ร้องไถ่ถอนจำนองแล้วจำนองก็ย่อมระงับไปจะบังคับให้ลูกหนี้ที่ 1 ทำการไถ่ถอนจำนองซ้ำอีกไม่ได้.