พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1031/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายน้ำมันเบนซิน การชำระภาษีและเงินเข้ากองทุนน้ำมัน ความผิดนัดและดอกเบี้ย
จำเลยทำสัญญาต่อการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยว่า จำเลยจะเป็นผู้ชำระเงินให้โจทก์เป็นค่าภาษีและส่งเงินเข้ากองทุนน้ำมันตามจำนวนน้ำมันเบนซินที่ผลิตได้ ต่อมาจำเลยได้ชำระภาษีและส่งเงินเข้ากองทุนน้ำมันให้โจทก์ การที่โจทก์รับชำระเงินดังกล่าวไว้ตลอดมาถือได้ว่าโจทก์แสดงเจตนาต่อจำเลยผู้เป็นลูกหนี้แล้วว่า โจทก์ถือเอาประโยชน์จากสัญญานั้นนับแต่จำเลยเริ่มปฏิบัติตามสัญญา โจทก์จึงมีอำนาจเรียกจำเลยให้ส่งเงินเข้ากองทุนน้ำมันได้ตามสัญญา ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 374 ตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรีที่ 5/2523 เรื่อง การจัดตั้งกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ลงวันที่ 2 มิถุนายน 2523 ข้อ 10 และคำสั่งของนายกรัฐมนตรีที่ 5/2524 เรื่อง การจัดตั้งกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงลงวันที่ 16 พฤษภาคม 2524 ข้อ 7 ระบุให้ผู้มีหน้าที่ส่งเงินเข้ากองทุนน้ำมันกรณีเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงที่ผลิตและจำหน่ายจากโรงกลั่นน้ำมันในราชอาณาจักรเพื่อใช้ในราชอาณาจักร ส่งเงินแก่ผู้รับชำระภาษีน้ำมันพร้อมกับการชำระภาษีน้ำมันและกฎกระทรวง(พ.ศ. 2507) ออกตามความในพระราชบัญญัติภาษีน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันซึ่งทำในราชอาณาจักร พ.ศ. 2507 ข้อ 2(ค) ระบุให้ชำระภาษีภายใน10 วัน นับแต่วันที่พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งจำนวนภาษีที่ต้องชำระให้ทราบ ดังนั้น เมื่อโจทก์มีหนังสือทวงถามไปยังจำเลยให้ส่งเงินเข้ากองทุนน้ำมัน ซึ่งจำเลยทราบถึงหนังสือดังกล่าวแล้ว แต่ไม่ส่งเงินพร้อมกับชำระภาษีภายในกำหนด จำเลยจึงตกเป็นผู้ผิดนัด ต้องชำระดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 224 โดยโจทก์ไม่ต้องทวงถามก่อน โจทก์บรรยายฟ้องระบุว่า โจทก์มีอำนาจจัดเก็บภาษีสรรพสามิตภาษีน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน กับมีอำนาจเก็บเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง จำเลยมิได้ให้การปฏิเสธอำนาจหน้าที่ดังกล่าวจึงฟังได้ว่าโจทก์มีอำนาจรับชำระภาษีและเงินกองทุนน้ำมันดังกล่าวโจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง.