พบผลลัพธ์ทั้งหมด 675 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3502/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวินิจฉัยประเด็นแห่งคดี การงดสืบพยานที่ชอบด้วยกฎหมาย และการอุทธรณ์ที่ต้องห้าม
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยอาศัยข้อเท็จจริง จึงมิใช่การวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมายตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 24 คำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งงดสืบพยานเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาตาม มาตรา 226 เมื่อโจทก์มิได้โต้แย้งคัดค้านคำสั่ง โจทก์จึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์
เมื่อโจทก์อ้างว่าโจทก์มีสิทธิเข้าร่วมเดินรถ ตามประกาศของจำเลยลงวันที่ 11 มิถุนายน 2520 และจำเลยโต้แย้งว่าได้มีการแก้ไขระเบียบการ ตามประกาศลงวันที่ 16 มิถุนายน 2521 กำหนดให้เมื่อจำเลยตกลงรับรถเมล์เล็กเข้าวิ่งร่วมแล้ว จะต้องมีการทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรต่อกันอีกชั้นหนึ่งเพื่อกำหนดความรับผิดชอบซึ่งกันและกัน การที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า โจทก์ยังมิได้ปฏิบัติตามประกาศของจำเลยฉบับลงวันที่ 16 มิถุนายน 2521 จึงเป็นการวินิจฉัยในประเด็นแห่งคดีโดยตรง หาใช่เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นแต่ประการใดไม่ มิใช่พิจารณาแต่คำฟ้องเท่านั้นแต่ต้องพิจารณาคำให้การจำเลยและคำแถลงรับของคู่ความด้วย
เมื่อโจทก์อ้างว่าโจทก์มีสิทธิเข้าร่วมเดินรถ ตามประกาศของจำเลยลงวันที่ 11 มิถุนายน 2520 และจำเลยโต้แย้งว่าได้มีการแก้ไขระเบียบการ ตามประกาศลงวันที่ 16 มิถุนายน 2521 กำหนดให้เมื่อจำเลยตกลงรับรถเมล์เล็กเข้าวิ่งร่วมแล้ว จะต้องมีการทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรต่อกันอีกชั้นหนึ่งเพื่อกำหนดความรับผิดชอบซึ่งกันและกัน การที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า โจทก์ยังมิได้ปฏิบัติตามประกาศของจำเลยฉบับลงวันที่ 16 มิถุนายน 2521 จึงเป็นการวินิจฉัยในประเด็นแห่งคดีโดยตรง หาใช่เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นแต่ประการใดไม่ มิใช่พิจารณาแต่คำฟ้องเท่านั้นแต่ต้องพิจารณาคำให้การจำเลยและคำแถลงรับของคู่ความด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2699/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งศาลที่ไม่รับคำให้การไม่ใช่คำสั่งที่อุทธรณ์ได้ระหว่างพิจารณา
คำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งยกคำร้องขออนุญาตยื่นคำให้การไม่ใช่คำสั่งที่ไม่รับ หรือคืนคำคู่ความตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18 หากแต่เป็นคำสั่งในระหว่างพิจารณาก่อนที่ศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดตัดสินคดี จึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์คำสั่งนั้นในระหว่างพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226(1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2238/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดยื่นคำให้การและการไม่โต้แย้งคำสั่งศาล ทำให้จำเลยไม่มีสิทธิอุทธรณ์
จำเลยมีโอกาสที่จะโต้แย้งคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้ยกคำร้องขอยื่นคำให้การของจำเลยได้ แต่ไม่ปรากฏว่าจำเลยได้โต้แย้งคำสั่งนั้นไว้แต่อย่างใด จำเลยจึงไม่มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้น ว่าจำเลยมิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1993/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประเด็นอำนาจฟ้องและคำฟ้องไม่เคลือบคลุม ศาลฎีกาเห็นว่าไม่เป็นเหตุแห่งการฎีกา
จำเลยฎีกาว่า จำเลยอุทธรณ์เรื่องโจทก์ที่ 2 มิได้มอบอำนาจให้โจทก์ที่ 1 ฟ้องคดีเพราะหนังสือมอบอำนาจท้ายฟ้องปลอม แต่ศาลอุทธรณ์ไม่วินิจฉัยให้ ข้อต่อสู้นี้ศาลชั้นต้นมิได้กำหนดเป็นประเด็นข้อพิพาทไว้ในชั้นชี้สองสถานและจำเลยมิได้โต้แย้งไว้ ถือได้ว่าเรื่องอำนาจฟ้องไม่เป็นประเด็นในคดีแล้ว จึงไม่จำต้องวินิจฉัย
ฟ้องโจทก์บรรยายถึงค่าเสียหายว่ารถยนต์ของโจทก์ได้รับความเสียหายปรากฏตามสำเนาบิลเงินสดค่าซ่อมท้ายฟ้องเป็นเงิน26,730 บาทเท่านั้น แต่บิลเงินสดดังกล่าวแสดงรายการค่าซ่อม และเปลี่ยนอะไหล่รวมทั้งราคาแต่ละรายการไว้ชัดแจ้งเพียงพอที่จำเลยจะเข้าใจได้ดีแล้ว จึงไม่เคลือบคลุม
ฟ้องโจทก์บรรยายถึงค่าเสียหายว่ารถยนต์ของโจทก์ได้รับความเสียหายปรากฏตามสำเนาบิลเงินสดค่าซ่อมท้ายฟ้องเป็นเงิน26,730 บาทเท่านั้น แต่บิลเงินสดดังกล่าวแสดงรายการค่าซ่อม และเปลี่ยนอะไหล่รวมทั้งราคาแต่ละรายการไว้ชัดแจ้งเพียงพอที่จำเลยจะเข้าใจได้ดีแล้ว จึงไม่เคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 369/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอพิจารณาคดีใหม่หลังขาดนัด – เงื่อนไขและข้อยกเว้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
โจทก์ขาดนัดพิจารณา จำเลยขอให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป ศาลชั้นต้นพิจารณาและชี้ขาดตัดสินคดีไปฝ่ายเดียวให้โจทก์แพ้คดีในประเด็นพิพาท โจทก์ขอให้พิจารณาคดีใหม่ได้ กรณีไม่ต้องด้วยข้อยกเว้นมิให้พิจารณาใหม่ ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 201, 207
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องในคดีโจทก์ขาดนัดพิจารณา โจทก์ขอพิจารณาใหม่ ศาลมีคำสั่งให้พิจารณาใหม่ จำเลยอุทธรณ์ฎีกาได้
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องในคดีโจทก์ขาดนัดพิจารณา โจทก์ขอพิจารณาใหม่ ศาลมีคำสั่งให้พิจารณาใหม่ จำเลยอุทธรณ์ฎีกาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 46/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่โต้แย้งคำสั่งศาลระหว่างพิจารณาคดี ทำให้สิทธิในการอุทธรณ์สละสิ้น
ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโจทก์จำเลย นัดฟังคำพิพากษา 10 วันต่อมา จำเลยไม่โต้แย้งคำสั่งระหว่างพิจารณานี้ จึงอุทธรณ์ขอสืบพยานต่อไปไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2836/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนสิทธิในที่ดินขายฝาก: สิทธิสุจริตของผู้ซื้อและการไม่อุทธรณ์คำสั่งศาล
การที่ศาลที่รับประเด็นสั่งอนุญาตให้ทนายผู้คัดค้านถามติงพยานเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นเมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ผู้ร้องมิได้โต้แย้งคัดค้านคำสั่งดังกล่าวไว้จึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226,247
ลูกหนี้ขายฝากที่พิพาทไว้กับผู้คัดค้าน ต่อมามีการไถ่ถอนการขายฝาก แล้วขายฝากอีกในวันเดียวกันนั้นแม้จะถือว่าการขายฝากครั้งหลังเป็นการขายฝากรายเดียวกันกับครั้งแรก ก็ต้องถือว่าการขายฝากยังมีอยู่เมื่อผู้คัดค้านได้รับโอนที่พิพาทโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทนจึงไม่มีเหตุที่จะเพิกถอนการโอนที่พิพาทตามที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ผู้ร้องฎีกาขึ้นมาได้
ลูกหนี้ขายฝากที่พิพาทไว้กับผู้คัดค้าน ต่อมามีการไถ่ถอนการขายฝาก แล้วขายฝากอีกในวันเดียวกันนั้นแม้จะถือว่าการขายฝากครั้งหลังเป็นการขายฝากรายเดียวกันกับครั้งแรก ก็ต้องถือว่าการขายฝากยังมีอยู่เมื่อผู้คัดค้านได้รับโอนที่พิพาทโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทนจึงไม่มีเหตุที่จะเพิกถอนการโอนที่พิพาทตามที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ผู้ร้องฎีกาขึ้นมาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2789/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอเลื่อนคดีเนื่องจากเจ็บป่วย/ถอนทนาย และผลกระทบต่อการพิจารณาคดี
ทนายโจทก์ยื่นคำร้องว่าตัวโจทก์ป่วยและทนายโจทก์มีความคิดเห็นในการดำเนินคดีขัดแย้งกับตัวโจทก์ หากดำเนินคดีให้แก่ตัวโจทก์ต่อไปจะเกิดความเสียหายได้ ทนายโจทก์จึงขอถอนตัวจากคดี คำร้องดังกล่าวแม้จะไม่มีข้อความขอเลื่อนคดี ก็เท่ากับเป็นการขอเลื่อนคดีอยู่ในตัว ศาลชั้นต้น สั่งให้ทนายโจทก์ส่งสำเนาคำร้องให้โจทก์ทราบก่อน แล้วศาล จะได้สั่งคำร้องในภายหลัง ศาลชั้นต้นจึงชอบที่ จะดำเนิน กระบวนพิจารณาในเรื่องนี้ให้เสร็จสิ้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 65 เสียก่อน ทั้งใน วันนั้นทนายจำเลยก็ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีเป็นครั้งแรก เพราะ ความเจ็บป่วย ซึ่งศาลควรจะต้องสั่งเลื่อนคดีตาม มาตรา 40 อยู่แล้ว ดังนั้น การที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโจทก์และนัดสืบพยานจำเลยต่อไปจึงเป็นการไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 243(2) แม้โจทก์จะมิได้โต้แย้งคำสั่งดังกล่าวของศาลชั้นต้นไว้ คดีก็ไม่ ต้องห้าม อุทธรณ์ฎีกา และเป็นกรณีแตกต่างกับการที่ ศาลชั้นต้นใช้ดุลพินิจ สั่งให้เลื่อนหรือไม่ให้เลื่อนคดี ซึ่งคู่ความที่จะอุทธรณ์ฎีกาคำสั่ง ระหว่างพิจารณาดังกล่าวจะต้องโต้แย้งคำสั่งศาลไว้จึงจะมีสิทธิ อุทธรณ์ฎีกา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2681/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประเด็นอายุความมรดกและการใช้สิทธิของเจ้าของรวม ศาลต้องพิจารณาตามประเด็นที่กำหนดไว้
ศาลชั้นต้นมิได้กำหนดเรื่องอายุความมรดกเป็นประเด็นไว้ และจำเลยก็มิได้โต้แย้งหรือคัดค้าน จึงไม่มีประเด็นข้อพิพาทในเรื่องอายุความรดก จำเลยย่อมหมดสิทธิอุทธรณ์ ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยในเรื่องอายุความมรดก จึงเป็นการนอกประเด็น
ที่ดินพิพาทเป็นทรัพย์มรดกของ ม.ซึ่งไม่ได้ทำพินัยกรรมยกให้ผู้ใด จำเลยเป็นทายาทโดยธรรมคนหนึ่งของ ม.ย่อมมีสิทธิได้รับมรดกที่ดินแปลงนี้ และมีส่วนเป็นเจ้าของรวมในที่ดินแปลงนี้ด้วย จำเลยปลูกบ้านอยู่ในที่พิพาทมาตั้งแต่เจ้ามรดกยังไม่ตาย หลังจากเจ้ามรดกตายก็ยังคงอยู่ต่อมา จำเลยมีสิทธิใช้ทรัพย์สินในฐานะเจ้าของรวม โจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกจึงไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยให้ออกไปจากที่ดินพิพาท
ที่ดินพิพาทเป็นทรัพย์มรดกของ ม.ซึ่งไม่ได้ทำพินัยกรรมยกให้ผู้ใด จำเลยเป็นทายาทโดยธรรมคนหนึ่งของ ม.ย่อมมีสิทธิได้รับมรดกที่ดินแปลงนี้ และมีส่วนเป็นเจ้าของรวมในที่ดินแปลงนี้ด้วย จำเลยปลูกบ้านอยู่ในที่พิพาทมาตั้งแต่เจ้ามรดกยังไม่ตาย หลังจากเจ้ามรดกตายก็ยังคงอยู่ต่อมา จำเลยมีสิทธิใช้ทรัพย์สินในฐานะเจ้าของรวม โจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกจึงไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยให้ออกไปจากที่ดินพิพาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2681/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประเด็นอายุความมรดกและการฟ้องขับไล่ทายาทผู้มีสิทธิในทรัพย์มรดก
ศาลชั้นต้นมิได้กำหนดเรื่องอายุความมรดกเป็นประเด็นไว้และจำเลยก็มิได้โต้แย้งหรือคัดค้าน จึงไม่มีประเด็นข้อพิพาทในเรื่องอายุความมรดก จำเลยย่อมหมดสิทธิอุทธรณ์ ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยในเรื่องอายุความมรดก จึงเป็นการนอกประเด็น
ที่ดินพิพาทเป็นทรัพย์มรดกของ ม. ซึ่งไม่ได้ทำพินัยกรรมยกให้ผู้ใด จำเลยเป็นทายาทโดยธรรมคนหนึ่งของม. ย่อมมีสิทธิได้รับมรดกที่ดินแปลงนี้ และมีส่วนเป็นเจ้าของรวมในที่ดินแปลงนี้ด้วย จำเลยปลูกบ้านอยู่ในที่พิพาทมาตั้งแต่เจ้ามรดกยังไม่ตาย หลังจากเจ้ามรดกตายก็ยังคงอยู่ต่อมา จำเลยมีสิทธิใช้ทรัพย์สินในฐานะเจ้าของรวม โจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกจึงไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยให้ออกไปจากที่ดินพิพาท
ที่ดินพิพาทเป็นทรัพย์มรดกของ ม. ซึ่งไม่ได้ทำพินัยกรรมยกให้ผู้ใด จำเลยเป็นทายาทโดยธรรมคนหนึ่งของม. ย่อมมีสิทธิได้รับมรดกที่ดินแปลงนี้ และมีส่วนเป็นเจ้าของรวมในที่ดินแปลงนี้ด้วย จำเลยปลูกบ้านอยู่ในที่พิพาทมาตั้งแต่เจ้ามรดกยังไม่ตาย หลังจากเจ้ามรดกตายก็ยังคงอยู่ต่อมา จำเลยมีสิทธิใช้ทรัพย์สินในฐานะเจ้าของรวม โจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกจึงไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยให้ออกไปจากที่ดินพิพาท