คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 226

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 675 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1222/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งไม่อนุญาตยื่นคำให้การใหม่เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา มิใช่วิธีพิจารณาคดี ทำให้ไม่อุทธรณ์ได้ทันที
ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับคำให้การจำเลยเพราะพ้นกำหนด 8 วันแม้จะเป็นการสั่งไม่รับคำคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 18 ซึ่งจำเลยอาจอุทธรณ์ได้ทันทีตามมาตรา 228 ข้อ (3) แต่จำเลยมิได้อุทธรณ์ จำเลยกลับใช้สิทธิตามมาตรา 199 ยื่นคำร้องขอ ให้ศาลชั้นต้นอนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การใหม่ ศาลชั้นต้นไม่อนุญาต ดังนี้ คำสั่งศาลชั้นต้นในครั้งหลังนี้เป็นคำสั่งเกี่ยวกับคำร้องขออนุญาตยื่นคำให้การของจำเลย มิใช่คำสั่งไม่รับคำให้การหรือคำสั่งอันเกี่ยวกับคำขอเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของคู่ความในระหว่างพิจารณาจึงเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226 ซึ่งจำเลยอุทธรณ์ทันทีไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1222/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งไม่อนุญาตยื่นคำให้การใหม่หลังขาดนัด เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา อุทธรณ์ไม่ได้
ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับคำให้การจำเลยเพราะพ้นกำหนด 8 วัน แม้จะเป็นการสั่งไม่รับคำคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18 ซึ่งจำเลยอาจอุทธรณ์ได้ทันทีตามมาตรา 228 ข้อ (3) แต่จำเลยมิได้อุทธรณ์ จำเลยกลับใช้สิทธิตามมาตรา 199 ยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นอนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การใหม่ ศาลชั้นต้นไม่อนุญาต ดังนี้ คำสั่งศาลชั้นต้นในครั้งหลังนี้เป็นคำสั่งเกี่ยวกับคำร้องขออนุญาตยื่นคำให้การของจำเลย มิใช่คำสั่งไม่รับคำให้การหรือคำสั่งอันเกี่ยวกับคำขอเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของคู่ความในระหว่างพิจารณาจึงเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226 ซึ่งจำเลยอุทธรณ์ทันทีไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 881/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าไม่มีกำหนดเวลา การบอกเลิกสัญญา และสิทธิในสิ่งปลูกสร้าง
สัญญาเช่าที่ไม่มีกำหนดเวลานั้น ประมวนกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 566 บัญญัติว่าคู่สัญญาฝ่ายใดบอกเลิกสัญญาในขณะเมื่อสุดระยะเวลาอันเป็นกำหนดชำระค่าเช่าได้ทุกระยะ จำเลยจะนำสืบว่าการเช่าไม่มีกำหนดเวลารายนี้คู่สัญญาเข้าใจกันหรือตามประเพณีว่าให้จำเลยมีสิทธิเช่าได้ตลอดไปหาได้ไม่ เพราะกฎหมายบัญญัติเรื่องนี้ไว้ชัดแจ้งแล้วการที่จะให้จำเลยนำสืบจึงไม่มีประโยชน์แก่คดี ศาลชอบที่จะตัดไม่ให้จำเลยสืบได้
สิ่งปลูกสร้างที่ปลูกในที่ดินซึ่งเช่ามาเมื่อสัญญาเช่าระงับลง ผู้เช่าก็ต้องรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างไป จะบังคับให้ผู้ให้เช่าที่ดินต้องซื้อสิ่งปลูกสร้างนั้นหาได้ไม่ กรณีไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1310
คำสั่งระหว่างพิจารณา ถ้าไม่ได้โต้แย้งไว้จะอุทธรณ์ฎีกาไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 881/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าไม่มีกำหนดเวลา การบอกเลิกสัญญา และสิทธิในสิ่งปลูกสร้าง
สัญญาเช่าที่ไม่มีกำหนดเวลานั้น ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 566 บัญญัติว่าคู่สัญญาฝ่ายใดบอกเลิกสัญญาในขณะเมื่อสุดระยะเวลาอันเป็นกำหนดชำระค่าเช่าได้ทุกระยะ จำเลยจะนำสืบว่าการเช่าไม่มีกำหนดเวลารายนี้คู่สัญญาเข้าใจกันหรือตามประเพณีว่าให้จำเลยมีสิทธิเช่าได้ตลอดไปหาได้ไม่ เพราะกฎหมายบัญญัติเรื่องนี้ไว้ชัดแจ้งแล้วการที่จะให้จำเลยนำสืบจึงไม่มีประโยชน์แก่คดี ศาลชอบที่จะตัดไม่ให้จำเลยสืบได้
สิ่งปลูกสร้างที่ปลูกในที่ดินซึ่งเช่ามาเมื่อสัญญาเช่าระงับลง ผู้เช่าก็ต้องรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างไปจะบังคับให้ผู้ให้เช่าที่ดินต้องซื้อสิ่งปลูกสร้างนั้นหาได้ไม่กรณีไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1310
คำสั่งระหว่างพิจารณา ถ้าไม่ได้โต้แย้งไว้จะอุทธรณ์ฎีกาไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 749/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีละเมิดปิดกั้นน้ำ และการงดสืบพยานที่โจทก์ไม่โต้แย้ง
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยทำการปิดกั้นน้ำในลำห้วยซึ่งไหลไปสู่นาโจทก์ ไม่ให้ไหลไปโดยจำเลยปิดตัน ซึ่งจำเลยก็ให้การรับว่าได้ปิดกั้นจริง แต่ไม่ได้ปิดตัน ไม่ทำให้โจทก์เสียหาย เช่นนี้เห็นได้ว่าถ้าได้มีการกระทำดังโจทก์ฟ้องและโจทก์เสียหาย การกระทำของจำเลยก็เป็นการละเมิดต่อโจทก์ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง
ถ้าคดียังเถียงกันอยู่ว่า การกระทำของจำเลยเป็นเหตุให้โจทก์เสียหายหรือไม่ซึ่งโจทก์มีหน้าที่นำสืบ เมื่อไม่มีการสืบพยานกันต่อไป ข้อเท็จจริงก็ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้กระทำละเมิดต่อโจทก์ โจทก์ไม่อาจชนะคดีจำเลยได้
คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้งดสืบพยานโจทก์จำเลยและนัดวันฟังคำพิพากษานั้นเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาก่อนศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดตัดสินคดี เมื่อโจทก์เห็นว่าชอบที่จะได้สืบพยานฝ่ายตนต่อไป ก็ต้องโต้แย้งคำสั่งนั้นไว้เพื่อจะได้อุทธรณ์คำสั่งนั้นต่อไป เมื่อโจทก์ไม่ได้โต้แย้งไว้ โจทก์จึงฎีกาในปัญหาข้อนี้ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 749/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การละเมิดปิดกั้นน้ำ การพิสูจน์ความเสียหาย และหน้าที่นำสืบพยานของผู้ฟ้อง
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยทำการปิดกั้นน้ำในลำห้วยซึ่งไหลไปสู่นาโจทก์ ไม่ให้ไหลไปโดยจำเลยปิดตัน ซึ่งจำเลยก็ให้การรับว่าได้ปิดกั้นจริง แต่ไม่ได้ปิดตัน ไม่ทำให้โจทก์เสียหาย เช่นนี้เห็นได้ว่าถ้าได้มีการกระทำดังโจทก์ฟ้องและโจทก์เสียหาย การกระทำของจำเลยก็เป็นการละเมิดต่อโจทก์ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง
ถ้าคดียังเถียงกันอยู่ว่า การกระทำของจำเลยเป็นเหตุให้โจทก์เสียหายหรือไม่ ซึ่งโจทก์มีหน้าที่นำสืบ เมื่อไม่มีการสืบพยานกันต่อไป ข้อเท็จจริงก็ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้กระทำละเมิดต่อโจทก์ โจทก์ไม่อาจชนะคดีจำเลยได้
คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้งดสืบพยานโจทก์จำเลยและนัดวันฟังคำพิพากษานั้นเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาก่อนศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดตัดสินคดี เมื่อโจทก์เห็นว่าชอบที่จะได้สืบพยานฝ่ายตนต่อไป ก็ต้องโต้แย้งคำสั่งนั้นไว้เพื่อจะได้อุทธรณ์คำสั่งนั้นต่อไป เมื่อโจทก์ไม่ได้โต้แย้งไว้ โจทก์จึงฎีกาในปัญหาข้อนี้ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 564/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์ความเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมาย และขอบเขตการสืบพยานในคดีครอบครัว
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1524 เป็นบทบัญญัติวิธีการพิสูจน์ความเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายอันสืบเนื่องมาจากมาตรา 1519 อันเป็นบทบัญญัติสำหรับเด็กที่เกิดในสมรสซึ่งกฎหมายสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นบุตรของชายผู้เป็นสามี เหตุนี้ ถ้ามีข้ออ้างว่าผู้ใดเป็นบุตรของหญิงชายซึ่งสมรสกันโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว ก็พิสูจน์ได้โดยวิธีการตามมาตรา 1524 ส่วนบุตรนอกกฎหมายที่บิดามารดามิได้สมรสกันโดยชอบด้วยกฎหมายนั้น จะเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายก็โดยบทบัญญัติมาตรา 1526 ต่อไป หาใช่ว่าพฤติการณ์ตามมาตรา 1524 เป็นวิธีการรับรองบุตรนอกสมรสให้เป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายขึ้นมานอกเหนือไปจากมาตรา 1526 อีกไม่
เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้สืบพยานเฉพาะข้อโต้เถียงในเรื่องทรัพย์สินข้อเดียวจำเลยหาได้โต้แย้งว่ามีประเด็นอื่นที่ต้องสืบพยานอีกไม่ ในที่สุดก็แถลงไม่สืบพยาน จำเลยจะมาเถียงว่าศาลมีคำสั่งตัดประเด็นข้อที่จะนำสืบว่าไม่ถูกต้องในชั้นฎีกาย่อมไม่ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226 เพราะคำสั่งศาลชั้นต้นเช่นนี้ไม่ใช่คำสั่งตามมาตรา 227, 228

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 564/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายและการสืบพยานประเด็นข้อตกลงการดูแลบุตร
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1524 เป็นบทบัญญัติวิธีการพิสูจน์ความเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายอันสืบเนื่องมาจากมาตรา 1519 อันเป็นบทบัญญัติสำหรับเด็กที่เกิดในสมรสซึ่งกฎหมายสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นบุตรของชายผู้เป็นสามีเหตุนี้ ถ้ามีข้ออ้างว่าผู้ใดเป็นบุตรของหญิงชายซึ่งสมรสกันโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว ก็พิสูจน์ได้โดยวิธีการตามมาตรา 1524 ส่วนบุตรนอกกฎหมายที่บิดามารดามิได้สมรสกันโดยชอบด้วยกฎหมายนั้นจะเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายก็โดยบทบัญญัติมาตรา 1526 ต่อไปหาใช่ว่าพฤติการณ์ตามมาตรา 1524 เป็นวิธีการรับรองบุตรนอกสมรสให้เป็น บุตรชอบด้วยกฎหมายขึ้นมานอกเหนือไปจากมาตรา 1526 อีกไม่
เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้สืบพยานเฉพาะข้อโต้เถียงในเรื่องทรัพย์สินข้อเดียว จำเลยหาได้โต้แย้งว่ามีประเด็นอื่นที่ต้องสืบพยาน อีกไม่ ในที่สุดก็แถลงไม่สืบพยาน จำเลยจะมาเถียงว่าศาลมีคำสั่ง ตัดประเด็นข้อที่จะนำสืบว่าไม่ถูกต้องในชั้นฎีกาย่อมไม่ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226 เพราะคำสั่งศาลชั้นต้นเช่นนี้ไม่ใช่คำสั่งตามมาตรา 227, 228

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1187/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งแต่งตั้ง/ถอดถอนผู้แทนเฉพาะคดีผู้เยาว์เป็นดุลพินิจของศาล เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ห้ามอุทธรณ์
คำสั่งแต่งตั้งหรือถอดถอนผู้แทนเฉพาะคดีของผู้เยาว์เป็นดุลพินิจของศาล และเป็นปัญหาข้อเท็จจริง ไม่ใช่การวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 24 และไม่ใช่คำสั่งตามมาตรา 227 หรือ 228 แต่เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา จึงต้องห้ามอุทธรณ์ตามมาตรา 226

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1187/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งแต่งตั้ง/ถอดถอนผู้แทนเฉพาะคดีผู้เยาว์เป็นดุลพินิจศาล เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ห้ามอุทธรณ์
คำสั่งแต่งตั้งหรือถอดถอนผู้แทนเฉพาะคดีของผู้เยาว์เป็นดุลพินิจของศาล และเป็นปัญหาข้อเท็จจริง ไม่ใช่การวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 24 และไม่ใช่คำสั่งตามมาตรา 227 หรือ 228 แต่เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา จึงต้องห้ามอุทธรณ์ตามมาตรา 226
of 68