พบผลลัพธ์ทั้งหมด 675 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1270/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่ส่งสำเนาคำฟ้องอุทธรณ์และผลกระทบต่อการฎีกา: คำสั่งระหว่างพิจารณาต้องห้ามฎีกา
โจทก์อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น แต่ไม่ดำเนินการส่งสำเนาแก่จำเลย ศาลชั้นต้นเห็นว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง (อุทธรณ์) จึงส่งสำนวนไปยังศาลอุทธรณ์มีคำสั่งแต่ศาลอุทธรณ์เห็นว่ายังไม่เข้ากรณีทิ้งฟ้องจึงสั่งให้ศาลชั้นต้นสั่งกำหนดวันให้โจทก์มานำเจ้าพนักงานศาลนำหมายนัดและสำเนาอุทธรณ์เพื่อส่งแก่จำเลย ดังนี้ถือว่าคำสั่งของศาลอุทธรณ์เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาต้องห้ามมิให้ฎีกาตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 247, 226
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1270/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่ส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลย และผลกระทบต่อการฎีกา
โจทก์อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น แต่ไม่ดำเนินการส่งสำเนาแก่จำเลยศาลชั้นต้นเห็นว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง(อุทธรณ์)จึงส่งสำนวนไปยังศาลอุทธรณ์มีคำสั่งแต่ศาลอุทธรณ์เห็นว่ายังไม่เข้ากรณีทิ้งฟ้อง จึงสั่งให้ศาลชั้นต้นสั่งกำหนดวันให้โจทก์มานำเจ้าพนักงานศาลนำหมายนัดและสำเนาอุทธรณ์เพื่อส่งแก่จำเลย ดังนี้ ถือว่า คำสั่งของศาลอุทธรณ์เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 247,226
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1106/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นเกี่ยวกับการเคลือบคลุมของฟ้อง ทำให้จำเลยไม่มีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาในข้อนี้
จำเลยขอให้ศาลชี้ขาดเบื้องต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 24 ว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม ศาลสั่งไปแล้วว่าฟ้องไม่เคลือบคลุม จำเลยไม่ได้อุทธรณ์คำสั่งนี้ ภายในกำหนด ทั้งมิได้โต้แย้งคำสั่งนั้นแต่ประการใด จำเลยจึงไม่มีสิทธิจะอุทธรณ์ฎีกาในข้อนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1106/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมิอาจอุทธรณ์ฎีกาในประเด็นที่เคยถูกยกข้อกล่าวหาในชั้นชี้ขาดเบื้องต้น และประเด็นอายุความที่มิได้ยกขึ้นต่อสู้
จำเลยขอให้ศาลชี้ขาดเบื้องต้นตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 24 ว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม ศาลสั่งไปแล้วว่าฟ้องไม่เคลือบคลุมจำเลยไม่ได้อุทธรณ์คำสั่งนี้ ภายในกำหนดทั้งมิได้โต้แย้งคำสั่งนั้นแต่ประการใด จำเลยจึงไม่มีสิทธิจะอุทธรณ์ฎีกาในข้อนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 959/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การระบุพยานและการส่งเอกสารประกอบคดี: การพิจารณา 'วันสืบพยาน' และผลของการไม่คัดค้านข้อกล่าวหาในชั้นศาล
'วันสืบพยาน' หมายความว่าวันที่ศาลเริ่มต้นทำการสืบพยาน
จำเลยระบุพยานก่อนวันนัดสืบพยานครั้งแรก 2 วัน แต่พอถึงกำหนดนัดสืบ ได้มีการเลื่อนวันสืบพยานต่อไปอีกและได้มีการเริ่มต้นสืบพยานกันในภายหลังอีกเดือนเศษ ดังนี้จะถือว่าจำเลยระบุพยานผิดวิธีพิจารณาไม่ได้
โจทก์ฎีกาคัดค้านว่าจำเลยมิได้ส่งสำเนาเอกสารให้โจทก์ก่อนวันสืบพยานแต่ปรากฏตามรายงานการพิจารณาของศาลว่าโจทก์ไม่คัดค้านข้อนี้แล้ว จึงจะฎีกาในข้อที่ไม่ได้คัดค้านไว้หาได้ไม่
จำเลยระบุพยานก่อนวันนัดสืบพยานครั้งแรก 2 วัน แต่พอถึงกำหนดนัดสืบ ได้มีการเลื่อนวันสืบพยานต่อไปอีกและได้มีการเริ่มต้นสืบพยานกันในภายหลังอีกเดือนเศษ ดังนี้จะถือว่าจำเลยระบุพยานผิดวิธีพิจารณาไม่ได้
โจทก์ฎีกาคัดค้านว่าจำเลยมิได้ส่งสำเนาเอกสารให้โจทก์ก่อนวันสืบพยานแต่ปรากฏตามรายงานการพิจารณาของศาลว่าโจทก์ไม่คัดค้านข้อนี้แล้ว จึงจะฎีกาในข้อที่ไม่ได้คัดค้านไว้หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 959/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การระบุพยานและการส่งเอกสารก่อนวันสืบพยาน: ความถูกต้องตามวิธีพิจารณา
"วันสืบพยาน" หมายความว่าวันที่ศาลเริ่มต้นทำการสืบพยาน
จำเลยระบุพยานก่อนวันนัดสืบพยานครั้งแรก 2 วัน แต่พอถึงกำหนดนัดสืบได้มีการเลื่อนวันสืบพยานต่อไปอีกและได้มีการเริ่มต้นสืบพยานกันในภายหลังอีกเดือน เศษดังนี้จะถือว่าจำเลยระบุพยานผิดวิธีพิจารณาไม่ได้
โจทก์ฎีกาคัดค้านว่าจำเลยมิได้ส่งสำเนาเอกสารให้โจทก์ก่อนวันสืบพยาน แต่ปรากฎตามรายงานการพิจารณาของศาลว่าโจทก์ไม่คัดค้านข้อนี้แล้ว จึงจะฎีกาในข้อที่ไม่ได้คัดค้านไว้หาได้ไม่
จำเลยระบุพยานก่อนวันนัดสืบพยานครั้งแรก 2 วัน แต่พอถึงกำหนดนัดสืบได้มีการเลื่อนวันสืบพยานต่อไปอีกและได้มีการเริ่มต้นสืบพยานกันในภายหลังอีกเดือน เศษดังนี้จะถือว่าจำเลยระบุพยานผิดวิธีพิจารณาไม่ได้
โจทก์ฎีกาคัดค้านว่าจำเลยมิได้ส่งสำเนาเอกสารให้โจทก์ก่อนวันสืบพยาน แต่ปรากฎตามรายงานการพิจารณาของศาลว่าโจทก์ไม่คัดค้านข้อนี้แล้ว จึงจะฎีกาในข้อที่ไม่ได้คัดค้านไว้หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 867/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่า การชำระเงินกินเปล่าตามสัญญา และผลของการบอกเลิกสัญญา
ข้อความในสัญญาจะเช่ามีว่าถ้าผู้ให้เช่าส่งมอบห้องเช่าให้ผู้เช่าได้ก่อน กำหนดบ้างแล้วผู้เช่าจะชำระเงินกินเปล่าที่ค้างอีกครึ่งหนึ่งให้ ดังนี้ เมื่อผู้ให้เช่าได้จัดการส่งมอบห้องเช่าบางห้องให้ผู้เช่าอยู่ได้ก่อนกำหนดแล้ว ผู้เช่าก็ต้องชำระเงินกินเปล่าอีกครึ่งหนึ่งแก่ผู้ให้เช่าตามที่สัญญาไว้
ทำสัญญาให้เช่าเคหะโดยเรียกกินเปล่าโดยตอนเริ่มแรกเช่านั้น ไม่ใช่เป็นการเรียกเงินค่ากินเปล่าอันเป็นการพิ่มค่าเช่า จึงไม่ขัดกับ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า 2488 มาตรา 10,11
ศาลชั้นต้นกะประเด็นให้สืบพยานเฉพาะประเด็นข้อเดียวจำเลยประสงค์จะสืบพยานในประเด็นข้ออื่น แต่ก็หาได้โต้แย้งคำสั่งศาลชั้นต้นไว้ตาม ป.วิ.แพ่งม.226 จำเลยจะมาโต้แย้งในชั้นอุทธรณ์หรือฎีกาไม่ได้ จะขอสืบพยานในข้อนี้ก็ไม่ได้
ทำสัญญาให้เช่าเคหะโดยเรียกกินเปล่าโดยตอนเริ่มแรกเช่านั้น ไม่ใช่เป็นการเรียกเงินค่ากินเปล่าอันเป็นการพิ่มค่าเช่า จึงไม่ขัดกับ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า 2488 มาตรา 10,11
ศาลชั้นต้นกะประเด็นให้สืบพยานเฉพาะประเด็นข้อเดียวจำเลยประสงค์จะสืบพยานในประเด็นข้ออื่น แต่ก็หาได้โต้แย้งคำสั่งศาลชั้นต้นไว้ตาม ป.วิ.แพ่งม.226 จำเลยจะมาโต้แย้งในชั้นอุทธรณ์หรือฎีกาไม่ได้ จะขอสืบพยานในข้อนี้ก็ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 867/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่า การชำระเงินกินเปล่าเมื่อส่งมอบห้องก่อนกำหนด และผลของการบอกเลิกสัญญา
ข้อความในสัญญาจะเช่ามีว่าถ้าผู้ให้เช่าส่งมอบห้องเช่าให้ผู้เช่าได้ก่อน กำหนดบ้างแล้วผู้เช่าจะชำระเงินกินเปล่าที่ค้างอีกครึ่งหนึ่งให้ดังนี้ เมื่อผู้ให้เช่าได้จัดการส่งมอบห้องเช่าบางห้องให้ผู้เช่าอยู่ได้ก่อนกำหนดแล้วผู้เช่าก็ต้องชำระเงินกินเปล่าอีกครึ่งหนึ่งแก่ผู้ให้เช่าตามที่สัญญาไว้
ทำสัญญาให้เช่าเคหะโดยเรียกกินเปล่ากันในตอนเริ่มแรกเช่านั้น ไม่ใช่เป็นการเรียกเงินค่ากินเปล่าอันเป็นการเพิ่มค่าเช่าจึงไม่ขัดกับพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า 2488 มาตรา 10,11
ศาลชั้นต้นกะประเด็นให้สืบพยานเฉพาะประเด็นข้อเดียวจำเลยประสงค์จะสืบพยานในประเด็นข้ออื่นอีก แต่ก็หาได้โต้แย้งคำสั่งศาลชั้นต้นไว้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226 จำเลยจะมาโต้แย้งในชั้นอุทธรณ์หรือฎีกาไม่ได้ จะขอสืบพยานในข้อนี้ก็ไม่ได้
ทำสัญญาให้เช่าเคหะโดยเรียกกินเปล่ากันในตอนเริ่มแรกเช่านั้น ไม่ใช่เป็นการเรียกเงินค่ากินเปล่าอันเป็นการเพิ่มค่าเช่าจึงไม่ขัดกับพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า 2488 มาตรา 10,11
ศาลชั้นต้นกะประเด็นให้สืบพยานเฉพาะประเด็นข้อเดียวจำเลยประสงค์จะสืบพยานในประเด็นข้ออื่นอีก แต่ก็หาได้โต้แย้งคำสั่งศาลชั้นต้นไว้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226 จำเลยจะมาโต้แย้งในชั้นอุทธรณ์หรือฎีกาไม่ได้ จะขอสืบพยานในข้อนี้ก็ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1646/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสิ้นสุดอำนาจทนายความและการฟ้องอุทธรณ์ ศาลรับคำคู่ความตามมาตรา 18 ว.พ.พ.
การที่จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลอุทธรณ์จำหน่ายฟ้องอุทธรณ์ของโจทก์เสียโดยทนายโจทก์ไม่มีอำนาจเรียงฟ้องอุทธรณ์ เพราะขาดต่อใบอนุญาตเป็นทนาย ศาลอุทธรณ์สั่งยกคำร้องจำเลยฎีกาดังนี้ เป็นกรณีที่ศาลสั่งรับคำคู่ความตามมาตรา 18 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ไม่เข้าอยู่ในบทบัญญัติแห่งมาตรา 227, หรือ 228 ซึ่งจะต้องอุทธรณ์ฎีกาก่อนที่จะได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดคดีได้ กรณีต้องบังคับตามบทบัญญัติแห่งมาตรา 226 ซึ่งจำเลยยังฎีกาในขณะนี้มิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1646/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจทนายความและการฎีกาคำสั่งรับคำคู่ความ
การที่จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลอุทธรณ์จำหน่ายฟ้องอุทธรณ์ของโจทก์เสียโดยทนายโจทก์ไม่มีอำนาจเรียงฟ้องอุทธรณ์ เพราะขาดต่อใบอนุญาตเป็นทนาย ศาลอุทธรณ์สั่งยกคำร้องจำเลยฎีกา ดังนี้ เป็นกรณีที่ศาลสั่งรับคำคู่ความตามมาตรา 18 ป.ม.วิ.แพ่ง ไม่เข้าอยู่ในบทบัญญัติแห่งมาตรา 227, หรือ 228 ซึ่งจะต้องอุทธรณ์ฎีกาก่อนที่จะได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดคดีได้ กรณีต้องบังคับตามบทบัญญัติแห่งมาตรา 226 ซึ่งจำเลยยังฎีกาในขณะนี้มิได้