พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7371/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขยายระยะเวลายื่นฎีกา: เหตุผลและความชอบด้วยกฎหมาย
จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นฎีกา ศาลชั้นต้นยกคำร้อง จำเลยที่ 1 จึงอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นเช่นนี้ อุทธรณ์ของจำเลยที่ 1เป็นการอุทธรณ์ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 193 วรรคแรก ซึ่งศาลชั้นต้นต้องส่งอุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 ไปยังศาลอุทธรณ์ภาค 3 ก่อน การที่ศาลชั้นต้นสั่งให้รวมส่งมายังศาลฎีกาพร้อมกับฎีกาของจำเลยที่ 2 จึงไม่ชอบ แต่ศาลฎีกาเห็นสมควรวินิจฉัยปัญหาว่ามีเหตุอันควรขยายระยะเวลายื่นฎีกาให้จำเลยที่ 1 ไป โดยไม่ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นเพื่อจัดส่งคำฟ้องไปให้ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิจารณาก่อน
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ร่วมกันชิงทรัพย์ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นให้จำคุกจำเลยทั้งสองคนละ 12 ปี จำเลยที่ 2 ได้ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นฎีกา ต่อมาเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาให้ยื่นฎีกาแล้ว จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นฎีกาอ้างว่าจำเลยที่ 2 ได้ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาฎีกาเป็น 45 วันแล้ว จำเลยที่ 1เข้าใจว่าคำร้องดังกล่าวมีผลถึงจำเลยที่ 1 ด้วย ดังนี้ เมื่อจำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นฎีกาต่อศาลชั้นต้นภายหลังจากระยะเวลาที่กำหนดไว้ตามกฎหมายสิ้นไปแล้ว โดยไม่ปรากฏมีพฤติการณ์พิเศษและมีเหตุสุดวิสัยอย่างใด กรณีไม่มีเหตุที่จะขยายระยะเวลายื่นฎีกาให้จำเลยที่ 1 ได้ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 23 ประกอบป.วิ.อ. มาตรา 15
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ร่วมกันชิงทรัพย์ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นให้จำคุกจำเลยทั้งสองคนละ 12 ปี จำเลยที่ 2 ได้ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นฎีกา ต่อมาเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาให้ยื่นฎีกาแล้ว จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นฎีกาอ้างว่าจำเลยที่ 2 ได้ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาฎีกาเป็น 45 วันแล้ว จำเลยที่ 1เข้าใจว่าคำร้องดังกล่าวมีผลถึงจำเลยที่ 1 ด้วย ดังนี้ เมื่อจำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นฎีกาต่อศาลชั้นต้นภายหลังจากระยะเวลาที่กำหนดไว้ตามกฎหมายสิ้นไปแล้ว โดยไม่ปรากฏมีพฤติการณ์พิเศษและมีเหตุสุดวิสัยอย่างใด กรณีไม่มีเหตุที่จะขยายระยะเวลายื่นฎีกาให้จำเลยที่ 1 ได้ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 23 ประกอบป.วิ.อ. มาตรา 15
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4039/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขยายระยะเวลายื่นฎีกาและการพิจารณาคำสั่งศาลชั้นต้นที่เกี่ยวข้องกับฎีกา
การที่โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นกำหนดระยะเวลายื่นฎีกาให้แก่โจทก์ภายหลังจากพ้นกำหนดระยะเวลาที่อาจยื่นฎีกาได้แล้วนั้นเป็นเรื่องขอขยายระยะเวลายื่นฎีกา การขอขยายระยะเวลายื่นฎีกา เป็นอำนาจของศาลชั้นต้นที่จะพิจารณาและมีคำสั่งไปตามบทบัญญัติแห่ง ป.วิ.พ. มาตรา 23 ประกอบด้วยป.วิ.อ. มาตรา 15 และไม่ว่าโจทก์จะยื่นฎีกามาด้วยหรือไม่ก็ตามก็ไม่จำเป็นที่ศาลชั้นต้นจะต้องพิจารณาไปถึงเนื้อหาแห่งคำฟ้องฎีกานั้นด้วย เพราะยังมิใช่ขั้นตอนจะมีคำสั่งรับหรือไม่รับฎีกาคำสั่งของศาลชั้นต้นในกรณีเช่นนี้จึงมิใช่คำสั่งในเรื่องเกี่ยวเนื่องกับการที่จะรับหรือไม่รับฎีกา เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องของโจทก์ดังกล่าว จึงมิใช่กรณีที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาตาม ป.วิ.อ. มาตรา 223 โจทก์ย่อมมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวต่อศาลอุทธรณ์ได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 193วรรคแรก มิใช่อุทธรณ์ต่อศาลฎีกาตาม ป.วิ.อ. มาตรา 224 วรรคแรกที่ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของโจทก์และพิพากษายกอุทธรณ์เสียนั้นไม่ชอบ แต่ศาลฎีกาเห็นสมควรวินิจฉัยปัญหาที่ว่ามีเหตุอันควรขยายระยะเวลายื่นฎีกาให้โจทก์หรือไม่ไปเลยโดยไม่ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาและพิพากษาใหม่ โจทก์มีสิทธิฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภายในกำหนดหนึ่งเดือนนับแต่วันอ่านหรือถือว่าได้อ่านคำพิพากษานั้นให้โจทก์ฟังตาม ป.วิ.อ. มาตรา 216 วรรคแรก ซึ่งโจทก์ก็ได้ยื่นฎีกาต่อศาลชั้นต้นภายในกำหนดไว้แล้ว หากโจทก์ประสงค์จะแก้ไขหรือเพิ่มเติมฎีกาของโจทก์นอกเหนือจากที่ฎีกาไว้เดิม โจทก์ก็ชอบที่จะร้องขอภายในกำหนดระยะเวลาที่ให้ยื่นฎีกา จะมายื่นฎีกาใหม่หลังจากพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าวหาได้ไม่ เมื่อโจทก์เพิ่งยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นกำหนดระยะเวลายื่นฎีกาให้แก่โจทก์ ซึ่งเท่ากับขอขยายระยะเวลาฎีกาภายหลังจากระยะเวลาที่กำหนดไว้ตามกฎหมายสิ้นไปแล้วโดยไม่ปรากฏว่ามีพฤติการณ์พิเศษหรือมีเหตุสุดวิสัยอย่างใด กรณีจึงไม่มีเหตุที่จะขยายระยะเวลายื่นฎีกาให้โจทก์ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 23ประกอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 15. (วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 5/2534)