พบผลลัพธ์ทั้งหมด 182 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1263/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการขอคืนของกลาง: แม้โจทก์ไม่คัดค้านคำร้อง แต่ศาลต้องเปิดโอกาสให้โจทก์สืบพยานหักล้างได้เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
ในกรณีผู้เป็นเจ้าของทรัพย์ที่ถูกศาลสั่งให้ริบยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นขอให้คืนทรัพย์ที่ริบเพราะมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำผิด แม้โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้วมิได้คัดค้านก็ตาม จะถือว่าโจทก์ยอมรับว่าทรัพย์ของกลางนั้นเป็นของผู้ร้องรวมตลอดทั้งเหตุผลที่อ้างในการขอคืนทรัพย์ในคำร้องนั้นด้วยยังไม่ได้ และการที่โจทก์มายื่นบัญชีอ้างพยานเมื่อฝ่ายผู้ร้องสืบพยานเสร็จ ศาลก็มีอำนาจอนุญาตให้โจทก์สืบพยานได้ หากศาลเห็นสมควรเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 265/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรอการลงโทษโดยคำนึงถึงสภาพแวดล้อมที่ดีของผู้ต้องหาและการกลับตัวเป็นคนดี
ใบรับรองของโรงเรียนที่จำเลยส่งพร้อมคำฟ้องอุทธรณ์ แม้จะไม่มีพยานบุคคลรับรองความถูกต้องแท้จริง แต่โจทก์ก็มิได้แก้อุทธรณ์หรือคัดค้านในชั้นนั้น และแม้จะเป็นการอ้างพยานเอกสารโดยผิดระเบียบ แต่เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ศาลก็มีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานเช่นนี้ได้ในเมื่อจำเป็นต้องสืบพยานหลักฐานอันสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87 (2)
การที่จำเลยกำลังศึกษาเล่าเรียนอยู่ นับว่ากำลังอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี เมื่อเปรียบเทียบการให้จำคุกจำเลยไปทีเดียว การรอการลงโทษเพื่อให้โอกาสจำเลยกลับไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีเช่นนั้น จะเป็นผลดีแก่จำเลยในทางกลับตัวได้ยิ่งกว่า การรอการลงโทษจำเลยไว้จึงเป็นการสมควร
การที่จำเลยกำลังศึกษาเล่าเรียนอยู่ นับว่ากำลังอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี เมื่อเปรียบเทียบการให้จำคุกจำเลยไปทีเดียว การรอการลงโทษเพื่อให้โอกาสจำเลยกลับไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีเช่นนั้น จะเป็นผลดีแก่จำเลยในทางกลับตัวได้ยิ่งกว่า การรอการลงโทษจำเลยไว้จึงเป็นการสมควร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 265/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ดุลพินิจรอการลงโทษโดยคำนึงถึงสภาพแวดล้อมที่ดีของผู้ต้องหา และการรับฟังพยานหลักฐานที่ไม่ถูกต้องตามระเบียบ
ใบรับรองของโรงเรียนที่จำเลยส่งพร้อมคำฟ้องอุทธรณ์ แม้จะไม่มีพยานบุคคลรับรองความถูกต้องแท้จริงแต่โจทก์ก็มิได้แก้อุทธรณ์หรือคัดค้านในชั้นนั้น และแม้จะเป็นการอ้างพยานเอกสารโดยผิดระเบียบแต่เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมศาลก็มีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานเช่นนี้ได้ในเมื่อจำเป็นต้องสืบพยานหลักฐานอันสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87(2)
การที่จำเลยกำลังศึกษาเล่าเรียนอยู่ นับว่ากำลังอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี เมื่อเปรียบเทียบการให้จำคุกจำเลยไปทีเดียว การรอการลงโทษเพื่อให้โอกาสจำเลยกลับไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีเช่นนั้นจะเป็นผลดีแก่จำเลยในทางกลับตัวได้ยิ่งกว่า การรอการลงโทษจำเลยไว้จึงเป็นการสมควร
การที่จำเลยกำลังศึกษาเล่าเรียนอยู่ นับว่ากำลังอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี เมื่อเปรียบเทียบการให้จำคุกจำเลยไปทีเดียว การรอการลงโทษเพื่อให้โอกาสจำเลยกลับไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีเช่นนั้นจะเป็นผลดีแก่จำเลยในทางกลับตัวได้ยิ่งกว่า การรอการลงโทษจำเลยไว้จึงเป็นการสมควร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 265/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ดุลพินิจศาลในการรอการลงโทษ โดยคำนึงถึงสภาพแวดล้อมที่ดีของผู้ต้องหาและการกลับตัวเป็นคนดี
ใบรับรองของโรงเรียนที่จำเลยส่งพร้อมคำฟ้องอุทธรณ์. แม้จะไม่มีพยานบุคคลรับรองความถูกต้องแท้จริง. แต่โจทก์ก็มิได้แก้อุทธรณ์หรือคัดค้านในชั้นนั้น. และแม้จะเป็นการอ้างพยานเอกสารโดยผิดระเบียบ. แต่เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม. ศาลก็มีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานเช่นนี้ได้ในเมื่อจำเป็นต้องสืบพยานหลักฐานอันสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87(2).
การที่จำเลยกำลังศึกษาเล่าเรียนอยู่ นับว่ากำลังอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี. เมื่อเปรียบเทียบการให้จำคุกจำเลยไปทีเดียว. การรอการลงโทษเพื่อให้โอกาสจำเลยกลับไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีเช่นนั้น. จะเป็นผลดีแก่จำเลยในทางกลับตัวได้ยิ่งกว่า. การรอการลงโทษจำเลยไว้จึงเป็นการสมควร.
การที่จำเลยกำลังศึกษาเล่าเรียนอยู่ นับว่ากำลังอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี. เมื่อเปรียบเทียบการให้จำคุกจำเลยไปทีเดียว. การรอการลงโทษเพื่อให้โอกาสจำเลยกลับไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีเช่นนั้น. จะเป็นผลดีแก่จำเลยในทางกลับตัวได้ยิ่งกว่า. การรอการลงโทษจำเลยไว้จึงเป็นการสมควร.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 578/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่ยื่นบัญชีระบุพยานเนื่องจากความเข้าใจผิด ศาลให้โอกาสแก้ไขเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
โจทก์มิได้ยื่นบัญชีระบุพยานเพราะตัวโจทก์ซึ่งเป็นชาวชนบทอายุ 70 ปีเศษเข้าใจว่าศาลสั่งนัดพร้อมอีก(นัดพร้อมมา 3 ครั้งแล้ว) และบอกทนายโจทก์เช่นนั้นทนายโจทก์จึงมอบฉันทะให้เสมียนมาฟังคำสั่งและวันนัดสืบพยาน เช่นนี้ เห็นได้ว่าไม่ใช่โจทก์จงใจฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อประโยชน์แห่งความยุตธรรมศาลให้โจทก์ระบุพยานและนัดสืบพยานโจทก์จำเลยต่อไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 578/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความเข้าใจผิดเรื่องวันนัดคดี: ศาลอนุญาตให้ระบุพยานเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
โจทก์มิได้ยื่นบัญชีระบุพยานเพราะตัวโจทก์ซึ่งเป็นชาวชนบทอายุ 70 ปีเศษเข้าใจว่าศาลสั่งนัดพร้อมอีก (นัดพร้อมมา 3 ครั้งแล้วและบอกทนายโจทก์เช่นนั้นทนายโจทก์จึงมอบฉันทะให้เสมียนมาฟังคำสั่งและวันนัดสืบพยาน เช่นนี้ เห็นได้ว่าไม่ใช่โจทก์จงใจฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมศาลให้โจทก์ระบุพยานและนัดสืบพยานโจทก์จำเลยต่อไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 655/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานหลักฐานที่ยื่นหลังกำหนด และการไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนวิธีพิจารณาความแพ่ง
การที่จะรับฟังพยานหลักฐานซึ่งคู่ความระบุหรือยื่นฝ่าฝืนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 และ 90 หรือไม่เพียงไรนั้น ต้องพิจารณาตามพฤติการณ์และเหตุผลเป็นเรื่อง ๆ ไป คดีที่ศาลให้โจทก์นำสืบก่อนนับแต่วันชี้สองสถานถึงวันสืบพยานโจทก์เป็นระยะเวลาถึง 1 เดือน จำเลยก็ไม่ยื่นบัญชีพยานหรือหาทนายแก้ต่าง และจะอ้างว่าไม่ได้ระบุและส่งสำเนาเอกสารเนื่องจากไม่มีทนายความ ตนเองไม่ค่อยเข้าใจ ไม่รู้กฎหมาย ดังนี้หาได้ไม่ และที่เพิ่งมายื่นบัญชีพยานและส่งเอกสารที่ตนจะอ้างภายหลังที่โจทก์สืบพยานเสร็จสิ้นแล้ว ทำให้โจทก์เสียเปรียบด้วย กรณีก็ปราศจากเหตุผลอันสมควรที่จะอนุญาตให้จำเลยยื่นบัญชีพยานและรับฟังพยานหลักฐานนั้น ๆ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 655/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานหลักฐานที่ไม่เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง: เหตุผลที่ไม่เพียงพอ
การที่จะรับฟังพยานหลักฐานซึ่งคู่ความระบุหรือยื่นฝ่าฝืนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 และ 90 หรือไม่เพียงไรนั้น ต้องพิจารณาตามพฤติการณ์และเหตุผลเป็นเรื่องๆ ไปคดีที่ศาลให้โจทก์นำสืบก่อนนับแต่วันชี้สองสถานถึงวันสืบพยานโจทก์เป็นระยะเวลาถึง 1 เดือน จำเลยก็ไม่ยื่นบัญชีพยานหรือหาทนายแก้ต่าง แล้วจะอ้างว่าไม่ได้ระบุและส่งสำเนาเอกสารเนื่องจากไม่มีทนายความตนเองไม่ค่อยเข้าใจ ไม่รู้กฎหมาย ดังนี้หาได้ไม่ และที่เพิ่งมายื่นบัญชีพยานและส่งเอกสารที่ตนจะอ้างภายหลังที่โจทก์สืบพยานเสร็จสิ้นแล้วทำให้โจทก์เสียเปรียบด้วยกรณีก็ปราศจากเหตุผลอันสมควรที่จะอนุญาตให้จำเลยยื่นบัญชีพยานและรับฟังพยานหลักฐานนั้นๆ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 515/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานหลักฐานโฉนดที่ดิน แม้ไม่ส่งสำเนาตามกฎหมาย เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
โฉนดไม่ใช่เอกสารเป็นชุดดังที่กล่าวไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 90 (1) เพราะจะมีขึ้นสำหรับที่ดินแปลงใดก็เพียง 2 ฉบับ โดยทำเป็นอย่างเดียวกัน หาได้ออกเป็นชุดไม่ แต่โฉนดเป็นเอกสารที่ทางราชการออกให้ ข้อความในโฉนดย่อมเป็นที่เชื่อถือได้ แม้คู่ความฝ่ายที่อ้างจะยื่นต่อศาลในวันสืบพยานโดยมิได้ส่งสำเนาให้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามมาตรา 90 แต่เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ศาลก็มีอำนาจรับฟังได้ตามมาตรา 87 (2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 515/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
โฉนดไม่ใช่เอกสารเป็นชุด แม้ไม่ส่งสำเนา ศาลรับฟังได้เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
โฉนดไม่ใช่เอกสารเป็นชุดดังที่กล่าวไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 90(1) เพราะมีขึ้นสำหรับที่ดินแปลงใดก็เพียง 2 ฉบับ โดยทำเป็นอย่างเดียวกันหาได้ออกเป็นชุดไม่ แต่โฉนดเป็นเอกสารที่ทางราชการออกให้ข้อความในโฉนดย่อมเป็นที่เชื่อถือได้แม้คู่ความฝ่ายที่อ้างจะยื่นต่อศาลในวันสืบพยานโดยมิได้ส่งสำเนาให้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามมาตรา 90 แต่เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ศาลก็มีอำนาจรับฟังได้ตามมาตรา 87(2)