พบผลลัพธ์ทั้งหมด 13 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4041/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาค้ำประกันการศึกษาต่างประเทศ, อายุความดอกเบี้ย, และขอบเขตความรับผิดของผู้ค้ำประกัน
จำเลยทำสัญญาค้ำประกันการชำระหนี้ตามสัญญาของข้าราชการที่ไปศึกษาหรือฝึกอบรม ณ ต่างประเทศที่ ย.ทำกับโจทก์ซึ่งข้อความในสัญญาที่ ย.ทำกับโจทก์มีว่าเมื่อย.เสร็จการศึกษาที่ย.ได้รับอนุมัติให้ไปศึกษาหรือถูกเรียกตัวกลับ และ ย.ไม่กลับมารับราชการกับโจทก์หรือกระทรวงทบวงกรมอื่นที่ทางราชการเห็นสมควรเป็นเวลาไม่น้อยกว่าสองเท่าของเวลาที่ได้รับทุน หรือที่ได้รับเงินเดือนรวมทั้งเงินเพิ่ม สุดแต่เวลาใดจะมากกว่ากัน หรือ ย.กลับมารับราชการบ้างแต่ไม่ครบกำหนดเวลาดังกล่าว จำเลยสัญญาว่าหาก ย.ไม่ชดใช้ทุนและหรือเงินเดือนรวมทั้งเงินเพิ่มและเบี้ยปรับให้แก่โจทก์ตามสัญญา จำเลยยินยอมชำระหนี้ให้แก่โจทก์ตามความรับผิดของ ย.ทั้งสิ้นเท่านั้น เมื่อปรากฏว่าหลังจากครบกำหนด 3 ปี9 เดือน ที่ ย.ได้รับทุนไปศึกษาต่อย.ได้ขอลาศึกษาต่อด้วยทุนส่วนตัวหลายครั้ง และโจทก์ก็อนุมัติให้ ย.ลาศึกษาต่อโดยไม่แจ้งให้จำเลยทราบ และจำเลยมิได้ทำสัญญาค้ำประกันการลาศึกษาต่อของย.ต่อโจทก์อีก จำเลยคงรับผิดต่อโจทก์ตามสัญญาค้ำประกันเดิมสำหรับการปฏิบัติตามสัญญาของ ย.ในการลาไปศึกษาต่อเป็นเวลา3 ปี 9 เดือน เท่านั้น สำหรับทุนที่ ย.จะต้องรับผิดคืนแก่โจทก์นั้น ปรากฏตามระเบียบว่าด้วยการให้ข้าราชการไปศึกษา ฝึกอบรมและดูงาน และเพื่อการครองชีพระหว่างศึกษา ฝึกอบรมและดูงาน ณ ต่างประเทศ พ.ศ. 2512ว่า หมายความถึงเงินค่าใช้จ่ายเพื่อการศึกษา ฝึกอบรมหรือดูงานและเพื่อการครองชีพระหว่างศึกษา ฝึกอบรมหรือดูงาน และหมายความรวมตลอดถึงเงินค่าพาหนะเดินทางด้วย ย.จึงต้องรับผิดใช้คืนเงินทุนที่ได้รับจากรัฐบาลฝรั่งเศสและค่าเครื่องบินทั้งขาไปและขากลับจากการศึกษาต่อ รวมทั้งเงินเดือนที่ ย.ได้รับไปจากโจทก์ในระหว่างเวลาที่ได้รับอนุมัติให้ไปศึกษาต่อแก่โจทก์พร้อมทั้งเบี้ยปรับอีกหนึ่งเท่า ที่โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระดอกเบี้ยนับตั้งแต่วันที่โจทก์มีหนังสือทวงถาม ย.จนถึงวันฟ้องนั้นเป็นการฟ้องให้จำเลยชำระดอกเบี้ยค้างส่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 166 เดิมซึ่งมีกำหนดอายุความ 5 ปี แม้จำเลยไม่ได้ยกอายุความขึ้นเป็นข้อต่อสู้ก่อนโจทก์นำคดีขึ้นสู่ศาล แต่จำเลยก็ได้ให้การต่อสู้ในชั้นศาลว่าฟ้องโจทก์เกี่ยวกับดอกเบี้ยดังกล่าวขาดอายุความ โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิที่จะเรียกดอกเบี้ยค้างส่งนับถึงวันฟ้องเกินกว่า5 ปีจากจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2463/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าธรรมเนียมประทานบัตร, อายุความ, การเพิกถอนประทานบัตร: สิทธิเรียกร้องค่าธรรมเนียมยังไม่ขาดอายุความ แม้มีการเพิกถอนประทานบัตร
จำเลยได้รับประทานบัตรทำเหมืองแร่แล้วไม่ว่าจำเลยจะใช้เนื้อที่ที่ระบุในประทานบัตรทำเหมืองแร่หรือไม่ จำเลยก็ต้องเสียค่าธรรมเนียมเพื่อใช้เนื้อที่ในการทำเหมืองแร่ตามประทานบัตรนั้นเป็นรายปีแก่โจทก์เพราะพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2510 มาตรา 55บังคับให้ต้องชำระค่าธรรมเนียมล่วงหน้าเป็นรายปี กฎกระทรวงฉบับที่ 45(พ.ศ.2523) ออกตามความในพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2510 ข้อ 2 ได้กำหนดค่าธรรมเนียมตามบัญชีอัตราค่าธรรมเนียมไว้ และกฎกระทรวงนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมได้ออกโดย อาศัยอำนาจตามที่กฎหมายให้ไว้ เมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ย่อมมีผลใช้บังคับแก่ประทานบัตรของจำเลยด้วย จำเลยจะอ้างว่าไม่ได้ตกลงด้วยในการเปลี่ยนแปลงค่าธรรมเนียมดังกล่าวหาได้ไม่ โจทก์จึงมีสิทธิเรียกร้องเอาค่าธรรมเนียมตามอัตราใหม่ได้ ค่าธรรมเนียมเพื่อใช้เนื้อที่ในการทำเหมืองตามประทานบัตรเป็นหนี้ที่จำเลยค้างชำระแก่โจทก์ ตามพระราชบัญญัติแร่พ.ศ. 2510 มิได้กำหนดให้ผู้ออกประทานบัตรเมื่อเพิกถอนประทานบัตรจะต้องสงวนสิทธิเรียกร้องเอาค่าธรรมเนียมที่ค้างชำระไว้จึงจะฟ้องบังคับได้ การที่โจทก์สั่งเพิกถอนประทานบัตรของจำเลยจึงไม่ทำให้หนี้ค่าธรรมเนียมดังกล่าวที่จำเลยค้างชำระแก่โจทก์ต้องระงับไปแม้ไม่สงวนสิทธิไว้โจทก์ก็มีอำนาจฟ้องเรียกจากจำเลยได้ ค่าธรรมเนียมเพื่อใช้เนื้อที่ในการทำเหมืองแร่ ต้องชำระล่วงหน้าเป็นรายปี เมื่อโจทก์กำหนดเอาวันที่ 31 ธันวาคม เป็นวันสิ้นปีจำเลยย่อมมีหน้าที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมดังกล่าวของปี 2525ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2524 โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 28พฤศจิกายน 2529 จึงยังไม่เกินกำหนดอายุความ 5 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 166
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1980/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะลูกจ้าง vs. นายจ้าง: การพิจารณาความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนและสิทธิเรียกร้องค่าชดเชย
โจทก์เป็นผู้อำนวยการธนาคารจำเลยมีฐานะเป็นนายจ้างตามคำนิยาม"นายจ้าง" ในประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ข้อ 2แต่ก็เป็นนายจ้างของพนักงานของจำเลยมิใช่เป็นนายจ้างของจำเลยฐานะระหว่างโจทก์และจำเลยนั้น โจทก์ก็เป็นผู้ซึ่งตกลงทำงานให้แก่จำเลยเพื่อรับค่าจ้างของจำเลย โจทก์จึงเป็นลูกจ้างของจำเลยตามคำนิยาม "ลูกจ้าง" ในประกาศกระทรวงมหาดไทยฉบับดังกล่าว โจทก์มีสิทธิได้รับค่าชดเชยย่อมมีสิทธิได้รับดอกเบี้ยของจำนวนเงินค่าชดเชยนั้นในอัตราร้อยละ 7 ครึ่งต่อปี นับแต่วันที่1 ตุลาคม 2528 ซึ่งเป็นวันเลิกจ้างเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยจะจ่ายค่าชดเชยให้แก่โจทก์ โจทก์ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2535สิทธิเรียกร้องดอกเบี้ยเฉพาะส่วนที่นับจากวันที่ฟ้องย้อนหลังไปเกินกว่า 5 ปี จึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 166