พบผลลัพธ์ทั้งหมด 159 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2769/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีทางภาระจำยอม: การรุกล้ำทางภาระจำยอมและการโอนกรรมสิทธิ์หลีกเลี่ยงการปฏิบัติตามคำพิพากษา
คดีมีประเด็นในชั้นบังคับคดีว่า จำเลยได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาตามยอมโดยครบถ้วนถูกต้องแล้วหรือไม่นั้น ศาลมีอำนาจไต่สวนและมีคำสั่งได้เพราะเป็นกระบวนพิจารณาชั้นบังคับคดีตาม ป.วิ.พ. มาตรา148(1) จำเลยปลูกสร้างตึกแถวรุกล้ำทางภารจำยอมและถม ดิน ลงในลำกระโดง สาธารณะ ให้โจทก์ใช้แทนทางภารจำยอมเดิม บางส่วน เป็นการประกอบกรรมอันเป็นเหตุให้ประโยชน์แห่งภารจำยอมลดไปตามป.พ.พ. มาตรา 1390 และเมื่อจำเลยกระทำการดังกล่าวขึ้นภายหลังที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาตามยอมเป็นปฏิปักษ์ต่อการที่ต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาตามยอม และสัญญาประนีประนอมยอมความในข้อที่จำเลยยอมให้โจทก์ใช้ทางภารจำยอมได้ตลอดไป โจทก์ชอบที่จะขอให้บังคับจำเลยรื้อถอนตึกแถวที่จำเลยปลูกสร้างรุกล้ำทางภารจำยอม และทำทางภารจำยอมให้อยู่ในสภาพที่โจทก์จะใช้ได้โดยสะดวกเหมือนเดิมได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 368/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าเสียหายจากการขุดคูในทางภาระจำยอม: สิทธิเรียกร้องค่าขาดรายได้และขอบเขตความรับผิด
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยทั้งสองขุดคูในทางภาระจำยอมทำให้รถยนต์สองแถวไม่สามารถแล่นออกมาได้ต้องจอดทิ้งไว้ในที่ของโจทก์ทำให้เสียหายและขาดรายได้ผลิตผลทางเกษตรที่โจทก์ทำได้ไม่สามารถนำออกมาขายได้ ค่าขาดรายได้ตามปกติรถยนต์สองแถวใช้วิ่งรับจ้างส่งคนโดยสารและบรรทุกผลิตผลทางการเกษตรมีรายได้เฉลี่ยวันละ 1,000 บาทแต่โจทก์ขอคิดเพียงวันละ 500บาท ดังนี้ พอเข้าใจแล้วว่า โจทก์ใช้รถยนต์คันดังกล่าวใช้ประโยชน์หารายได้ การกระทำละเมิดของจำเลยทั้งสองทำให้โจทก์ขาดรายได้ โจทก์มีสิทธิเรียกค่าขาดรายได้จากการใช้รถ
ส่วนค่าเสียหายของรถยนต์ โจทก์มิได้อ้างว่า โจทก์เป็นเจ้าของรถหรือได้รถมาอย่างไร ทั้งไม่ปรากฏว่าโจทก์จะต้องรับผิดในความเสียหายของรถต่อเจ้าของรถ โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายของรถยนต์จากจำเลย.(ที่มา-เนติ)
ส่วนค่าเสียหายของรถยนต์ โจทก์มิได้อ้างว่า โจทก์เป็นเจ้าของรถหรือได้รถมาอย่างไร ทั้งไม่ปรากฏว่าโจทก์จะต้องรับผิดในความเสียหายของรถต่อเจ้าของรถ โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายของรถยนต์จากจำเลย.(ที่มา-เนติ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4415/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิภารจำยอมโดยอายุความ แม้มีป้าย 'ทางส่วนตัว' ก็ไม่ปลดภาระติดพัน
การที่มีป้ายปิดไว้ ณ ที่พิพาทว่าเป็นทางส่วนตัว จะมีผลเป็นเพียงการสงวนไว้ซึ่งกรรมสิทธิ์ในที่พิพาทมิให้ต้องตกไปเป็นทางสาธารณะอันจะกลายเป็นทรัพย์สินของแผ่นดินเท่านั้น มิใช่มีผลเลยไปถึงว่า ที่พิพาทจะปลอดจากภาระติดพันใดๆ ทั้งสิ้น โจทก์และบริวารได้ใช้ที่พิพาทเป็นทางสัญจรเข้าออกมาสู่ถนนสาธารณะเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว โดยที่เจ้าของเดิมมิได้ห้ามปรามหรือขัดขวางแต่ประการใด ทั้งตามพฤติการณ์ไม่อาจถือได้ว่าเป็นเรื่องโจทก์และบริวารใช้เส้นทางพิพาทโดยการถือวิสาสะ โจทก์ย่อมได้สิทธิในทางภาระจำยอมโดยอายุความแล้วจำเลยซึ่งเป็นผู้รับโอนต่อมาจึงมีความผูกพันที่จะต้องงดเว้นจากการกระทำใดๆ อันเป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3664-3665/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรังวัดที่ดินผิดพลาด, การซื้อที่ดินโดยสุจริต, และภาระจำยอมในลำกระโดง
ที่ดินมีโฉนดของโจทก์และจำเลยที่ 1 มีแนวเขตด้านหนึ่งติดต่อกัน ต่อมาจำเลยที่ 1 ขอทำการรังวัดแบ่งแยกโฉนดและเจ้าพนักงานที่ดินรังวัดผิดพลาดกำหนดแนวเขตที่ดินจำเลยที่1 รุกล้ำเข้าไปในที่ดินของโจทก์ แม้จำเลยที่ 2ที่ 3 จะซื้อที่ดินดังกล่าวจากจำเลยที่ 1 โดยเสียค่าตอบแทนโดยสุจริตและจดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้วจำเลยที่ 2 ที่ 3 ก็ไม่มีสิทธิดีกว่าจำเลยที่ 1จึงไม่ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินส่วนที่รุกล้ำ กรณีไม่ต้องด้วยบทบัญญัติมาตรา 1299 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เมื่อกรรมสิทธิ์ที่ดินส่วนที่รุกล้ำเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์โจทก์ย่อมมีสิทธิติดตามเอาคืนได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1336 ลำกระโดงพิพาทซึ่งเป็นทางน้ำไหลผ่านที่ดินของโจทก์และจำเลยที่ 1 โดยแนวเขตที่ดินของโจทก์และจำเลยที่ 1อยู่ตรงกึ่งกลางลำกระโดง และโจทก์กับจำเลยที่ 1 ได้ชักน้ำจากลำกระโดงเข้าไปใช้ในที่ดินของตนมาเป็นเวลาเกินกว่า10 ปีแล้วถือได้ว่าโจทก์และจำเลยที่ 1 ได้ภาระจำยอมในที่ดินของแต่ละฝ่ายในลำกระโดงนั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1401 ประกอบด้วยมาตรา1382(วรรคสองวินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2528)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1822/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภารจำยอมเกิดขึ้นจากการใช้สิทธิโดยต่อเนื่อง และการกระทำละเมิดต่อภารจำยอม
ที่ดินจำเลยเป็นที่ดินมีโฉนดแปลงใหญ่ แล้วจำเลยแบ่งขายเป็นแปลงเล็ก ๆ โดยเว้นที่ดินตรงกลางไว้เป็นถนนพิพาท พวกที่ซื้อที่ดินจากจำเลยเท่านั้นที่ใช้ถนนพิพาท ส่วนประชาชนทั่วไปไม่ได้ร่วมใช้ถนนพิพาทด้วยเพราะเป็นทางตัน แม้ขณะเมื่อซื้อที่ดินจำเลยบอกว่าให้ถนนพิพาทเป็นทางสาธารณะก็ถือไม่ได้ว่าจำเลยได้อุทิศโดยตรงหรือโดยปริยายให้ถนนพิพาทเป็นทางสาธารณะแต่โจทก์และผู้ซื้อที่ดินได้ใช้ถนนพิพาทด้วยการใช้สัญจรไปมาและนำรถยนต์เข้าออกโดยไม่ปรากฏว่าต้องขออนุญาตจากจำเลยและโจทก์ได้ใช้ติดต่อกันมาเกิน 10 ปีแล้วถนนพิพาทจึงตกเป็นทางภารจำยอมแก่ที่ดินของโจทก์
การที่จำเลยปักเสาสูงจากพื้นดิน 1 เมตรเศษ บนถนนพิพาทเป็นเหตุให้รถยนต์ส่วนตัวของโจทก์และของผู้อื่นแล่นสวนกันไม่ได้สะดวกเหมือนเมื่อครั้งยังไม่มีการปักเสา การกระทำของจำเลยจึงเป็นการทำประโยชน์แห่งภารจำยอมลดไปหรือเสื่อมความสะดวกโจทก์มีอำนาจฟ้องให้จำเลยถอนเสาดังกล่าวออกไปได้
การที่จำเลยปักเสาสูงจากพื้นดิน 1 เมตรเศษ บนถนนพิพาทเป็นเหตุให้รถยนต์ส่วนตัวของโจทก์และของผู้อื่นแล่นสวนกันไม่ได้สะดวกเหมือนเมื่อครั้งยังไม่มีการปักเสา การกระทำของจำเลยจึงเป็นการทำประโยชน์แห่งภารจำยอมลดไปหรือเสื่อมความสะดวกโจทก์มีอำนาจฟ้องให้จำเลยถอนเสาดังกล่าวออกไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3992/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภารจำยอมโดยการใช้ต่อเนื่องเกิน 10 ปี แม้สำคัญผิดเรื่องกรรมสิทธิ์ก็มีผลผูกพัน
การที่โจทก์ใช้ทางพิพาทเดินผ่านที่ดินของจำเลยที่ 1เกินกว่า 10 ปี แม้เดิมโจทก์จะสำคัญผิดว่าเป็นของโจทก์ครึ่งหนึ่งโดยเป็นคันนาแบ่งเขตที่ดินของทั้งสองฝ่าย แต่โจทก์มีเจตนาถือเอาทางพิพาททั้งหมดเป็นทางเดินผ่าน ถือได้ว่าโจทก์ใช้ทางพิพาททั้งหมดโดยความสงบ เปิดเผยและด้วยเจตนาใช้เป็นทางของโจทก์ ทางพิพาทจึงตกเป็นทางภารจำยอมเพื่อประโยชน์ของโจทก์ก่อนแล้ว การที่เจ้าพนักงานที่ดินรังวัดที่ดินของจำเลยที่ 1 แล้ว ปรากฏว่าทางพิพาทอยู่ในเขตที่ดินของจำเลยที่ 1 โจทก์ก็ยังคงใช้ทางพิพาทต่อมาโดยมิได้สละสิทธิ ทางพิพาทจึงยังคงเป็นทางภารจำยอมเช่นเดิม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2826/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภารจำยอม: การจำกัดสิทธิใช้ทางเดินทั้งแปลงโดยการปิดประตู แม้เปิดช่องไว้ก็ขัดแย้งกับข้อตกลง
จำเลยได้จดทะเบียนให้ที่ดินของจำเลยตกอยู่ในภารจำยอมแก่ที่ดินของโจทก์ โดยยอมให้ใช้เป็นทางเดินทั้งแปลงการที่จำเลยทำประตูเหล็กปิดกั้นที่ดินซึ่งเป็นทางภารจำยอมแม้จะเปิดเป็นช่องประตูเล็กไว้ให้โจทก์เดินผ่านเข้าออกได้ก็เป็นการทำให้สิทธิของโจทก์ที่จะใช้ที่ดินของจำเลยเป็นทางเดินทั้งแปลงต้องถูกจำกัดให้น้อยลง จำเลยจึงไม่มีสิทธิทำได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1326/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสร้างอาคารคร่อมทางภารจำยอม ไม่ทำให้เสื่อมสภาพการใช้ประโยชน์ จึงไม่ถือเป็นการละเมิดสิทธิ
แม้สร้างตึกคร่อมทางภารจำยอมพิพาท แต่ยังเดินผ่านและรถยนต์บรรทุกขนาดใหญ่แล่นเข้าออกได้สะดวก ไม่ทำให้เสื่อมสภาพต่อการใช้ประโยชน์แห่งทางภารจำยอมพิพาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1390ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1387 เป็นบทบัญญัติที่กล่าวถึงลักษณะแห่งภารจำยอมมิใช่บทบัญญัติห้ามเจ้าของภารยทรัพย์สร้างอาคารตึกคร่อมทางภารจำยอม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2284/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภารจำยอมในที่ดินจัดสรร: ถนนที่จัดให้มีขึ้นเพื่อการจัดสรรตกอยู่ในภารจำยอม แม้เจ้าของกรรมสิทธิ์ยังคงเป็นผู้เดิม
ผู้จัดสรรที่ดินได้ซื้อที่ดินจากจำเลยมาทำการปรับปรุงจัดสรรเพื่อจำหน่ายแก่ประชาชนทั่วไป โดยทำถนนพิพาทขึ้นในที่จัดสรรนั้นด้วย ถือได้ว่าถนนพิพาทเป็นสาธารณูปโภค ซึ่งผู้จัดสรรที่ดินได้จัดให้มีขึ้นเพื่อการจัดสรรที่ดิน ต้องตกอยู่ในภารจำยอมเพื่อประโยชน์แก่ที่ดินจัดสรรตามนัยแห่งประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 286 ข้อ 30 วรรคแรก และข้อ 32 แม้ว่าถนนดังกล่าวยังมีชื่อจำเลยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์อยู่ก็ตาม จำเลยก็ไม่มีสิทธิกระทำการใดๆ อันเป็นเหตุให้ประโยชน์แห่งภารจำยอมลดไปหรือเสื่อมความสะดวก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2284/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภารจำยอมในที่ดินจัดสรร: ถนนที่จัดให้มีขึ้นเพื่อการจัดสรรตกอยู่ในภารจำยอม แม้กรรมสิทธิ์ยังเป็นของผู้ขาย
ผู้จัดสรรที่ดินได้ซื้อที่ดินจากจำเลยมาทำการปรับปรุงจัดสรรเพื่อจำหน่ายแก่ประชาชนทั่วไป โดยทำถนนพิพาทขึ้นในที่จัดสรรนั้นด้วย ถือได้ว่าถนนพิพาทเป็นสาธารณูปโภค ซึ่งผู้จัดสรรที่ดินได้จัดให้มีขึ้นเพื่อการจัดสรรที่ดินต้องตกอยู่ในภารจำยอมเพื่อประโยชน์แก่ที่ดินจัดสรรตามนัยแห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 286 ข้อ 30 วรรคแรก และข้อ 32 แม้ว่าถนนดังกล่าวยังมีชื่อจำเลยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์อยู่ก็ตาม จำเลยก็ไม่มีสิทธิกระทำการใด ๆ อันเป็นเหตุให้ประโยชน์แห่งภารจำยอมลดไปหรือเสื่อมความสะดวก