คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 428

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 86 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 457/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำกัดความรับผิดของผู้ว่าจ้างต่อความเสียหายจากการก่อสร้าง: คำสั่งให้ปฏิบัติตามแบบแปลนไม่ถือเป็นคำสั่งให้ก่อความเสียหาย
คำสั่งของจำเลยที่ 1 ผู้ว่าจ้าง ที่สั่ง ส. ผู้รับจ้างว่าให้ ส. ทำการก่อสร้างอาคารไปตามแบบแปลนที่จำเลยที่ 1 ได้ยื่นไว้ต่อเทศบาลและเทศบาลได้อนุญาตแล้ว เป็นคำสั่งกำชับให้ปฏิบัติตามสัญญาจ้างเหมาระหว่างจำเลยผู้ว่าจ้างกับ ส. ผู้รับจ้าง ไม่เป็นคำสั่งที่เกี่ยวกับการทำการก่อสร้างอาคารของ ส. ผู้รับจ้าง ข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่า จำเลยที่ 1 เป็นผู้สั่งให้ ส. ตอกเสาเข็มด้วยเครื่องจักรอันก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์การตอกเสาเข็มจึงเป็นการกระทำของ ส. ผู้รับจ้างเอง จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1571/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เทศบาลมีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยทางเท้า การละเลยทำให้เกิดอันตรายต้องรับผิดชอบต่อผู้เสียหาย
จำเลยที่ 1 เป็นเทศบาล จำเลยที่ 2 รับจ้างจำเลยที่1 ทำท่อระบายน้ำและทางเท้าสาธารณะซึ่งอยู่ในความดูแลและบำรุงรักษาของจำเลยที่ 1 แต่จำเลยที่ 1 ละเว้นไม่ทำการป้องกันอันตรายแก่ผู้ใช้ถนนหรือทางเท้าตามหน้าที่ให้เรียบร้อย โดยไม่ปิดฝาบ่อและ.ไม่มีแสงสว่างให้เห็นทั้งไม่มีเครื่องหมายหรือเครื่องปิดกั้นแสดงไว้ให้ทราบฉะนั้น การที่โจทก์พลัดตกลงไปในบ่อพักท่อระบายน้ำของจำเลยที่ 1 จึงไม่ใช่ความประมาทเลินเล่อของโจทก์ จำเลยที่ 1 จะอ้างว่ายังอยู่ในระหว่างการจ้างซึ่งจำเลยที่2 ยังไม่มอบงานไม่ได้ เพราะจำเลยที่ 1 ย่อมมีหน้าที่เพื่อการนี้โดยตรง เมื่อจำเลยที่ 1 ละเว้น.ไม่จัดการป้องกันอันตรายอันจะเกิดขึ้นแก่ผู้ใช้ถนนหรือทางเท้าตามหน้าที่ จำเลยที่ 1 จึงเป็นผู้ประมาทเลินเล่อต้องรับผิดต่อโจทก์ และจะอ้างข้อตกลงที่จำเลยที่ 1 ได้ตกลงไว้กับจำเลยที่ 2 ว่าจำเลยที่ 2 ต้องรับผิดชอบต่ออุปัทวเหตุหรือภยันตรายความเสียหายที่เกิดขึ้นเอง เพื่อปัดให้ตนพ้นผิดไม่ได้ เพราะโจทก์เป็นคนนอกสัญญา
จำเลยที่ 1 เป็นเทศบาลนคร การสร้างทางเท้าและท่อระบายน้ำเป็นหน้าที่ตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ.2496 มาตรา 56ประกอบด้วยมาตรา 50 และ 53 เมื่อความเสียหายเกิดขึ้นแก่โจทก์เพราะจำเลยที่ 1 ประมาทเลินเล่อ จำเลยที่ 1 ก็ต้องรับผิด จำเลยที่ 1 จะอ้างว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้ว่าจ้างทำของ เมื่อความเสียหายอันผู้รับจ้างได้ก่อให้เกิดขึ้นแก่บุคคลภายนอกในระหว่างทำการงานที่ว่าจ้างตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 428 จำเลยที่ 1 ไม่ต้องรับผิด หาได้ไม่
ในมูลละเมิด แม้โจทก์นำสืบถึงค่าที่ขาดรายได้จากการประกอบการงานถึงจำนวนที่แน่นอนไม่ได้ ศาลก็กำหนดจำนวนค่าเสียหายให้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1571/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เทศบาลมีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยทางเท้า การละเลยจนเกิดอันตรายต้องรับผิดชอบ แม้จะมีการจ้างเหมา
จำเลยที่ 1 เป็นเทศบาล จำเลยที่ 2 รับจ้างจำเลยที่1 ทำท่อระบายน้ำและทางเท้าสาธารณะซึ่งอยู่ในความดูแลและบำรุงรักษาของจำเลยที่ 1 แต่จำเลยที่ 1 ละเว้นไม่ทำการป้องกันอันตรายแก่ผู้ใช้ถนนหรือทางเท้าตามหน้าที่ให้เรียบร้อย โดย ไม่ปิดฝาบ่อและไม่มีแสงสว่างให้เห็นทั้ง ไม่มีเครื่องหมายหรือเครื่องปิดกั้นแสดงไว้ให้ทราบฉะนั้น การที่โจทก์พลัดตกลงไปในบ่อพักท่อระบายน้ำของจำเลยที่ 1 จึง ไม่ใช่ความประมาทเลินเล่อของโจทก์ จำเลยที่ 1 จะอ้างว่ายังอยู่ในระหว่างการจ้างซึ่งจำเลยที่ 2 ยัง ไม่มอบงานไม่ได้ เพราะจำเลยที่ 1 ย่อมมีหน้าที่เพื่อการนี้โดยตรง เมื่อจำเลยที่ 1 ละเว้นไม่จัดการป้องกันอันตรายอันจะเกิดขึ้นแก่ผู้ใช้ถนนหรือทางเท้าตามหน้าที่ จำเลยที่ 1 จึงเป็นผู้ประมาทเลินเล่อต้องรับผิดต่อโจทก์ และจะอ้างข้อตกลงที่จำเลยที่ 1 ได้ตกลงไว้กับจำเลยที่ 2 ว่าจำเลยที่ 2 ต้องรับผิดชอบต่ออุปัทวเหตุหรือภยันตรายความเสียหายที่เกิดขึ้นเอง เพื่อปัดให้ตนพ้นผิดไม่ได้ เพราะโจทก์เป็นคนนอกสัญญา
จำเลยที่ 1 เป็นเทศบาลนคร การสร้างทางเท้าและท่อระบายน้ำเป็นหน้าที่ตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ.2496 มาตรา 56 ประกอบด้วยมาตรา 50 และ 53 เมื่อความเสียหายเกิดขึ้นแก่โจทก์เพราะจำเลยที่ 1 ประมาทเลินเล่อ จำเลยที่ 1 ก็ต้องรับผิด จำเลยที่ 1 จะอ้างว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้ว่าจ้างทำของ เมื่อความเสียหายอันผู้รับจ้างได้ก่อให้เกิดขึ้นแก่บุคคลภายนอกในระหว่างทำการงานที่ว่าจ้างตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 428 จำเลยที่ 1 ไม่ต้องรับผิด หาได้ไม่
ในมูลละเมิด แม้โจทก์นำสืบถึงค่าที่ขาดรายได้จากการประกอบการงานถึงจำนวนที่แน่นอนไม่ได้ ศาลก็กำหนดจำนวนค่าเสียหายให้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1571/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เทศบาลมีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยทางเท้า หากละเลยจนเกิดอันตรายต้องรับผิดชอบ แม้จะมีการจ้างเหมา
จำเลยที่ 1 เป็นเทศบาล จำเลยที่ 2 รับจ้างจำเลยที่1 ทำท่อระบายน้ำและทางเท้าสาธารณะซึ่งอยู่ในความดูแลและบำรุงรักษาของจำเลยที่ 1 แต่จำเลยที่ 1 ละเว้นไม่ทำการป้องกันอันตรายแก่ผู้ใช้ถนนหรือทางเท้าตามหน้าที่ให้เรียบร้อย โดย.ไม่ปิดฝาบ่อและ.ไม่มีแสงสว่างให้เห็นทั้ง.ไม่มีเครื่องหมายหรือเครื่องปิดกั้นแสดงไว้ให้ทราบฉะนั้น การที่โจทก์พลัดตกลงไปในบ่อพักท่อระบายน้ำของจำเลยที่ 1 จึง.ไม่ใช่ความประมาทเลินเล่อของโจทก์ จำเลยที่ 1 จะอ้างว่ายังอยู่ในระหว่างการจ้างซึ่งจำเลยที่2 ยัง.ไม่มอบงานไม่ได้ เพราะจำเลยที่ 1 ย่อมมีหน้าที่เพื่อการนี้โดยตรง เมื่อจำเลยที่ 1 ละเว้น.ไม่จัดการป้องกันอันตรายอันจะเกิดขึ้นแก่ผู้ใช้ถนนหรือทางเท้าตามหน้าที่ จำเลยที่ 1 จึงเป็นผู้ประมาทเลินเล่อต้องรับผิดต่อโจทก์ และจะอ้างข้อตกลงที่จำเลยที่ 1 ได้ตกลงไว้กับจำเลยที่ 2 ว่าจำเลยที่ 2 ต้องรับผิดชอบต่ออุปัทวเหตุหรือภยันตรายความเสียหายที่เกิดขึ้นเอง เพื่อปัดให้ตนพ้นผิดไม่ได้ เพราะโจทก์เป็นคนนอกสัญญา.
จำเลยที่ 1 เป็นเทศบาลนคร การสร้างทางเท้าและท่อระบายน้ำเป็นหน้าที่ตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ.2496 มาตรา 56ประกอบด้วยมาตรา 50 และ 53 เมื่อความเสียหายเกิดขึ้นแก่โจทก์เพราะจำเลยที่ 1 ประมาทเลินเล่อ จำเลยที่ 1 ก็ต้องรับผิด จำเลยที่ 1 จะอ้างว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้ว่าจ้างทำของ เมื่อความเสียหายอันผู้รับจ้างได้ก่อให้เกิดขึ้นแก่บุคคลภายนอกในระหว่างทำการงานที่ว่าจ้างตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 428 จำเลยที่ 1 ไม่ต้องรับผิด หาได้ไม่.
ในมูลละเมิด แม้โจทก์นำสืบถึงค่าที่ขาดรายได้จากการประกอบการงานถึงจำนวนที่แน่นอนไม่ได้. ศาลก็กำหนดจำนวนค่าเสียหายให้ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 940/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ว่าจ้างต่อความเสียหายจากการก่อสร้าง แม้จ้างเหมาแล้วก็ตาม
ฟ้องว่า รั้วสังกะสีเสียหายไปประมาณ 50 แผ่นรวมทั้งทรัพย์สินอื่นอีกด้วย คิดค่าเสียหายจำนวนหนึ่ง โดยมิได้ตีราคาเฉพาะสังกะสีว่าเสียหายเท่าใดก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
การที่ผู้ว่าจ้างสั่งคนไปควบคุมผู้รับจ้างเหมาทำงานให้เป็นไปตามสัญญา หากเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นขึ้น ผู้ว่าจ้างก็ต้องรับผิดเพื่อความเสียหายนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 940/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ว่าจ้างต่อความเสียหายจากงานเหมา แม้จะควบคุมการทำงาน
ฟ้องว่า รั้วสังกะสีเสียหายไปประมาณ 50 แผ่นรวมทั้งทรัพย์สินอื่นอีกด้วย คิดค่าเสียหายจำนวนหนึ่ง โดยมิได้ตีราคาเฉพาะสังกะสีว่าเสียหายเท่าใดก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
การที่ผู้ว่าจ้างสั่งคนไปควบคุมผู้รับจ้างเหมาทำงานให้เป็นไปตามสัญญา หากเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นขึ้นผู้ว่าจ้างก็ต้องรับผิดเพื่อความเสียหายนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 80/2488 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตหน้าที่ลูกจ้าง: การรับฝากฝิ่นส่วนตัว ไม่ถือเป็นกิจธุระของนายจ้าง
ลูกจ้างร้านฝิ่นรับฝากฝิ่นจากผู้อื่นเมื่อนายจ้างไม่อยู่นั้นถือว่าไม่ใช่กิจธุระในฐานะเป็นผู้จัดการของนายจ้างผู้ได้รับอนุญาตจำหน่ายฝิ่น จึงเป็นการนอกขอบเขตต์แห่งการงานนายจ้างจึงไม่มีความผิดฐานมีฝิ่นเกินบัญชี.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 80/2488

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฝากฝิ่นนอกขอบเขตงาน: นายจ้างไม่มีความผิดฐานมีฝิ่นเกินบัญชี
ลูกจ้างร้านฝิ่นรับฝากฝิ่นจากผู้อื่น เมื่อนายจ้างไม่อยู่นั้นถือว่าไม่ใช่กิจธุระ ในฐานะเป็นผู้จัดการของนายจ้างผู้ได้รับอนุญาตจำหน่ายฝิ่น จึงเป็นการนอกขอบเขตแห่งการงานนายจ้างจึงไม่มีความผิดฐานมีฝิ่นเกินบัญชี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 812/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่การนำสืบในคดีแพ่ง: ประเด็นความรับผิดของลูกจ้างและขอบเขตการต่อสู้คดี
โจทฟ้องว่าลูกจ้างของจำเลยขับรถอันเปนปรกติธุระของจำเลยชนรถยนต์ของโจทเสียหายโดยประมาทเลินเล่อ จำเลยต่อสู้ว่าการชนเกิดจากความผิดของฝ่ายโจท ไม่ได้กล่าวว่าลูกจ้างของจำเลยไม่ได้ทำการไนทางการที่จ้างดังนี้ ย่อมไม่มีประเด็นที่จำเลยไม่ได้ต่อสู้นั้นและโจทไม่จำต้องนำสืบ. ไนคดีแพ่งโจทไม่ต้องนำสืบไนข้อที่ไม่มีประเด็นต้องโต้เถียงกัน ไนคดีแพ่งนั้นคำไห้การจำเลยต้องสแดงโดยชัดแจ้งว่าจำเลยยอมรับหรือปติเสธข้ออ้างของโจททั้งสิ้นหรือแต่บางส่วนรวมทั้งเหตุแห่งการนั้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 812/2486

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประเด็นข้อโต้แย้งในคดีแพ่ง: โจทก์ไม่ต้องนำสืบในข้อที่จำเลยไม่ได้ต่อสู้
โจทก์ฟ้องว่าลูกจ้างของจำเลยขับรถอันเป็นปกติธุระของจำเลยชนรถยนต์ของโจทก์เสียหายโดยประมาทเลินเล่อ จำเลยต่อสู้ว่าการชนเกิดจากความผิดของฝ่ายโจทก์ ไม่ได้กล่าวว่าลูกจ้างของจำเลยไม่ได้ทำการในทางการที่จ้าง ดังนี้ ย่อมไม่มีประเด็นที่จำเลยไม่ได้ต่อสู้นั้นและโจทก์ไม่จำต้องนำสืบ ในคดีแพ่งโจทก์ไม่ต้องนำสืบในข้อที่ไม่มีประเด็นต้องโต้เถียงกันในคดีแพ่งนั้นคำให้การจำเลยต้องแสดงโดยชัดแจ้งว่าจำเลยยอมรับหรือปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์ทั้งสิ้นหรือแต่บางส่วนรวมทั้งเหตุแห่งการนั้น
of 9