คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 277 ทวิ (1

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6290/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดต่อความสงบทางเพศและการกระทำความผิดต่อเนื่อง ศาลแก้ไขโทษให้ถูกต้องตามกฎหมาย
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตาม ป.อ.มาตรา 276 วรรคแรก, 277 ทวิ, 297, 364, 365, 80 การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท จึงลงโทษฐานพยายามข่มขืนกระทำชำเราซึ่งเป็นบทหนัก และศาลอุทธรณ์พิพากษายืนโดยไม่ได้ระบุว่าลงโทษตามบทมาตราใด เมื่อการกระทำของจำเลยเป็นการกระทำต่อเนื่องโดยเจตนาแท้จริงเพื่อข่มขืนกระทำ-ชำเราเป็นสำคัญเป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ศาลฎีกาเห็นควรแก้ไขให้ถูกต้องโดยพิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตาม ป.อ.มาตรา 276วรรคแรก ประกอบมาตรา 80, 277 ทวิ (1), 297, 364, 365 (3) เป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 276วรรคแรก ประกอบมาตรา 80, 277 ทวิ (1) ซึ่งเป็นบทกฎหมายที่มีโทษหนักที่สุดตาม ป.อ.มาตรา 90

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 857/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยายามกระทำชำเราเด็กหญิง และการทำร้ายร่างกายต่อเนื่อง ศาลพิจารณาความผิดแยกกรรม
ผู้เสียหายเป็นเด็กหญิงอายุ 8 ปี จำเลยใช้อวัยวะเพศของจำเลยใส่ไปที่ช่องขาใกล้อวัยวะเพศของผู้เสียหาย และได้กระทำการในลักษณะของการกระทำชำเรา ที่บริเวณรูทวารหนักของผู้เสียหายมีรอยช้ำแดงและที่ระหว่างช่องคลอดกับรูทวารหนักมีรอยถลอกเล็กน้อย อวัยวะเพศของจำเลยไม่ได้เข้าไปในอวัยวะเพศของผู้เสียหายคงอยู่บริเวณปากช่องคลอดของผู้เสียหายเท่านั้น ดังนั้นการกระทำของจำเลยจึงเป็นเพียงความผิดฐานพยายามกระทำชำเราเด็กหญิงอายุยังไม่เกิน 13 ปี
ทางพิจารณาไม่ปรากฏว่าการที่ผู้เสียหายขัดขืนไม่ยอมให้กระทำชำเรา จำเลยได้ชกต่อยและตบปากผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บอย่างไร คงได้ความว่าหลังจากจำเลยกระทำชำเราและจำเลยกับผู้เสียหายสวมใส่เสื้อผ้าแล้ว จำเลยได้ต่อยเตะจนผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส การกระทำของจำเลยดังกล่าวมิได้กระทำต่อเนื่องกัน หากแต่ขาดตอนจากการกระทำชำเราแล้ว ดังนี้ แม้ผู้เสียหายจะได้รับอันตรายสาหัสก็มิใช่ผลโดยตรงจากการกระทำชำเราอันจะเป็นเหตุให้ผู้กระทำจะต้องได้รับโทษหนักขึ้นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 ทวิ
โจทก์บรรยายฟ้องเพียงว่าจำเลยกระทำผิดฐานกระทำชำเราผู้เสียหาย เป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277, 277 ทวิและ 297 แม้โจทก์จะอ้างมาตรา 297 มาด้วย แต่โจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดหลายกรรมจึงไม่ชัดเจนว่าโจทก์ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัสไม่อาจลงโทษจำเลยฐานดังกล่าวได้เพราะเป็นการนอกเหนือจากฟ้อง