คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.พนักงานอัยการ พ.ศ.2498 ม. 11 (5)

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5786/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจพนักงานอัยการในการว่าต่างคดี และข้อจำกัดการฎีกาในคดีทุนทรัพย์น้อย
อ.เป็นพนักงานอัยการ มีอำนาจที่จะรับว่าต่างคดีให้โจทก์ซึ่งเป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นโดยพระราชกฤษฎีกาได้ตาม พระราชบัญญัติพนักงานอัยการ พ.ศ. 2498 มาตรา 11(5)และอ.ได้รับเป็นทนายความว่าต่างให้โจทก์แล้วตามใบแต่งทนายความในสำนวนคดีนี้ อ.จึงมีอำนาจว่าความและดำเนินกระบวนพิจารณาใด ๆ รวมทั้งการเรียงคำฟ้องแทนโจทก์ได้โดย ไม่จำต้องระบุถึงฐานะเช่นนั้นในช่องผู้เรียกคำฟ้องอีก จำเลยฎีกาว่า จำเลยมีสิทธิได้รับเงินค่าเช่าฉาง และค่ากรรมกรขนข้าวเปลือกจากโจทก์มากกว่าจำนวนที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย เป็นการโต้แย้งดุลพินิจของศาลอุทธรณ์อันเป็นปัญหาข้อเท็จจริง เมื่อคดีมีทุนทรัพย์ในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาทจึงต้องห้ามฎีกาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248 วรรคหนึ่ง จำเลยให้การว่า คดีโจทก์ขาดอายุความเพราะโจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดเพื่อการที่ทรัพย์ขาดตกบกพร่อง หรือขอให้ใช้ราคาทรัพย์และค่าเสียหายเมื่อพ้นกำหนด 1 ปี นับแต่เวลาที่ส่งมอบ มิใช่เป็นการอ้างอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 671 ที่จำเลยฎีกาว่าคดีโจทก์ขาดอายุความตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 671 จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้น ทั้งมิใช่ปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 249 วรรคหนึ่ง