คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 ม. 15

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 206 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4938/2543

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบรรยายฟ้องความผิดพยายามส่งออกยาเสพติด จำเป็นต้องระบุเจตนาเพื่อจำหน่าย
ตามฟ้องในความผิดพยายามส่งเฮโรอีนของกลางออกนอกราชอาณาจักร โจทก์ไม่บรรยายฟ้องว่าจำเลยกระทำความผิดดังกล่าวเพื่อจำหน่าย ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษจำเลยฐานพยายามส่งเฮโรอีนของกลางออกนอกราชอาณาจักรเพื่อจำหน่าย จึงไม่ถูกต้องแม้ปัญหาดังกล่าวจำเลยจะไม่ฎีกา แต่ก็เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกาหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสองประกอบด้วยมาตรา 225

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4934/2543 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ร่วมกันครอบครองและจำหน่ายยาเสพติด (เมทแอมเฟตามีน) โดยมีเจตนาและรู้เห็นการกระทำ
จำเลยที่ 1 มีเมทแอมเฟตามีนจำนวน 202 เม็ด คำนวณน้ำหนักเป็นสารบริสุทธิ์ 2.019 กรัม ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำเลยที่ 1ได้จำหน่ายเมทแอมเฟตามีนดังกล่าวจำนวน 2 เม็ด ให้แก่สายลับผู้ล่อซื้อ ขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 2 ได้นั่งอยู่กับจำเลยที่ 1 ขณะที่สายลับเข้าไปล่อซื้อ และจำเลยที่ 2 เป็นผู้เดินไปหยิบเมทแอมเฟตามีนจำนวน 2 เม็ด จากที่ซุกซ่อนมาส่งให้แก่สายลับตามที่จำเลยที่ 1 ใช้ แสดงว่าจำเลยที่ 2 รู้อยู่ก่อนว่าเมทแอมเฟตามีนของกลางทั้งหมดซุกซ่อนอยู่ที่ใด อันเป็นกระบวนการส่วนหนึ่งของการมีส่วนร่วมครอบครองและจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนของจำเลยที่ 1 ย่อมฟังได้ชัดแจ้งว่า จำเลยที่ 2 ได้ร่วมกับจำเลยที่ 1 มีเมทแอมเฟตามีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนโดยไม่ได้รับอนุญาต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4934/2543

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร่วมกันครอบครองและจำหน่ายยาเสพติด: การกระทำที่แสดงถึงความรู้และมีส่วนร่วม
จำเลยที่ 1 มีเมทแอมเฟตามีนจำนวน 202 เม็ด คำนวณน้ำหนักเป็นสารบริสุทธิ์ 2.019 กรัม ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำเลยที่ 1ได้จำหน่ายเมทแอมเฟตามีนดังกล่าวจำนวน 2 เม็ด ให้แก่สายลับผู้ล่อซื้อขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 2 ได้นั่งอยู่กับจำเลยที่ 1 ขณะที่สายลับเข้าไปล่อซื้อและจำเลยที่ 2 เป็นผู้เดินไปหยิบเมทแอมเฟตามีนจำนวน 2 เม็ด จากที่ซุกซ่อนมาส่งให้แก่สายลับตามที่จำเลยที่ 1 ใช้ แสดงว่าจำเลยที่ 2รู้อยู่ก่อนว่าเมทแอมเฟตามีนของกลางทั้งหมดซุกซ่อนอยู่ที่ใด อันเป็นกระบวนการส่วนหนึ่งของการมีส่วนร่วมครอบครองและจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนของจำเลยที่ 1 ย่อมฟังได้ชัดแจ้งว่า จำเลยที่ 2ได้ร่วมกับจำเลยที่ 1 มีเมทแอมเฟตามีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนโดยไม่ได้รับอนุญาต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4529/2543 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองและจำหน่ายยาเสพติดโดยเจตนา และการมีส่วนรู้เห็นร่วมกันกระทำผิด
จำเลยที่ 1 มีเมทแอมเฟตามีนจำนวน 12 เม็ด ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและได้จำหน่ายเมทแอมเฟตามีน จำนวน 2 เม็ด ให้แก่สายลับของเจ้าพนักงานตำรวจที่ไปล่อซื้อ เจ้าพนักงานตำรวจตรวจค้นตัวจำเลยที่ 2 พบเมทแอมเฟตามีนจำนวน 10 เม็ด อยู่ในกระเป๋าด้านหน้าข้างขวาที่จำเลยที่ 2 สวมใส่อยู่เมื่อจำเลยที่ 2 ยืนอยู่กับจำเลยที่ 1 ในขณะที่จำเลยที่ 1 จำหน่ายเมทแอมเฟตามีนให้แก่สายลับ ทั้งในตัวของจำเลยที่ 2 ยังมีเมทแอมเฟตามีนถึง 10 เม็ด เช่นนี้พฤติการณ์ดังกล่าวเชื่อว่าจำเลยที่ 2 มีส่วนรู้เห็นกับจำเลยที่ 1 ในการจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนให้แก่สายลับ ฟังได้ว่าจำเลยที่ 2 ร่วมกับจำเลยที่ 1 กระทำความผิดตามฟ้อง
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 มาตรา241 วรรคสอง บัญญัติแต่เพียงว่า ผู้ต้องหามีสิทธิให้ทนายความหรือผู้ซึ่งตนไว้วางใจเข้าฟังการสอบสวนปากคำตนได้เท่านั้น ไม่ใช่เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่จะต้องสอบถามผู้ต้องหาก่อนเริ่มการสอบสวน แม้หากพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนจำเลยโดยไม่ได้ถามจำเลยในเรื่องดังกล่าวก่อนก็ตาม ก็ไม่เป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญฯการสอบสวนของพนักงานสอบสวนจึงชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4529/2543 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร่วมกันจำหน่ายยาเสพติด: พฤติการณ์เชื่อได้ว่ามีส่วนรู้เห็นและมีส่วนร่วม
จำเลยที่ 1 มีเมทแอมเฟตามีนจำนวน 12 เม็ด ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและได้จำหน่ายเมทแอมเฟตามีน จำนวน 2 เม็ด ให้แก่สายลับของเจ้าพนักงานตำรวจที่ไปล่อซื้อ เจ้าพนักงานตำรวจตรวจค้นตัวจำเลยที่ 2 พบเมทแอมเฟตามีนจำนวน 10 เม็ดอยู่ในกระเป๋าด้านหน้าข้างขวาที่จำเลยที่ 2 สวมใส่อยู่เมื่อจำเลยที่ 2ยืนอยู่กับจำเลยที่ 1 ในขณะที่จำเลยที่ 1 จำหน่ายเมทแอมเฟตามีนให้แก่สายลับ ทั้งในตัวของจำเลยที่ 2 ยังมีเมทแอมเฟตามีนถึง 10 เม็ดเช่นนี้พฤติการณ์ดังกล่าวเชื่อว่าจำเลยที่ 2 มีส่วนรู้เห็นกับจำเลยที่ 1ในการจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนให้แก่สายลับ ฟังได้ว่าจำเลยที่ 2ร่วมกับจำเลยที่ 1 กระทำความผิดตามฟ้อง
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 มาตรา 241 วรรคสอง บัญญัติแต่เพียงว่า ผู้ต้องหามีสิทธิให้ทนายความหรือผู้ซึ่งตนไว้วางใจเข้าฟังการสอบสวนปากคำตนได้เท่านั้น ไม่ใช่เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่จะต้องสอบถามผู้ต้องหาก่อนเริ่มการสอบสวน แม้หากพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนจำเลยโดยไม่ได้ถามจำเลยในเรื่องดังกล่าวก่อนก็ตาม ก็ไม่เป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญฯ การสอบสวนของพนักงานสอบสวนจึงชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3975/2543 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวผิดกฎหมายซ้ำ ศาลสั่งระงับคดีอาญาตาม ป.วิ.อ.มาตรา 39(4)
เมทแอมเฟตามีนจำนวน 174 เม็ด ในคดีนี้ที่ยึดได้จากกระเป๋าผ้าลักษณะคล้ายถุงย่ามที่จำเลยสะพายอยู่เป็นเมทแอมเฟตามีนที่เจ้าพนักงานตำรวจยึดได้ในการตรวจค้นคราวเดียวกันกับเมทแอมเฟตามีนจำนวน 5 เม็ดที่ค้นได้จากห้องของจำเลยในคดีก่อนของศาลชั้นต้น เมื่อไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าจำเลยรับเอาเมทแอมเฟตามีนจำนวน 5 เม็ด และจำนวน 174 เม็ด ไว้คนละคราวกัน จึงต้องถือว่าเป็นเมทแอมเฟตามีนจำนวนเดียวกันซึ่งแยกเก็บไว้ในที่ต่างกันเท่านั้น การกระทำของจำเลยในคดีนี้กับการกระทำของจำเลยในคดีก่อนจึงเป็นการกระทำอันเป็นกรรมเดียว เมื่อศาลมีคำพิพากษาในคดีก่อนแล้ว ฟ้องโจทก์ในคดีนี้จึงเป็นฟ้องในคดีที่ศาลได้มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดซึ่งได้ฟ้องไปแล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์จึงระงับไปตาม ป.วิ.อ.มาตรา 39 (4)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3975/2543

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียว ความผิดเดียวกัน สิทธินำคดีอาญามาฟ้องระงับตามมาตรา 39(4) คดีถึงที่สุดแล้ว
เมทแอมเฟตามีนจำนวน 174 เม็ด ในคดีนี้ที่ยึดได้จากกระเป๋าผ้าลักษณะคล้ายถุงย่ามที่จำเลยสะพายอยู่เป็นเมทแอมเฟตามีนที่ เจ้าพนักงานตำรวจยึดได้ในการตรวจค้นคราวเดียวกันกับเมทแอมเฟตามีน จำนวน 5 เม็ดที่ค้นได้จากห้องของจำเลยในคดีก่อนของศาลชั้นต้น เมื่อไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าจำเลยรับเอาเมทแอมเฟตามีนจำนวน 5 เม็ดและจำนวน 174 เม็ด ไว้คนละคราวกัน จึงต้องถือว่าเป็นเมทแอมเฟตามีนจำนวนเดียวกันซึ่งแยกเก็บไว้ในที่ต่างกันเท่านั้น การกระทำของจำเลย ในคดีนี้กับการกระทำของจำเลยในคดีก่อนจึงเป็นการกระทำอันเป็น กรรมเดียว เมื่อศาลมีคำพิพากษาในคดีก่อนแล้ว ฟ้องโจทก์ในคดีนี้ จึงเป็นฟ้องในคดีที่ศาลได้มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิด ซึ่งได้ฟ้องไปแล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์จึงระงับไป ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3889/2543 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวความผิดเดียว – นำเข้าและครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย
จำเลยไปซื้อเมทแอมเฟตามีนของกลางที่ประเทศสหภาพพม่ามาแล้วนำเมทแอมเฟตามีนของกลางเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อจำหน่าย เมทแอมเฟตามีนของกลางที่เจ้าพนักงานตำรวจจับได้จากจำเลยเป็นจำนวนเดียวกับที่จำเลยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ทั้งการที่จำเลยมีเมทแอมเฟตามีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและนำเมทแอมเฟตามีนของกลางเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อจำหน่ายดังกล่าวเป็นการกระทำคราวเดียวกัน จึงเป็นการกระทำผิดเพียงกรรมเดียว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3889/2543

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท: นำเข้าและมีไว้เพื่อจำหน่ายยาเสพติดกระทำพร้อมกัน
จำเลยไปซื้อเมทแอมเฟตามีนของกลางที่ประเทศสหภาพพม่า มาแล้วนำเมทแอมเฟตามีนของกลางเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนของกลางที่เจ้าพนักงานตำรวจจับได้จากจำเลยเป็นจำนวนเดียวกับที่จำเลยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ทั้งการที่จำเลยมีเมทแอมเฟตามีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและนำเมทแอมเฟตามีนของกลางเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อจำหน่ายดังกล่าวเป็นการกระทำคราวเดียวกัน จึงเป็นการกระทำผิดเพียงกรรมเดียว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3552/2543 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องรวมความผิดหลายกระทง ศาลลงโทษความผิดฐานครอบครองยาเสพติดได้ แม้บทลงโทษเบากว่า
นอกจากโจทก์จะบรรยายฟ้องว่า จำเลยกระทำความผิดฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 4, 15 และ 66 แล้ว ตามคำขอท้ายฟ้องโจทก์ยังได้ระบุมาตรา 67 ซึ่งเป็นบทลงโทษฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตไว้ด้วยจึงมิใช่โจทก์ไม่ประสงค์จะให้ลงโทษในความผิดฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครอง ทั้งความผิดฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายย่อมรวมถึงการมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตอยู่ด้วย ถือได้ว่าความผิดตามฟ้องรวมการกระทำหลายอย่าง แต่ละอย่างอาจเป็นความผิดได้อยู่ในตัวเอง เมื่อทางพิจารณาฟังได้ว่าจำเลยมีเฮโรอีนไว้ในครอบครอง ศาลย่อมมีอำนาจลงโทษจำเลยในความผิดฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งมีบทลงโทษเบากว่าตามที่พิจารณาได้ความได้ตาม ป.วิ.อ.มาตรา 192 วรรคสุดท้าย
of 21