พบผลลัพธ์ทั้งหมด 145 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6339/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประกอบกิจการเช่าเทปโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่เป็นความผิดหลายกรรม และของกลางไม่เข้าข่ายริบ
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้บังอาจประกอบกิจการให้เช่า แลกเปลี่ยนและจำหน่ายซึ่งเทปและวัสดุโทรทัศน์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน และไม่มีเหตุได้รับการยกเว้นใด ๆ ตามกฎหมาย การกระทำผิดของจำเลยเกิดจากไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน เทปของกลางจึงมิใช่ทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำผิดจึงไม่มีเหตุที่จะริบของกลาง
ความผิดตาม ป.อ. มาตรา 287 กับความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมเทปและวัสดุโทรทัศน์ พ.ศ.2530 มาตรา 6, 34 มิใช่ความผิดที่เป็นการกระทำหลายกรรมต่างกันตาม ป.อ. มาตรา 91 ปัญหานี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกาย่อมหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้ แม้จำเลยจะมิได้ฎีกาตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225
ความผิดตาม ป.อ. มาตรา 287 กับความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมเทปและวัสดุโทรทัศน์ พ.ศ.2530 มาตรา 6, 34 มิใช่ความผิดที่เป็นการกระทำหลายกรรมต่างกันตาม ป.อ. มาตรา 91 ปัญหานี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกาย่อมหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้ แม้จำเลยจะมิได้ฎีกาตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5792/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในทรัพย์สินของผู้ให้เช่าเมื่อผู้เช่ากระทำผิดสัญญาและถูกริบทรัพย์
ผู้ร้องซื้อโต๊ะสนุกเกอร์ของกลางมาจาก ส. จำเลยที่ 1 ได้ทำสัญญาเช่าโต๊ะสนุกเกอร์ของกลางจากผู้ร้อง สัญญาเช่าระบุห้ามนำไปใช้เล่นการพนันหรือกระทำการใด ๆ เกี่ยวกับการพนัน ต่อมาผู้ร้องไปหาจำเลยที่ 1 จึงทราบว่าจำเลยทั้งสามถูกจับกุมข้อหาเล่นการพนันสนุกเกอร์โดยไม่ได้รับอนุญาตและศาลมีคำสั่งริบโต๊ะสนุกเกอร์ของกลาง ดังนี้ โต๊ะสนุกเกอร์ของกลางเป็นของผู้ร้องและผู้ร้องมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิด ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้คืนโต๊ะสนุกเกอร์ของกลางแก่ผู้ร้องชอบแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5792/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์โต๊ะสนุกเกอร์ - ผู้เช่ากระทำผิด - เจ้าของไม่มีส่วนรู้เห็น - สิทธิในการรับคืน
ผู้ร้องซื้อโต๊ะสนุกเกอร์ของกลางมาจาก ส. จำเลยที่ 1ได้ทำสัญญาเช่าโต๊ะสนุกเกอร์ของกลางจากผู้ร้อง สัญญาเช่าระบุห้ามนำไปใช้เล่นการพนันหรือกระทำการใด ๆ เกี่ยวกับการพนันต่อมาผู้ร้องไปหาจำเลยที่ 1 จึงทราบว่าจำเลยทั้งสามถูกจับกุมข้อหาเล่นการพนันสนุกเกอร์โดยไม่ได้รับอนุญาตและศาลมีคำสั่งริบโต๊ะสนุกเกอร์ของกลาง ดังนี้ โต๊ะสนุกเกอร์ของกลางเป็นของผู้ร้องและผู้ร้องมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิด ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้คืนโต๊ะสนุกเกอร์ของกลางแก่ผู้ร้องชอบแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3074/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบของกลางในความผิด พ.ร.บ.ยาสูบ: รถจักรยานยนต์ไม่ใช่ทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำผิด
ตามพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. 2509 มาตรา 19 วรรคแรกบัญญัติห้ามมิให้ผู้ใดมียาสูบที่มิได้ปิดแสตมป์ยาสูบไว้ในครอบครองเกินกำหนด มาตรา 44 วรรคสอง บัญญัติให้ริบบุหรี่ซิกาแรต ในคดีกระทำผิดบทบัญญัติ มาตรา 19รวมทั้งหีบห่อเป็นของกรมสรรพสามิต คดีนี้เจ้าพนักงานตำรวจจับได้ของกลางบุหรี่ซิกาแรตถังสแตนเลส 1 ใบ และรถจักรยานยนต์ 1 คัน แต่รถจักรยานยนต์ของกลางมิใช่หีบห่ออันเกี่ยวกับการกระทำผิดฐานมียาสูบไม่ปิดแสตมป์ยาสูบจึงริบไม่ได้ ทั้งมิใช่ทรัพย์ของกลางโดยตรงที่ใช้ในการกระทำความผิดฐานนี้ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 33(1) จึงไม่สมควรริบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3074/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการริบทรัพย์สินในคดีมียาสูบไม่ปิดแสตมป์: เฉพาะหีบห่อและทรัพย์สินโดยตรงที่ใช้ในการกระทำผิด
ตาม พ.ร.บ.ยาสูบ พ.ศ.2509 มาตรา 19 วรรคแรกบัญญัติห้ามมิให้ผู้ใดมียาสูบที่มิได้ปิดแสตมป์ยาสูบไว้ในครอบครองเกินกำหนดมาตรา 44 วรรคสอง บัญญัติให้ริบบุหรี่ซิกาแรตในคดีกระทำผิดบทบัญญัติ มาตรา 19รวมทั้งหีบห่อเป็นของกรมสรรพสามิต คดีนี้เจ้าพนักงานตำรวจจับได้ของกลางบุหรี่ซิกาแรต ถังสแตนเลส 1 ใบ และรถจักรยานยนต์ 1 คัน แต่รถจักรยานยนต์ของกลางมิใช่หีบห่ออันเกี่ยวกับการกระทำผิดฐานมียาสูบไม่ปิดแสตมป์ยาสูบ จึงริบไม่ได้ ทั้งมิใช่ทรัพย์ของกลางโดยตรงที่ใช้ในการกระทำความผิดฐานนี้ ตามป.อ. มาตรา 33 (1) จึงไม่สมควรริบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 704/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบรถจักรยานยนต์ที่ใช้เป็นยานพาหนะในการปล้นทรัพย์: ไม่ริบหากใช้หลังการกระทำความผิดสำเร็จ
แม้จะฟังได้ว่าจำเลยขับรถจักรยานยนต์ของกลางไปปล้นทรัพย์ก็เป็นเพียงยานพาหนะซึ่งจำเลยขับมายังที่เกิดเหตุและขับออกไปจากที่เกิดเหตุเมื่อการปล้นทรัพย์สำเร็จแล้ว รถจักรยานยนต์ของกลางจึงไม่ใช่ทรัพย์สินที่ได้ใช้ในการกระทำความผิดอันจะพึงริบได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4609/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แม้ศาลยกฟ้อง แต่ไม่ได้หมายความว่าผู้ร้องไม่มีส่วนรู้เห็นในการกระทำผิด
จำเลยกับผู้ร้องนั่งไปด้วยกันในรถยนต์คันของกลางและถูกจับพร้อมกันในข้อหาทำไม้และมีไม้หวงห้ามที่ยังไม่ได้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ผู้ร้องหลบหนีในขณะที่ถูกนำตัวส่งพนักงานสอบสวน แม้ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องในคดีที่ผู้ร้องถูกกล่าวหาว่าร่วมกระทำความผิดกับจำเลย ก็ปรากฏว่าเป็นการยกฟ้องเพราะมีเหตุสงสัยว่าผู้ร้องอาจจะไม่ได้ร่วมกระทำความผิดเท่านั้น มิใช่เหตุผลที่จะแสดงว่าผู้ร้องมิได้รู้เห็นเป็นใจในการที่จำเลยกระทำความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4186/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบรถจักรยานยนต์ที่ใช้หลังการกระทำผิด ไม่ใช่ยานพาหนะในการกระทำความผิด
ขณะผู้เสียหายเดินกลับมาเอากุญแจที่รถจักรยานยนต์ จำเลยกับพวกอีกหนึ่งคนได้ขับรถจักรยานยนต์เข้ามาจอดข้างรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายพวกของจำเลยลงจากรถจักรยานยนต์มาชิงทรัพย์ไปจากผู้เสียหายเสร็จแล้วจึงได้กลับมาซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของจำเลยขับหนีไปเป็นการใช้รถจักรยานยนต์เพื่อไปและกลับจากการกระทำผิด เพื่อให้พ้นจากการจับกุมโดยสะดวกรวดเร็วเท่านั้น ไม่ได้ใช้รถจักรยานยนต์ของกลางในการกระทำผิด ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33(1) จึงริบรถจักรยานยนต์ของกลางไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4186/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบรถจักรยานยนต์ที่ใช้หลบหนีหลังก่ออาชญากรรม ศาลฎีกาตัดสินว่าไม่เข้าข่ายการริบหากไม่ได้ใช้ในการกระทำความผิดโดยตรง
จำเลยขับรถจักรยานยนต์ของกลางไปจอดรอพวกของจำเลย และเมื่อพวกของจำเลยชิงทรัพย์ของผู้เสียหายเสร็จ ก็กลับมานั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของจำเลยแล้วจำเลยขับหลบหนีไป พฤติการณ์ของจำเลยกับพวก เป็นเพียงการใช้รถจักรยานยนต์ของกลางไปและกลับจากการกระทำความผิด เพื่อให้พ้นจากการจับกุมโดยสะดวกและรวดเร็วเท่านั้นไม่ได้ใช้รถจักรยานยนต์ของกลางในการกระทำความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33(1) จึงริบรถจักรยานยนต์ของกลางไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3618/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดสมคบยิงผู้อื่น - พยานหลักฐานไม่เพียงพอ - ยกฟ้อง
โจทก์ไม่มีพยานหลักฐานใดแสดงว่า ก่อนเกิดเหตุและขณะเกิดเหตุจำเลยได้กระทำการอย่างใดหรือมีพฤติการณ์อย่างใดแสดงถึงว่าจำเลยอาจสมคบกับคนร้ายที่ยิงผู้เสียหาย คงปรากฏแต่เพียงว่าหลังเกิดเหตุจำเลยได้วิ่งหนีไปทางเดียวกับคนร้ายเท่านั้น แต่ทางที่คนร้ายและจำเลยวิ่งหนีไปก็เป็นทางเดิน ซึ่งผู้เสียหายกับพวกและคนร้ายกับพวกและจำเลยเดินตามกันมา จำเลยก็นำสืบว่าเมื่อวิ่งออกพ้นที่เกิดเหตุแล้ว คนร้ายกับพวกก็วิ่งแยกทางไป ค.และส.พยานโจทก์ก็เบิกความว่า หลังจากเกิดเหตุแล้วจำเลยก็คงอยู่ที่บ้านจำเลยตามปกติและจำเลยยังอ้างว่าได้ไปเยี่ยมผู้เสียหายด้วยส่วนคนร้ายกับพวกได้หลบหนีไป จำเลยเบิกความไม่มีข้อพิรุธประการใดกรณียังเป็นที่สงสัยตามสมควร ข้อเท็จจริงยังรับฟังไม่ได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลยสมคบกับคนร้ายยิงผู้เสียหาย เม็ดตะกั่วกระสุนปืนของกลางเป็นทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำความผิดจึงสมควรให้ริบ.