พบผลลัพธ์ทั้งหมด 145 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1124/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้สนับสนุนการวิ่งราวทรัพย์: การช่วยเหลือหลังการกระทำความผิด ไม่ถึงตัวการร่วม และไม่ริบรถยนต์
จำเลยได้ร่วมรู้คบคิดกับ ศ. และพวกที่จะมาวิ่งราวทรัพย์ของผู้เสียหาย โดยมีการวางแผนให้ ศ.ไปทำการ ส่วนจำเลยกับพวกจอดรถอยู่ห่างที่เกิดเหตุ เมื่อ ศ.วิ่งราวทรัพย์แล้วก็จะวิ่งหนีมาขึ้นรถยนต์ของจำเลยหลบหนีไป จำเลยจอดรถคอยอยู่ห่างที่เกิดเหตุประมาณ 80 เมตร และมีศาลาวัดบังมองไม่เห็นที่เกิดเหตุ การกระทำของจำเลยเป็นการช่วยเหลือและให้ความสะดวกแก่ ศ.ในการที่จะไปทำการวิ่งราวทรัพย์ผู้เสียหาย จำเลยเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดตามมาตรา 86
การที่จำเลยกับพวกจอดรถกับ ศ.ไป เป็นเวลาภายหลังเมื่อ ศ.วิ่งราวทรัพย์เสร็จแล้ว ที่จอดรถและที่ ศ.วิ่งราวทรัพย์ห่างกันมาก และมองไม่เห็นกัน จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยเป็นตัวการร่วมในการวิ่งราวทรัพย์
รถยนต์ของจำเลยมิใช่ทรัพย์ที่ได้ใช้ในการกระทำความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์จึงไม่ถึงริบตามมาตรา 33(1)
การที่จำเลยกับพวกจอดรถกับ ศ.ไป เป็นเวลาภายหลังเมื่อ ศ.วิ่งราวทรัพย์เสร็จแล้ว ที่จอดรถและที่ ศ.วิ่งราวทรัพย์ห่างกันมาก และมองไม่เห็นกัน จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยเป็นตัวการร่วมในการวิ่งราวทรัพย์
รถยนต์ของจำเลยมิใช่ทรัพย์ที่ได้ใช้ในการกระทำความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์จึงไม่ถึงริบตามมาตรา 33(1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2615/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ยานพาหนะเพื่อหลบหนีหลังกระทำความผิด: การริบหรือไม่ริบของกลาง
จำเลยร่วมกระทำความผิดฐานชิงทรัพย์ โดยใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะหลบหนีเพื่อให้พ้นการจับกุมเมื่อพวกจำเลยชิงทรัพย์ได้มาแล้ว จำเลยจึงต้องระวางโทษหนักขึ้นตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 ตรี แต่รถจักรยานยนต์นี้ก็มิใช่ทรัพย์สินซึ่งจำเลยกับพวกได้ใช้หรือมีไว้ในการกระทำความผิดฐานชิงทรัพย์รายนี้ คงเป็นเพียงยานพาหนะไปมาและพาจำเลยกับพวกหลบหนีให้พ้นการจับกุมโดยสะดวกและรวดเร็วเท่านั้น จึงมิใช่ทรัพย์สินที่ริบได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33(1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2615/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ยานพาหนะเพื่อหลบหนีหลังชิงทรัพย์: การเพิ่มโทษและขอบเขตการริบของกลาง
จำเลยร่วมกระทำความผิดฐานชิงทรัพย์ โดยใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะหลบหนีเพื่อให้พ้นการจับกุมเมื่อพวกของจำเลยชิงทรัพย์ได้มาแล้ว จำเลยจึงต้องระวางโทษหนักขึ้นตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340ตรี แต่รถจักรยานยนต์นี้ก็มิใช่ทรัพย์สินซึ่งจำเลยกับพวกได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิดฐานชิงทรัพย์รายนี้คงเป็นเพียงยานพาหนะไปมาและพาจำเลยกับพวกหลบหนีให้พ้นการจับกุมโดยสะดวกและรวดเร็วเท่านั้น จึงมิใช่ทรัพย์สินที่ริบได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33(1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2529/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบยานพาหนะในความผิดวิ่งราวทรัพย์: พิจารณาการใช้ยานพาหนะ 'ระหว่าง' การกระทำความผิด
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 336 ทวิ หาได้บัญญัติให้ถือว่ายานพาหนะดังกล่าวในมาตรานี้เป็นทรัยพ์สินที่ใช้ในการกระทำความผิดด้วยไม่ แต่เป็นเพียงบทบัญญัติถึงเหตุที่จะทำให้ผู้กระทำความผิดต้องระวางโทษหนักขึ้นเท่านั้น ส่วนปัญหาที่ว่ายานพาหนะใดเป็นทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำความผิดซึ่งศาลมีอำนาจสั่งริบตามมาตรา 33(1) นั้น ต้องพิจารณาดูตามพฤติการณ์ของการกระทำแต่ละเรื่องไป ว่าผู้กระทำผิดได้ใช้ยานพาหนะนั้นในการกระทำความผิดหรือไม่
จำเลยวิ่งราวสร้อยคอโดยฉกฉวยเอาซึ่งหน้าแล้วพาหนีไปโดยใช้รถจักรยานสองล้อเป็นพาหนะ รถดังกล่าวเป็นเพียงยานพาหนะที่จำเลยใช้ภายหลังการวิ่งราวทรพัย์หาใช่ใช้ในการวิ่งราวทรัพย์ไม่ จึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ศาลมีอำนาจสั่งริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33(1)
จำเลยวิ่งราวสร้อยคอโดยฉกฉวยเอาซึ่งหน้าแล้วพาหนีไปโดยใช้รถจักรยานสองล้อเป็นพาหนะ รถดังกล่าวเป็นเพียงยานพาหนะที่จำเลยใช้ภายหลังการวิ่งราวทรพัย์หาใช่ใช้ในการวิ่งราวทรัพย์ไม่ จึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ศาลมีอำนาจสั่งริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33(1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2529/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบยานพาหนะในความผิดวิ่งราวทรัพย์: ต้องใช้ในการกระทำความผิดโดยตรงเท่านั้น
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 336ทวิ หาได้บัญญัติให้ถือว่ายานพาหนะดังกล่าวในมาตรานี้เป็นทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำความผิดด้วยไม่ แต่เป็นเพียงบทบัญญัติถึงเหตุที่จะทำให้ผู้กระทำความผิดต้องระวางโทษหนักขึ้นเท่านั้น ส่วนปัญหาที่ว่ายานพาหนะใดเป็นทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำความผิดซึ่งศาลมีอำนาจสั่งริบตามมาตรา 33(1) นั้น ต้องพิจารณาดูตามพฤติการณ์ของการกระทำแต่ละเรื่องไป ว่าผู้กระทำผิดได้ใช้ยานพาหนะนั้นในการกระทำความผิดหรือไม่
จำเลยวิ่งราวสร้อยคอโดยฉกฉวยเอาซึ่งหน้าแล้วพาหนีไปโดยใช้รถจักรยานสองล้อเป็นพาหนะ รถดังกล่าวเป็นเพียงยานพาหนะที่จำเลยใช้ภายหลังการวิ่งราวทรัพย์หาใช่ใช้ในการวิ่งราวทรัพย์ไม่ จึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ศาลมีอำนาจสั่งริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33(1)
จำเลยวิ่งราวสร้อยคอโดยฉกฉวยเอาซึ่งหน้าแล้วพาหนีไปโดยใช้รถจักรยานสองล้อเป็นพาหนะ รถดังกล่าวเป็นเพียงยานพาหนะที่จำเลยใช้ภายหลังการวิ่งราวทรัพย์หาใช่ใช้ในการวิ่งราวทรัพย์ไม่ จึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ศาลมีอำนาจสั่งริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33(1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 610/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบของกลางในความผิดตาม พ.ร.บ. ควบคุมการประกอบโรคศิลปะ: การใช้เครื่องมือไม่ใช่ความผิดโดยตัวมันเอง
จำเลยฉีดยาโดยเรียกเงินเป็นค่าจ้างตอบแทนโดยมิชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นความผิดตามพ.ร.บ. ควบคุมการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. 2479 มาตรา 11, 21 นั้นเข็มฉีดยาและสริ้งสำหรับฉีดยาไม่ใช่สิ่งที่ใช้ในการกระทำความผิด จึงมิใช่ทรัพย์สินอันจะพึงริบตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 (1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 610/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบของกลางในความผิด พ.ร.บ.ควบคุมการประกอบโรคศิลปะ: เข็มฉีดยาไม่ใช่ทรัพย์สินจากการกระทำความผิด
จำเลยฉีดยาโดยเรียกเงินเป็นค่าจ้างตอบแทนโดยมิชอบด้วยกฎหมายอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ.2479 มาตรา 11,21 นั้นเข็มฉีดยาและสริ้งสำหรับฉีดยาไม่ใช่สิ่งที่ใช้ในการกระทำความผิดจึงมิใช่ทรัพย์สินอันจะพึงริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33(1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 245/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปรุงยาโดยผู้ไม่มีคุณสมบัติและใบอนุญาต ถือเป็นความผิดเกิดจากการกระทำ ต้องริบของกลาง
เมื่อปรากฏว่าจำเลยขาดคุณสมบัติและความรู้ ไม่มีทางที่จะขึ้นทะเบียนรับอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะได้ แต่ก็ยังฝ่าฝืนปรุงยาเพื่อจำหน่ายเช่นนี้ ได้ชื่อว่าความผิดเกิดจากการกระทำ (คือปรุงยา) ของจำเลยตัวยาและเครื่องอุปกรณ์ในการปรุงยาเป็นทรัพย์สินที่จำเลยใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิด จึงต้องริบ
หากจำเลยเป็นผู้ได้รับอนุญาตให้ปรุงยา แล้ว แต่ใบอนุญาตของจำเลยขาดอายุ จำเลยไปปรุงยาเพื่อจำหน่ายเช่นนี้ ได้ชื่อว่าความผิดเกิดเพราะไม่ได้รับอนุญาตไม่ใช่เกิดจากการกระทำความผิด ของกลางไม่พึงริบ (เทียบคดีคำที่ 274/2503) (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 42/43/2504)
หากจำเลยเป็นผู้ได้รับอนุญาตให้ปรุงยา แล้ว แต่ใบอนุญาตของจำเลยขาดอายุ จำเลยไปปรุงยาเพื่อจำหน่ายเช่นนี้ ได้ชื่อว่าความผิดเกิดเพราะไม่ได้รับอนุญาตไม่ใช่เกิดจากการกระทำความผิด ของกลางไม่พึงริบ (เทียบคดีคำที่ 274/2503) (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 42/43/2504)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 245/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปรุงยาโดยไม่ได้รับอนุญาตและคุณสมบัติ การริบของกลาง
เมื่อปรากฏว่าจำเลยขาดคุณสมบัติและความรู้ ไม่มีทางที่จะขึ้นทะเบียนรับอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะได้ แต่ก็ยังฝ่าฝืนปรุงยาเพื่อจำหน่ายเช่นนี้ ได้ชื่อว่าความผิดเกิดจากการกระทำ (คือ ปรุงยา) ของจำเลย ตัวยาและเครื่องอุปกรณ์ในการปรุงยาเป็นทรัพย์สินที่จำเลยใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิด จึงต้องริบ
หากจำเลยเป็นผู้ได้รับอนุญาตให้ปรุงยาแล้ว แต่ใบอนุญาตของจำเลยขาดอายุจำเลยไปปรุงยาเพื่อจำหน่ายเช่นนี้ได้ชื่อว่าความผิดเกิดเพราะไม่ได้รับอนุญาตไม่ใช่เกิดจากการกระทำความผิด ของกลางไม่พึงริบ (เทียบคดีดำที่ 274/2503)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 42-43/2504)
หากจำเลยเป็นผู้ได้รับอนุญาตให้ปรุงยาแล้ว แต่ใบอนุญาตของจำเลยขาดอายุจำเลยไปปรุงยาเพื่อจำหน่ายเช่นนี้ได้ชื่อว่าความผิดเกิดเพราะไม่ได้รับอนุญาตไม่ใช่เกิดจากการกระทำความผิด ของกลางไม่พึงริบ (เทียบคดีดำที่ 274/2503)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 42-43/2504)