พบผลลัพธ์ทั้งหมด 16 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1041/2546
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษความผิดพยายามส่งยาเสพติด: ข้อจำกัดการใช้บทลงโทษกฎหมายพิเศษเมื่อมิได้ระบุในคำฟ้อง
พระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดฯมาตรา 7 เป็นกฎหมายพิเศษที่กำหนดให้ผู้พยายามกระทำความผิดต้องระวางโทษเท่ากับความผิดสำเร็จ เมื่อโจทก์มิได้อ้างมาตราดังกล่าวมาในคำขอท้ายฟ้อง ต้องถือว่าโจทก์ไม่ประสงค์ให้ลงโทษตามบทบัญญัติมาตราดังกล่าวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสี่ แม้โจทก์จะระบุในคำขอท้ายฟ้องว่าตั๋วโดยสารเครื่องบินของกลาง โจทก์จะดำเนินการขอริบตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดฯมาตรา 30 ต่อไป ก็หามีความหมายเป็นการขอให้ลงโทษตามมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวไม่ กรณีไม่อาจนำบทบัญญัติดังกล่าวมาปรับบทลงโทษจำเลยในความผิดฐานพยายามส่งเฮโรอีนออกนอกราชอาณาจักรเพื่อจำหน่ายให้เป็นผลร้ายแก่จำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2588/2545
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอ้างกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินหลังศาลมีคำสั่งริบตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด การยื่นคำร้องพ้นกำหนดทำให้ขาดสิทธิ
พระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดฯ มาตรา 30 วรรคสอง กำหนดให้บุคคลที่อ้างเป็นเจ้าของต้องยื่นคำร้องขอเข้ามาในคดีก่อนศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาหรือคำสั่ง ไม่ว่าในคดีนั้นจะปรากฏตัวบุคคลซึ่งอาจเชื่อได้ว่าเป็นเจ้าของหรือไม่ก็ตาม การที่ผู้ร้องมายื่นคำร้องเมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งริบรถยนต์ตามคำร้องของโจทก์และคดีถึงที่สุดแล้วจึงต้องห้ามตามกฎหมายดังกล่าว ทั้งตามมาตรา 30 วรรคท้ายแห่งพระราชบัญญัตินี้ ยังบัญญัติห้ามมิให้นำประมวลกฎหมายอาญามาตรา 36 มาใช้บังคับด้วย ผู้ร้องจึงไม่อาจอ้างเหตุว่าไม่รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดมาขอคืนรถยนต์ที่ศาลริบได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7927/2544
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ศาลริบได้หากมีพฤติการณ์น่าสงสัยและเกินฐานะ
ข้อเท็จจริงตามทางนำสืบผู้คัดค้านมีรายได้เพียงพอแก่การยังชีพเท่านั้น ขณะทำงานก็ได้รับค่าจ้างเป็นรายวันวันละ 157 บาทเมื่อลาออกจากงานแล้วก็ไม่ปรากฏหลักฐานว่าบริษัทเลิกกิจการและได้จ่ายเงินค่าชดเชยให้แก่ผู้คัดค้าน หลังออกจากงานแล้วผู้คัดค้านประกอบอาชีพค้าขายไส้กรอกและแหนมย่างมีรายได้พอใช้จ่ายประจำวันโดยมีกำไรวันละประมาณ 500 บาท กับมีรายได้พิเศษจากการไปช่วยขายของให้พี่สาวอีกเล็กน้อยเท่านั้น แต่เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับบัญชีเงินฝากของผู้คัดค้านแล้วพบว่ามีการนำเงินสดเข้าฝากถอนในบัญชีรวม11 ครั้ง และในการฝากแต่ละครั้งเป็นจำนวนเงินหลายหมื่นบาท ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกับวันที่ผู้คัดค้านกับ ส. ถูกจับกุมในข้อหาฐานร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย กรณีจึงเป็นที่เห็นชัดเจนว่าบัญชีเงินฝากของผู้คัดค้านมีการเคลื่อนไหวในลักษณะที่ผิดปกติและมีจำนวนเงินสูงกว่าฐานะหรือความสามารถในการประกอบอาชีพโดยสุจริตของผู้คัดค้าน เป็นทรัพย์สินที่มีอยู่หรือได้มาเกินกว่าฐานะหรือความสามารถในการประกอบอาชีพหรือกิจกรรมอย่างอื่นโดยสุจริต ดังนั้น จึงเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดที่พึงริบเสียได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7470/2544
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบทรัพย์สินจากความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด: ต้องแสดงว่าทรัพย์สินนั้นถูกใช้ในการกระทำความผิดโดยตรง
ทรัพย์สินที่จะต้องริบตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดฯ มาตรา 30 นั้น ต้องเป็นทรัพย์สินที่ถูกนำมาใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดหรือใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดหรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดด้วยเท่านั้น และจากนิยามความหมายของคำว่า "การกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด" ตามมาตรา 3 มิได้บัญญัติให้รวมเอาการกระทำความผิดฐานมียาเสพติดให้โทษไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตเข้าไว้ในความหมายของคำว่า "การกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด" ด้วย ดังนั้น ที่จำเลยกระทำความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตเพียงสถานเดียวจึงไม่อยู่ในเกณฑ์ที่จะนำมาตรา 30 มาใช้บังคับได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5713/2544
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบของกลางคดียาเสพติด: จำเลยต้องพิสูจน์ว่าไม่มีส่วนรู้เห็นหรือเหตุอันควรสงสัยในการกระทำความผิด
ตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดฯ มาตรา 30 วรรคสาม จำเลยที่ 3ผู้ขอคืนของกลางมีหน้าที่ต้องนำสืบพิสูจน์ให้ได้ว่า จำเลยที่ 3ไม่มีโอกาสทราบหรือไม่มีเหตุอันควรสงสัยว่าจะมีการกระทำความผิด และจะมีการนำทรัพย์สินของกลางดังกล่าวไปใช้ในการกระทำความผิด ศาลจึงจะไม่ริบของกลาง แต่จำเลยที่ 3นำสืบเพียงว่าจำเลยที่ 3 เป็นเจ้าของของกลาง และไม่ได้มีส่วนร่วมกระทำความผิดเท่านั้นโดยไม่สามารถพิสูจน์ข้ออ้างตามกฎหมายดังกล่าวได้ จึงไม่เพียงพอตามเจตนารมณ์ของบทบัญญัติดังกล่าวและข้อเท็จจริงตามพยานหลักฐานโจทก์ได้ความว่า จำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นสามีของจำเลยที่ 1 มีพฤติการณ์ใกล้ชิดกับการกระทำความผิดของจำเลยที่ 1 ด้วย เมื่อโทรศัพท์มือถือและรถยนต์กระบะเป็นเครื่องมือและยานพาหนะที่ใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและมีการประกาศหนังสือพิมพ์รายวันที่มีจำหน่ายแพร่หลายในท้องถิ่นสองวันติดต่อกันตามกฎหมายแล้ว จึงต้องริบของกลางดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2958/2544
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบรถยนต์ที่ใช้ในความผิดยาเสพติด: สิทธิของภริยาที่ไม่จดทะเบียนสมรส
ผู้ร้องเป็นภริยาจำเลยแต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส ผู้ร้องทำงานในบริษัทแห่งหนึ่ง ส่วนจำเลยประกอบอาชีพเปิดอู่ซ่อมรถและซ่อมเครื่องเสียงที่บ้าน ผู้ร้องอ้างว่าซื้อรถจักรยานยนต์ของกลางให้จำเลยเพื่อใช้รับส่งลูกไปโรงเรียนซึ่งโดยสภาพของรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวเป็นรถขนาดใหญ่ไม่เหมาะที่ผู้ร้องจะใช้งานแสดงว่าผู้ร้องมอบรถจักรยานยนต์ให้จำเลยใช้ในลักษณะเป็นเจ้าของ ประกอบกับจำเลยมีพฤติกรรมจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนมาก่อนแต่เพิ่งถูกจับกุมในคดีนี้เป็นครั้งแรก จึงไม่น่าเชื่อว่าผู้ร้องจะไม่มีโอกาสทราบหรือไม่มีเหตุอันควรสงสัยว่าจำเลยจะนำรถจักรยานยนต์ของกลางไปใช้ในการกระทำความผิด ที่ศาลล่างทั้งสองสั่งริบรถจักรยานยนต์นั้นชอบแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8844/2543
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภาระการพิสูจน์ของผู้ครอบครองทรัพย์สินที่ถูกใช้ในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดตาม พ.ร.บ. มาตรการปราบปรามยาเสพติด
พระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดฯ มาตรา 30 วรรคสาม บัญญัติให้เป็นหน้าที่ของผู้คัดค้านเป็นผู้มีหน้าที่พิสูจน์ว่าตนไม่มีโอกาสทราบหรือไม่มีเหตุอันควรสงสัยว่าจะมีการกระทำความผิดและจะมีการนำทรัพย์สินดังกล่าวไปใช้ในการกระทำความผิด บทบัญญัติดังกล่าวได้กำหนดไว้อย่างชัดเจนว่าผู้คัดค้านมีภาระการพิสูจน์ เมื่อผู้คัดค้านเบิกความแต่เพียงลอย ๆ ว่าจำเลยขอยืมรถยนต์ไปทำงาน ไม่ทราบว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดแต่ไม่ปรากฏเหตุผลความจำเป็น พฤติการณ์ของจำเลยที่ค้ายาเสพติดผู้คัดค้านซึ่งเป็นภริยาควรจะต้องทราบเรื่องบ้าง พยานหลักฐานของผู้คัดค้านจึงยังไม่มีน้ำหนัก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4655/2543
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบรถยนต์ที่ใช้ในการกระทำผิดยาเสพติด เจ้าของกรรมสิทธิ์ต้องพิสูจน์ได้ว่าไม่ใช่ของจำเลย
จำเลยได้ใช้รถยนต์กระบะของกลางเป็นยานพาหนะไปรับเมทแอมเฟตามีน รถยนต์กระบะจึงเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งจำเลยได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติมาตราการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดฯ มาตรา 29,30
ผู้คัดค้านซึ่งอ้างตัวเป็นเจ้าของรถยนต์กระบะของกลางนำสืบแต่เพียงเป็นผู้มีชื่อในสำเนารายการจดทะเบียน ซึ่งเอกสารดังกล่าวมิใช่หลักฐานที่แสดงว่าผู้คัดค้านเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์เพราะเป็นเพียงหลักฐานที่ทางราชการออกให้เพื่อประโยชน์ในการจัดเก็บภาษีรถยนต์เท่านั้น พยานหลักฐานของผู้คัดค้านไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานของผู้ร้องที่มีพนักงานสอบสวนมายืนยันว่าในชั้นสอบสวนจำเลยยอมรับว่ารถยนต์กระบะเป็นของตน กรณีไม่จำต้องวินิจฉัยว่าผู้คัดค้านรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดหรือไม่
ผู้คัดค้านซึ่งอ้างตัวเป็นเจ้าของรถยนต์กระบะของกลางนำสืบแต่เพียงเป็นผู้มีชื่อในสำเนารายการจดทะเบียน ซึ่งเอกสารดังกล่าวมิใช่หลักฐานที่แสดงว่าผู้คัดค้านเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์เพราะเป็นเพียงหลักฐานที่ทางราชการออกให้เพื่อประโยชน์ในการจัดเก็บภาษีรถยนต์เท่านั้น พยานหลักฐานของผู้คัดค้านไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานของผู้ร้องที่มีพนักงานสอบสวนมายืนยันว่าในชั้นสอบสวนจำเลยยอมรับว่ารถยนต์กระบะเป็นของตน กรณีไม่จำต้องวินิจฉัยว่าผู้คัดค้านรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2683/2543
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลสั่งริบทรัพย์สินในคดียาเสพติด: ข้อจำกัดตาม พ.ร.บ.มาตรการปราบปรามยาเสพติด เมื่อไม่ใช่ความผิดตามกฎหมายดังกล่าว
ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดฯ มาตรา 3 ให้คำนิยามไว้ว่า หมายความว่าการผลิตนำเข้า ส่งออก จำหน่ายหรือมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดและให้หมายความรวมถึง การสมคบ สนับสนุน ช่วยเหลือ หรือพยายามกระทำความผิดดังกล่าวด้วย ไม่ได้รวมถึงการมียาเสพติดไว้ในครอบครอง โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยข้อหามีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตไม่ใช่คดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดตามพระราชบัญญัติดังกล่าว โจทก์จึงไม่มีอำนาจร้องขอให้ศาลสั่งริบทรัพย์สินของกลางให้ตกเป็นของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตามมาตรา 30 และ 31 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 501/2543
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บัตรโดยสารเครื่องบินเป็นอุปกรณ์ช่วยเหลือการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด จึงต้องถูกริบตามกฎหมาย
การเดินทางออกราชอาณาจักรทางเครื่องบิน ผู้เดินทางจำต้องมีบัตรโดยสารเครื่องบินสำหรับเที่ยวบินที่ตนจะเดินทางให้ถูกต้องเสียก่อน มิฉะนั้นการเดินทางดังกล่าวจะเกิดขึ้นมิได้ด้วยพนักงานสายการบินจะยินยอมให้เฉพาะผู้มีบัตรโดยสารเครื่องบินเท่านั้นผ่านขึ้นเครื่องบินได้ ผู้คัดค้านมีบัตรโดยสารเครื่องบินของกลางที่ระบุชื่อผู้เดินทางคือผู้คัดค้านถูกต้องตรงกับหนังสือเดินทางที่จะช่วยให้ผู้คัดค้านสามารถเดินทางออกนอกราชอาณาจักรได้สำเร็จและหากผู้คัดค้านเดินทางถึงที่หมายก็จะได้รับผลจากการนำยาเสพติดให้โทษออกนอกราชอาณาจักร บัตรโดยสารเครื่องบินของกลางจึงเป็นทรัพย์ที่ช่วยเหลือเกื้อหนุนโดยเป็นอุปกรณ์ให้ผู้คัดค้านสามารถรับผลในการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดต้องถูกริบเป็นของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตามพระราชบัญญัติ มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 มาตรา 30,31