คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 456

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,139 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2458/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนขายอสังหาริมทรัพย์ไม่เป็นหนังสือและจดทะเบียน ทำให้การโอนเป็นโมฆะ แม้ผู้ซื้อจะสุจริตและเสียค่าตอบแทน
การโอนขายห้องพิพาทโดยผู้รับโอนจะใช้เป็นที่ค้าขาย มิใช่เพื่อรื้อเอาไป ห้องพิพาทเป็นอสังหาริมทรัพย์ เมื่อการโอนขายไม่ได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนสิทธิ์ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่จึงเป็นโมฆะ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 456

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2458/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนขายอสังหาริมทรัพย์โดยมิได้ทำตามรูปแบบตามกฎหมาย ทำให้การโอนเป็นโมฆะ
การโอนขายห้องพิพาทโดยผู้รับโอนจะใช้เป็นที่ค้าขาย มิใช่เพื่อรื้อเอาไปห้องพิพาทเป็นอสังหาริมทรัพย์ เมื่อการโอนขายไม่ได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนสิทธิต่อพนักงานเจ้าหน้าที่จึงเป็นโมฆะ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 456

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2334/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองบ้านในที่สาธารณะ การซื้อขายโดยไม่จดทะเบียน และสิทธิการฟ้องขับไล่
จำเลยปลูกบ้านอาศัยในที่สาธารณะ จำเลยหามีกรรมสิทธิ์ในบ้านพิพาทไม่ คงมีแต่สิทธิ์ครอบครองเท่านั้น (อ้างฎีกาที่ 1405/2515) ต่อมาจำเลยขายบ้านพร้อมที่ดินดังกล่าวแก่โจทก์ โดยทำหนังสือซื้อขายกันเอง ชำระราคากันครบถ้วนและยอมส่งมอบบ้านให้แก่โจทก์ ดังนี้เป็นการแสดงเจตนาสละการครอบครองบ้านดังกล่าวแล้ว การที่จำเลยขออาศัยอยู่ในบ้านพิพาทต่อมานั้น เป็นการครอบครองแทนโจทก์ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2334/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองในที่สาธารณะ การซื้อขายสิทธิครอบครอง และอำนาจฟ้องขับไล่
จำเลยปลูกบ้านอาศัยในที่สาธารณะ จำเลยหามีกรรมสิทธิ์ในบ้านพิพาทไม่ คงมีแต่สิทธิครอบครองเท่านั้น (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1405/2515) ต่อมาจำเลยขายบ้านพร้อมที่ดินดังกล่าวแก่โจทก์ โดยทำหนังสือซื้อขายกันเอง ชำระราคากันครบถ้วนและยอมส่งมอบบ้านให้แก่โจทก์ ดังนี้เป็นการแสดงเจตนาสละการครอบครองบ้านดังกล่าวแล้ว การที่จำเลยขออาศัยอยู่ในบ้านพิพาทต่อมานั้น เป็นการครอบครองแทนโจทก์โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2205/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายรถยนต์ไม่จำเป็นต้องมีเอกสารหลักฐาน การรับมอบรถถือเป็นการซื้อขายเด็ดขาด ศาลรับฟังพยานบุคคลได้
เอกสารระบุว่าโจทก์เป็นผู้ชำระราคาและรับโอนรถยนต์พิพาทแต่การซื้อขายรถยนต์พิพาทอันเป็นสังหาริมทรัพย์ไม่ต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่อย่างเช่นอสังหาริมทรัพย์ และสังหาริมทรัพย์บางประเภทดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 456 วรรคแรก และฝ่ายผู้ซื้อรถยนต์พิพาทได้รับมอบรถยนต์มาแล้วถือเป็นการซื้อขายเด็ดขาดซึ่งมีการชำระหนี้แล้ว การฟ้องร้องบังคับคดีจึงไม่จำต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ การซื้อขายรถยนต์พิพาทจึงไม่ใช่กรณีที่กฎหมายบังคับให้ต้องมีพยานเอกสารมาแสดง ทั้งการที่จำเลยนำพยานบุคคลมาสืบว่า ห้าง อ. เป็นผู้ซื้อ ที่ลงชื่อโจทก์เป็นผู้ชำระเงินค่าซื้อรถยนต์พิพาทและผู้รับโอนรถยนต์พิพาทในเอกสารนั้นเป็นการลงชื่อโจทก์ในฐานะที่โจทก์เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งของห้าง อ. หรือในฐานะที่โจทก์เป็นตัวแทนของห้าง ก็เป็นการนำสืบถึงความเป็นจริงระหว่างตัวการกับตัวแทน จึงไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2038/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินโดยโฉนดผิดพลาด โจทก์ทราบข้อเท็จจริงแต่ยังซื้อขาย ถือเป็นการได้สิทธิไม่สุจริต
น. มีที่ดินสองแปลงคือ ที่พิพาทและที่ดินโฉนดที่2785 น. ได้ขายที่พิพาทให้บิดาของภริยาจำเลย แต่ด้วยความเข้าใจผิดได้นำโฉนดที่ 2785 มาจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ บิดาของภริยาจำเลยครอบครองที่พิพาทมากว่า 30 ปีแล้วถึงแก่กรรม ภริยาจำเลยรับมรดกที่พิพาทแต่จดทะเบียนในโฉนดที่ 2785 แล้วจำเลยกับภริยาครอบครองที่พิพาทตลอดมาส่วนที่ดินตามโฉนดเลขที่ 2785 น. ขายให้กับผู้มีชื่อโดยจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์กันในโฉนดสำหรับที่พิพาท แล้วโอนกันต่อมาจนตกเป็นของ จ. จ. จดทะเบียนโอนขายให้โจทก์เมื่อได้ความว่าโจทก์มีเจตนาจะซื้อที่ดินแปลงที่ จ.ครอบครองเป็นเจ้าของอยู่เป็นสำคัญยิ่งกว่าที่ดินแปลงตามหน้าโฉนดที่ถูกต้อง โจทก์จึงไม่มีสิทธอ้างเอาที่พิพาทการมีชื่อ จ. เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ทางทะเบียนในโฉนดสำหรับที่พิพาท ไม่ทำให้ จ. มีสิทธิขายที่ดินตามหน้าโฉนดนี้เพราะที่ดินไม่ใช่ของ จ. เมื่อโจทก์รู้อยู่แล้วเช่นนี้ ยังรับซื้อและรับโอนทะเบียนมา ถือได้ว่าเป็นการได้สิทธิและได้จดทะเบียนสิทธิโดยไม่สุจริตไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2038/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินโฉนดไขว้กัน โจทก์รู้ข้อเท็จจริงแต่ยังซื้อขาย ถือเป็นการได้สิทธิโดยไม่สุจริต
น. มีที่ดินสองแปลงคือ ที่พิพาทและที่ดินโฉนดที่ 2785 น. ได้ขายที่พิพาทให้กับบิดาของภริยาจำเลย แต่ด้วยความเข้าใจผิดได้นำโฉนดที่ 2785 มาจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ บิดาของภริยาจำเลยครอบครองที่พิพาทมากว่า 30 ปีแล้วถึงแก่กรรม ภริยาจำเลยรับมรดกที่พิพาทแต่จดทะเบียนในโฉนดที่ 2785 แล้วจำเลยกับภริยาครอบครองที่พิพาทตลอดมา ส่วนที่ดินตามโฉนดเลขที่ 2785 น. ขายให้กับผู้มีชื่อโดยจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์กันในโฉนดสำหรับที่พิพาท แล้วโอนกันต่อมาจนตกเป็นของ จ. จ. จดทะเบียนโอนขายให้โจทก์ เมื่อได้ความว่าโจทก์มีเจตนาจะซื้อที่ดินแปลงที่ จ. ครอบครองเป็นเจ้าของอยู่เป็นสำคัญยิ่งกว่าที่ดินแปลงตามหน้าโฉนดที่ถูกต้อง โจทก์จึงไม่มีสิทธิ์อ้างเอาที่พิพาท การมีชื่อ จ. เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ทางทะเบียนในโฉนดสำหรับที่พิพาท ไม่ทำให้ จ. มีสิทธิ์ขายที่ดินตามหน้าโฉนดนี้เพราะที่ดินไม่ใช่ของ จ. เมื่อโจทก์รู้อยู่แล้วเช่นนี้ ยังรับซื้อและรับโอนทางทะเบียนมา ถือได้ว่าเป็นการได้สิทธิ์และได้จดทะเบียนสิทธิ์โดยไม่สุจริต ไม่มีสิทธิ์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1266/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายสินเดิมโดยไม่ได้รับความยินยอมจากภรรยา และผลกระทบต่อการแบ่งมรดก
การที่สามีจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์สินเดิมของตนอันเป็นสินบริคณห์ระหว่างสามีภรรยาตามประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ มาตรา 1462 ด้วยการยกให้โดยเสน่หานั้น จะต้องได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากภรรยาตามมาตรา 1473 และ 1476 ประกอบด้วย 525 และ 456
คดีมีประเด็นว่า จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นภรรยาของผู้ตายได้ยินยอมให้ผู้ตายยกอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นสินเดิมของผู้ตายให้แก่ผู้อื่นโดยเสน่หาหรือไม่ เมื่อโจทก์ไม่นำสืบให้เห็นว่าจำเลยที่ 1 ได้ให้ความยินยอมเป็นหนังสือ ทั้งคดีไม่มีประเด็นว่าเป็นการให้ตามสมควรในทางศีลธรรมอันดีหรือในทางสมาคมหรือเป็นการจำหน่ายเพื่อประโยชน์ตนฝ่ายเดียวหรือไม่ ศาลย่อมมีอำนาจวินิจฉัยว่าจำเลยที่ 1 โดยไม่ต้องชักสินสมรสไปใช้สินเดิมดังกล่าวของผู้ตายก่อน
การแบ่งทรัพย์สินระหว่างผู้ตายกับคู่สมรสที่ยังมีชีวิตอยู่นั้น แม้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1625(1)จะไม่ได้บัญญัติให้นำมาตรา 1476 มาใช้ด้วย แต่มาตรา 1476 เป็นบทบังคับในเรื่องแบบของความยินยอม อันจะนำไปสู่บทบัญญัติเรื่องจะนำสินสมรสใช้คืนสินเดิมของคู่สมรสที่หย่าขาดจากกันได้หรือไม่เพียงใด ศาลย่อมยกขึ้นปรับกับคดีได้ หาเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติ มาตรา 1625(1) ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1005/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิครอบครองเรือนและยุ้งข้าว แม้ซื้อขายไม่จดทะเบียน แต่ผู้ขายสละการครอบครองแล้ว กรรมสิทธิ์จึงเป็นของผู้ซื้อ
ที่ดินมี น.ส. 3 ผู้เป็นเจ้าของมีแต่เพียงสิทธิครอบครอง จำเลยซึ่งเป็นเจ้าของเรือนและยุ้งข้าวที่ปลูกอยู่บนที่ดินดังกล่าว จึงมีแต่สิทธิครอบครองเช่นเดียวกัน เมื่อผู้ร้องซื้อเรือนและยุ้งข้าวจากจำเลยโดยชำระราคาและรับมอบการครอบครองแล้ว ย่อมเป็นการแสดงเจตนาสละการครอบครองของจำเลย แม้การซื้อขายไม่จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นโมฆะก็ตาม การครอบครองของจำเลยก็สิ้นสุดลง เรือนและยุ้งข้าวดังกล่าวจึงเป็นของผู้ร้อง โจทก์ไม่มีสิทธิยึดเพื่อขายทอดตลาดชำระหนี้โจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 975/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิครอบครองบ้านบนที่ดิน น.ส.3 แม้สัญญาซื้อขายเป็นโมฆะ
จำเลยขายฝากที่ดิน น.ส.3 พร้อมบ้านพิพาทซึ่งปลูกอยู่ในที่ดินดังกล่าวไว้กับ ส. แล้วไม่ไถ่คืนภายในกำหนด ต่อมา ส. ขายที่ดินและบ้านดังกล่าวให้แก่ผู้ร้องโดยทำสัญญาซื้อขายกันเอง ดังนี้ แม้สัญญาซื้อขายบ้านพิพาทระหว่าง ส. กับผู้ร้องเป็นโมฆะ เพราะไม่ได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก็ดี แต่บ้านพิพาทปลูกอยู่บนที่ดิน น.ส.3 ซึ่งมีได้แต่สิทธิครอบครอง บ้านพิพาทอันเป็นส่วนควบของที่ดินดังกล่าวจึงมีได้แต่เพียงสิทธิครอบครองเช่นเดียวกัน เมื่อ ส. ได้สละเจตนาครอบครองบ้านพิพาทให้ผู้ร้อง การครอบครองของ ส. ก็นิ้นลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1377 และผู้ร้องซึ่งเป็นผู้รับโอนก็ได้ไปซึ่งการครอบครองตามมาตรา 1378 จำเลยไม่มีสิทธิใด ๆ ในบ้านพิพาท โจทก์จึงไม่มีสิทธิยึดบ้านพิพาทเพื่อขายทอดตลาด
of 114