พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,139 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 590/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของเจ้าหนี้ในการร้องสอดคดีแบ่งมรดก: ผู้ร้องสอดต้องมีส่วนได้เสียตามกฎหมายในผลแห่งคดีจึงจะร้องสอดได้
โจทก์ฟ้องขอแบ่งที่ดินมรดกจากจำเลย ผู้ร้องสอดอ้างว่าที่แปลงนี้เป็นของจำเลยแล้ว จำเลยกู้เงินผู้ร้องสอดไปแล้วตกลงยอมขายที่แปลงนี้ทั้งหมดแก่ผู้ร้องสอดเพื่อเป็นการชำระหนี้ ถ้าจำเลยแพ้คดีผู้ร้องสอดจะได้รับความเสียหายขอเข้ามาเป็นคู่ความร่วม ข้ออ้างดังนี้ยังถือไม่ได้ว่าผู้ร้องสอดมีส่วนได้เสียตามกฎหมายในผลแห่งคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 590/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของเจ้าหนี้ในการร้องสอดคดีแบ่งมรดก แม้จำเลยตกลงจะขายที่ดินเพื่อชำระหนี้ ก็ไม่ถือว่าเป็นผู้มีส่วนได้เสียตามกฎหมาย
โจทก์ฟ้องขอแบ่งที่ดินมรดกจากจำเลย ผู้ร้องสอดอ้างว่าที่แปลงนี้เป็นของจำเลยแล้ว จำเลยกู้เงินผู้ร้องสอดไปแล้วตกลงยอมขายที่แปลงนี้ทั้งหมดแก่ผู้ร้องสอดเพื่อเป็นการชำระหนี้ ถ้าจำเลยแพ้คดีผู้ร้องสอดจะได้รับความเสียหายขอเข้ามาเป็นคู่ความร่วม ข้ออ้างดังนี้ยังถือไม่ได้ว่าผู้ร้องสอดมีส่วนได้เสียตามกฎหมายในผลแห่งคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 474-475/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของนิติกรรมซื้อขาย, การรับมรดก, และผลของการบอกเลิกสัญญาเช่าที่ชอบด้วยกฎหมาย
ข้อบกพร่องในการที่เจ้าหน้าที่กรอกชื่อบริษัทโจทก์ร่วมไว้ในทะเบียนการให้และสัญญาซื้อขายขาดคำว่า "จำกัด" ท้ายชื่อไปไม่มีผลกระทบกระเทือนถึงความสมบูรณ์ของนิติกรรมที่ทำขึ้น
ภริยาจำเลยแถลงต่อศาลชั้นต้นยอมรับเป็นผู้รับมรดกความแทนจำเลย และได้รับความยินยอมจากคู่ความ ทั้งไม่มีฝ่ายใดโต้แย้งในการที่ศาลชั้นต้นสั่งให้ภริยาจำเลยเข้ารับมรดกความ แม้ศาลอุทธรณ์จะมิได้สั่งอย่างใด ถือได้ว่าอนุญาตให้เป็นไปตามที่ภริยาจำเลยยอมรับจึงไม่ชอบที่ภริยาจำเลยจะรื้อฟื้นขึ้นอ้างว่าศาลอุทธรณ์ยังมิได้มีคำสั่งในเรื่องนี้อีก
เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์นำส่งหนังสือบอกเลิกการเช่าของทนายโจทก์ถึงจำเลย ไปยังที่อยู่ของจำเลยถึง 3 ครั้งก็ไม่มีผู้รับ ดังนี้ ถือได้ว่าคำบอกกล่าวเลิกสัญญาของโจทก์มีผลนับแต่เมื่อเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์นำส่งไปถึงสถานที่ของจำเลย และจำเลยได้ทราบคำบอกกล่าวเลิกสัญญาเช่าของโจทก์โดยชอบสัญญาเช่าได้ระงับเลิกไปแล้วจำเลยจึงต้องออกจากตึกพิพาทของโจทก์
ภริยาจำเลยแถลงต่อศาลชั้นต้นยอมรับเป็นผู้รับมรดกความแทนจำเลย และได้รับความยินยอมจากคู่ความ ทั้งไม่มีฝ่ายใดโต้แย้งในการที่ศาลชั้นต้นสั่งให้ภริยาจำเลยเข้ารับมรดกความ แม้ศาลอุทธรณ์จะมิได้สั่งอย่างใด ถือได้ว่าอนุญาตให้เป็นไปตามที่ภริยาจำเลยยอมรับจึงไม่ชอบที่ภริยาจำเลยจะรื้อฟื้นขึ้นอ้างว่าศาลอุทธรณ์ยังมิได้มีคำสั่งในเรื่องนี้อีก
เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์นำส่งหนังสือบอกเลิกการเช่าของทนายโจทก์ถึงจำเลย ไปยังที่อยู่ของจำเลยถึง 3 ครั้งก็ไม่มีผู้รับ ดังนี้ ถือได้ว่าคำบอกกล่าวเลิกสัญญาของโจทก์มีผลนับแต่เมื่อเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์นำส่งไปถึงสถานที่ของจำเลย และจำเลยได้ทราบคำบอกกล่าวเลิกสัญญาเช่าของโจทก์โดยชอบสัญญาเช่าได้ระงับเลิกไปแล้วจำเลยจึงต้องออกจากตึกพิพาทของโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 365/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ในสัตว์พาหนะ: การโอนกรรมสิทธิ์ต้องจดทะเบียน มิฉะนั้นการซื้อขายเป็นโมฆะ เจ้าของอันแท้จริงเท่านั้นขอคืนของกลางได้
ผู้ร้องซื้อกระบือจากผู้ขาย แม้จะได้ชำระเงินไปบ้างแล้ว แต่ยังไม่ได้โอนกรรมสิทธิ์ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ การซื้อขายตกเป็นโมฆะ กระบือยังเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ขายอยู่
ผู้ที่จะเสนอคดีต่อศาลให้ศาลสั่งคืนของกลางที่ศาลสั่งริบแล้ว จะต้องเป็นเจ้าของอันแท้จริง เมื่อผู้ร้องไม่ใช่เจ้าของอันแท้จริงแล้วจะยื่นคำร้องต่อศาลขอให้สั่งคืนกระบือของกลางที่ศาลสั่งริบแล้วไม่ได้
ผู้ที่จะเสนอคดีต่อศาลให้ศาลสั่งคืนของกลางที่ศาลสั่งริบแล้ว จะต้องเป็นเจ้าของอันแท้จริง เมื่อผู้ร้องไม่ใช่เจ้าของอันแท้จริงแล้วจะยื่นคำร้องต่อศาลขอให้สั่งคืนกระบือของกลางที่ศาลสั่งริบแล้วไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 365/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์กระบือ: การโอนกรรมสิทธิ์ต้องจดทะเบียน มิฉะนั้นเป็นโมฆะ เจ้าของอันแท้จริงเท่านั้นขอคืนของกลางได้
ผู้ร้องซื้อกระบือจากผู้ขาย แม้จะได้ชำระเงินไปบ้างแล้ว แต่ยังไม่ได้โอนกรรมสิทธิ์ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ การซื้อขายตกเป็นโมฆะ กระบือยังเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ขายอยู่
ผู้ที่จะเสนอคดีต่อศาลให้ศาลสั่งคืนของกลางที่ศาลสั่งริบแล้วจะต้องเป็นเจ้าของอันแท้จริง เมื่อผู้ร้องไม่ใช่เจ้าของอันแท้จริงแล้วจะยื่นคำร้องต่อศาลขอให้สั่งคืนกระบือของกลางที่ศาลสั่งริบแล้วไม่ได้
ผู้ที่จะเสนอคดีต่อศาลให้ศาลสั่งคืนของกลางที่ศาลสั่งริบแล้วจะต้องเป็นเจ้าของอันแท้จริง เมื่อผู้ร้องไม่ใช่เจ้าของอันแท้จริงแล้วจะยื่นคำร้องต่อศาลขอให้สั่งคืนกระบือของกลางที่ศาลสั่งริบแล้วไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 257-258/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งห้ามชั่วคราวไม่ใช่การบังคับคดี นายอำเภอมีอำนาจยึดทรัพย์เพื่อภาษีอากรได้ แม้มีคำสั่งห้ามชั่วคราว
คำสั่งห้ามชั่วคราวของศาลมิให้ทำนิติกรรมใด ๆ เกี่ยวกับตึกของจำเลยนั้น เป็นวิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษาเพื่อคุ้มครองป้องกันผลประโยชน์ของเจ้าหนี้ให้ได้รับผลตามคำพิพากษา โดยบริบูรณ์ที่สุดเท่าที่จะทำได้ มิใช่เป็นส่วนหนึ่งของการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง
คำสั่งห้ามชั่วคราวดังกล่าวแล้วมีผลเพียงห้ามจำเลยมิให้ทำนิติกรรมใด ๆ เกี่ยวกับตึกของจำเลย การที่ศาลแจ้งคำสั่งให้นายอำเภอทราบก็เพื่อมิให้รับจดทะเบียนนิติกรรมใด ๆ ที่จำเลยจะลักลอบกระทำโดยไม่สุจริต มิได้หมายความว่า เป็นการห้ามยึดหรืออายัดตามบทบัญญัติว่าด้วยการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งหรือกฎหมายอื่นเสียเลย
ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 12 นายอำเภอมีอำนาจยึดและขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้ต้องรับผิดเสียภาษีอากรเพื่อชำระค่าภาษีอากรค้างได้โดยไม่จำเป็นต้องฟ้องร้องแม้ศาลจะมีคำสั่งห้ามชั่วคราวมิให้ทำนิติกรรมใด ๆ เกี่ยวกับตึกของจำเลย และแจ้งคำสั่งให้นายอำเภอทราบแล้ว แต่เมื่อจำเลยค้างชำระค่าภาษีอากร นายอำเภอก็มีอำนาจยึดตึกของจำเลยมาขายทอดตลาดชำระค่าภาษีอากรค้างนั้นได้ โดยชอบด้วยกฎหมาย
ผู้ร้องเป็นผู้ซื้อตึกของจำเลยได้จากการขายทอดตลาดของนายอำเภอ และได้ชำระราคาครบถ้วนแล้ว การขายทอดตลาดบริบูรณ์ชอบด้วยกฎหมายแล้ว นายอำเภอจะสั่งเพิกถอนการขายทอดตลาดมิได้ แม้อำเภอจะยังมิได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ตึกให้แก่ผู้ร้อง ผู้ร้องก็อยู่ในฐานะจดทะเบียนสิทธิได้ก่อนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1300 เมื่อการขายทอดตลาดตึกได้กระทำก่อนโจทก์บังคับคดี โจทก์บังคับคดีเอาแก่ตึกดังกล่าวให้เป็นการกระทบถึงสิทธิของผู้ร้อง ซึ่งอาจบังคับเหนือตึกนั้น หาได้ไม่
ผู้ร้องคนเดียวยื่นคำร้องขัดทรัพย์แยกกันเป็น 2 คดี คดีแรกร้องขัดทรัพย์เฉพาะตึก ส่วนคดีหลังร้องขัดทรัพย์เฉพาะเตียงโต๊ะเก้าอี้ และเครื่องที่นอน แม้ศาลจะร่วมพิจารณาพิพากษาและผู้ร้องฎีการวมกันมา ก็ต้องถือทุนทรัพย์แต่ละคดีเป็นเกณฑ์พิจารณาในการใช้สิทธิฎีกา เมื่อคดีหลังเป็นคดีมีทุนทรัพย์ไม่เกินห้าพันบาท และศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ย่อมต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง แม้ศาลชั้นต้นจะสั่งรับฎีกามา ศาลฎีกาก็ไม่วินิจฉัยให้
คำสั่งห้ามชั่วคราวดังกล่าวแล้วมีผลเพียงห้ามจำเลยมิให้ทำนิติกรรมใด ๆ เกี่ยวกับตึกของจำเลย การที่ศาลแจ้งคำสั่งให้นายอำเภอทราบก็เพื่อมิให้รับจดทะเบียนนิติกรรมใด ๆ ที่จำเลยจะลักลอบกระทำโดยไม่สุจริต มิได้หมายความว่า เป็นการห้ามยึดหรืออายัดตามบทบัญญัติว่าด้วยการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งหรือกฎหมายอื่นเสียเลย
ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 12 นายอำเภอมีอำนาจยึดและขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้ต้องรับผิดเสียภาษีอากรเพื่อชำระค่าภาษีอากรค้างได้โดยไม่จำเป็นต้องฟ้องร้องแม้ศาลจะมีคำสั่งห้ามชั่วคราวมิให้ทำนิติกรรมใด ๆ เกี่ยวกับตึกของจำเลย และแจ้งคำสั่งให้นายอำเภอทราบแล้ว แต่เมื่อจำเลยค้างชำระค่าภาษีอากร นายอำเภอก็มีอำนาจยึดตึกของจำเลยมาขายทอดตลาดชำระค่าภาษีอากรค้างนั้นได้ โดยชอบด้วยกฎหมาย
ผู้ร้องเป็นผู้ซื้อตึกของจำเลยได้จากการขายทอดตลาดของนายอำเภอ และได้ชำระราคาครบถ้วนแล้ว การขายทอดตลาดบริบูรณ์ชอบด้วยกฎหมายแล้ว นายอำเภอจะสั่งเพิกถอนการขายทอดตลาดมิได้ แม้อำเภอจะยังมิได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ตึกให้แก่ผู้ร้อง ผู้ร้องก็อยู่ในฐานะจดทะเบียนสิทธิได้ก่อนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1300 เมื่อการขายทอดตลาดตึกได้กระทำก่อนโจทก์บังคับคดี โจทก์บังคับคดีเอาแก่ตึกดังกล่าวให้เป็นการกระทบถึงสิทธิของผู้ร้อง ซึ่งอาจบังคับเหนือตึกนั้น หาได้ไม่
ผู้ร้องคนเดียวยื่นคำร้องขัดทรัพย์แยกกันเป็น 2 คดี คดีแรกร้องขัดทรัพย์เฉพาะตึก ส่วนคดีหลังร้องขัดทรัพย์เฉพาะเตียงโต๊ะเก้าอี้ และเครื่องที่นอน แม้ศาลจะร่วมพิจารณาพิพากษาและผู้ร้องฎีการวมกันมา ก็ต้องถือทุนทรัพย์แต่ละคดีเป็นเกณฑ์พิจารณาในการใช้สิทธิฎีกา เมื่อคดีหลังเป็นคดีมีทุนทรัพย์ไม่เกินห้าพันบาท และศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ย่อมต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง แม้ศาลชั้นต้นจะสั่งรับฎีกามา ศาลฎีกาก็ไม่วินิจฉัยให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 257-258/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายทอดตลาดโดยนายอำเภอเพื่อชำระภาษีอากรชอบด้วยกฎหมาย แม้มีคำสั่งห้ามชั่วคราวคุ้มครองสิทธิเจ้าหนี้ก่อน
คำสั่งห้ามชั่วคราวของศาลมิให้ทำนิติกรรมใด ๆ เกี่ยวกับตึกของจำเลยนั้นเป็นวิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษาเพื่อคุ้มครองป้องกันผลประโยชน์ของเจ้าหนี้ให้ได้รับผลตามคำพิพากษาโดยบริบูรณ์ที่สุดเท่าที่จะทำได้ มิใช่เป็นส่วนหนึ่งของการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง
คำสั่งห้ามชั่วคราวดังกล่าวแล้วมีผลเพียงห้ามจำเลยมิให้ทำนิติกรรมใด ๆเกี่ยวกับตึกของจำเลย การที่ศาลแจ้งคำสั่งให้นายอำเภอทราบก็เพื่อมิให้รับจดทะเบียนนิติกรรมใด ๆ ที่จำเลยจะลักลอบกระทำโดยไม่สุจริต มิได้หมายความว่า เป็นการห้ามยึดหรืออายัดตามบทบัญญัติว่าด้วยการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งหรือกฎหมายอื่นเสียเลย
ตามประมวลรัษฎากรมาตรา 12 นายอำเภอมีอำนาจยึดและขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้ต้องรับผิดเสียภาษีอากรเพื่อชำระค่าภาษีอากรค้างได้โดยไม่จำเป็นต้องฟ้องร้อง แม้ศาลจะมีคำสั่งห้ามชั่วคราวมิให้ทำนิติกรรมใด ๆ เกี่ยวกับตึกของจำเลย และแจ้งคำสั่งให้นายอำเภอทราบแล้ว แต่เมื่อจำเลยค้างชำระค่าภาษีอากร นายอำเภอก็มีอำนาจยึดตึกของจำเลยมาขายทอดตลาดชำระค่าภาษีอากรค้างนั้นได้โดยชอบด้วยกฎหมาย
ผู้ร้องเป็นผู้ซื้อตึกของจำเลยได้จากการขายทอดตลาดของนายอำเภอและได้ชำระราคาครบถ้วนแล้ว การขายทอดตลาดบริบูรณ์ชอบด้วยกฎหมายแล้วนายอำเภอจะสั่งเพิกถอนการขายทอดตลาดมิได้ แม้อำเภอจะยังมิได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ตึกให้แก่ผู้ร้อง ผู้ร้องก็อยู่ในฐานะจดทะเบียนสิทธิได้ก่อนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1300 เมื่อการขายทอดตลาดตึกได้กระทำก่อนโจทก์จะบังคับคดี โจทก์จะบังคับคดีเอาแก่ตึกดังกล่าวให้เป็นการกระทบถึงสิทธิของผู้ร้องซึ่งอาจบังคับเหนือตึกนั้นหาได้ไม่
ผู้ร้องคนเดียวยื่นคำร้องขัดทรัพย์แยกกันเป็น 2 คดี คดีแรกร้องขัดทรัพย์เฉพาะตึก ส่วนคดีหลังร้องขัดทรัพย์เฉพาะเตียงโต๊ะเก้าอี้และเครื่องที่นอนแม้ศาลจะร่วมพิจารณาพิพากษาและผู้ร้องฎีการวมกันมา ก็ต้องถือทุนทรัพย์แต่ละคดีเป็นเกณฑ์พิจารณาในการใช้สิทธิฎีกา เมื่อคดีหลังเป็นคดีมีทุนทรัพย์ไม่เกินห้าพันบาท และศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ย่อมต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง แม้ศาลชั้นต้นจะสั่งรับฎีกามา ศาลฎีกาก็ไม่วินิจฉัยให้
คำสั่งห้ามชั่วคราวดังกล่าวแล้วมีผลเพียงห้ามจำเลยมิให้ทำนิติกรรมใด ๆเกี่ยวกับตึกของจำเลย การที่ศาลแจ้งคำสั่งให้นายอำเภอทราบก็เพื่อมิให้รับจดทะเบียนนิติกรรมใด ๆ ที่จำเลยจะลักลอบกระทำโดยไม่สุจริต มิได้หมายความว่า เป็นการห้ามยึดหรืออายัดตามบทบัญญัติว่าด้วยการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งหรือกฎหมายอื่นเสียเลย
ตามประมวลรัษฎากรมาตรา 12 นายอำเภอมีอำนาจยึดและขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้ต้องรับผิดเสียภาษีอากรเพื่อชำระค่าภาษีอากรค้างได้โดยไม่จำเป็นต้องฟ้องร้อง แม้ศาลจะมีคำสั่งห้ามชั่วคราวมิให้ทำนิติกรรมใด ๆ เกี่ยวกับตึกของจำเลย และแจ้งคำสั่งให้นายอำเภอทราบแล้ว แต่เมื่อจำเลยค้างชำระค่าภาษีอากร นายอำเภอก็มีอำนาจยึดตึกของจำเลยมาขายทอดตลาดชำระค่าภาษีอากรค้างนั้นได้โดยชอบด้วยกฎหมาย
ผู้ร้องเป็นผู้ซื้อตึกของจำเลยได้จากการขายทอดตลาดของนายอำเภอและได้ชำระราคาครบถ้วนแล้ว การขายทอดตลาดบริบูรณ์ชอบด้วยกฎหมายแล้วนายอำเภอจะสั่งเพิกถอนการขายทอดตลาดมิได้ แม้อำเภอจะยังมิได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ตึกให้แก่ผู้ร้อง ผู้ร้องก็อยู่ในฐานะจดทะเบียนสิทธิได้ก่อนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1300 เมื่อการขายทอดตลาดตึกได้กระทำก่อนโจทก์จะบังคับคดี โจทก์จะบังคับคดีเอาแก่ตึกดังกล่าวให้เป็นการกระทบถึงสิทธิของผู้ร้องซึ่งอาจบังคับเหนือตึกนั้นหาได้ไม่
ผู้ร้องคนเดียวยื่นคำร้องขัดทรัพย์แยกกันเป็น 2 คดี คดีแรกร้องขัดทรัพย์เฉพาะตึก ส่วนคดีหลังร้องขัดทรัพย์เฉพาะเตียงโต๊ะเก้าอี้และเครื่องที่นอนแม้ศาลจะร่วมพิจารณาพิพากษาและผู้ร้องฎีการวมกันมา ก็ต้องถือทุนทรัพย์แต่ละคดีเป็นเกณฑ์พิจารณาในการใช้สิทธิฎีกา เมื่อคดีหลังเป็นคดีมีทุนทรัพย์ไม่เกินห้าพันบาท และศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ย่อมต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง แม้ศาลชั้นต้นจะสั่งรับฎีกามา ศาลฎีกาก็ไม่วินิจฉัยให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 161/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายไม่สมบูรณ์หากไม่ทำสัญญาภายในกำหนด แม้มีการวางมัดจำแล้ว
โจทก์ตกลงจะซื้อที่ดินพร้อมตึกแถวจากจำเลยด้วยเงินผ่อน ได้วางเงินมัดจำไว้แล้วแต่มีข้อตกลงกันว่า จะทำหนังสือสัญญาจะซื้อขายกันอีกฉบับหนึ่ง เพื่อกำหนดการชำระเงินการแบ่งแยกโฉนดและการโอนกรรมสิทธิ์ หากโจทก์ไม่ทำสัญญาภายในกำหนด 1 เดือน ถือว่าโจทก์ไม่ซื้อ ยอมให้จำเลยริบเงินมัดจำได้ ดังนี้ หากโจทก์ไม่ยอมทำหนังสือสัญญาจะซื้อขายตามที่ตกลงกันไว้ ย่อมถือว่ายังมิได้มีสัญญาต่อกัน โจทก์จะหาว่าจำเลยผิดสัญญาและเรียกร้องให้จำเลยขายที่ดินพร้อมตึกแถวให้โจทก์หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 161/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายไม่สมบูรณ์หากไม่ทำสัญญาหลัก การวางมัดจำยังไม่ผูกพัน
โจทก์ตกลงจะซื้อที่ดินพร้อมตึกแถวจากจำเลยด้วยเงินผ่อน. ได้วางเงินมัดจำไว้แล้ว.แต่มีข้อตกลงกันว่า จะทำหนังสือสัญญาจะซื้อขายกันอีกฉบับหนึ่ง เพื่อกำหนดการชำระเงินการแบ่งแยกโฉนดและการโอนกรรมสิทธิ์. หากโจทก์ไม่ทำสัญญาภายในกำหนด 1 เดือน ถือว่าโจทก์ไม่ซื้อ. ยอมให้จำเลยริบเงินมัดจำได้. ดังนี้ หากโจทก์ไม่ยอมทำหนังสือสัญญาจะซื้อขายตามที่ตกลงกันไว้. ย่อมถือว่ายังมิได้มีสัญญาต่อกัน. โจทก์จะหาว่าจำเลยผิดสัญญาและเรียกร้องให้จำเลยขายที่ดินพร้อมตึกแถวให้โจทก์หาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 161/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายไม่สมบูรณ์หากไม่ทำสัญญาหลัก การวางมัดจำยังไม่ผูกพัน
โจทก์ตกลงจะซื้อที่ดินพร้อมตึกแถวจากจำเลยด้วยเงินผ่อนได้วางเงินมัดจำไว้แล้วแต่มีข้อตกลงกันว่า จะทำหนังสือสัญญาจะซื้อขายกันอีกฉบับหนึ่ง เพื่อกำหนดการชำระเงินการแบ่งแยกโฉนดและการโอนกรรมสิทธิ์ หากโจทก์ไม่ทำสัญญาภายในกำหนด 1 เดือน ถือว่าโจทก์ไม่ซื้อ ยอมให้จำเลยริบเงินมัดจำได้ ดังนี้ หากโจทก์ไม่ยอมทำหนังสือสัญญาจะซื้อขายตามที่ตกลงกันไว้ ย่อมถือว่ายังมิได้มีสัญญาต่อกัน โจทก์จะหาว่าจำเลยผิดสัญญาและเรียกร้องให้จำเลยขายที่ดินพร้อมตึกแถวให้โจทก์หาได้ไม่