พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,139 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 394/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายที่ดินโดยไม่ได้จดทะเบียน: โมฆะ และไม่อาจบังคับให้ส่งมอบได้
จำเลยขายที่ดินมือเปล่าให้แก่โจทก์ทำหนังสือสัญญากันเองทั้งสองฝ่ายมิได้มีเจตนาที่จะไปจดทะเบียนการโอนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่โจทก์ชำระเงินให้แก่จำเลยครบถ้วนแล้วแต่จำเลยไม่ปฏิบัติตามสัญญาและขัดขวางไม่ให้โจทก์เข้าทำประโยชน์ในที่พิพาทดังนี้สัญญาซื้อขายระหว่างโจทก์จำเลยเป็นสัญญาซื้อขายเด็ดขาดเมื่อไม่ได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่จึงเป็นโมฆะจำเลยยังไม่ได้ส่งมอบที่ดินให้โจทก์โจทก์ฟ้องบังคับให้จำเลยส่งมอบที่ดินและขับไล่จำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 394/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายที่ดินไม่จดทะเบียน: โมฆะและไม่อาจบังคับได้
จำเลยขายที่ดินมือเปล่าให้แก่โจทก์ ทำหนังสือสัญญากันเอง ทั้งสองฝ่ายมิได้มีเจตนาที่จะไปจดทะเบียนการโอนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ โจทก์ชำระเงินให้แก่จำเลยครบถ้วนแล้วแต่จำเลยไม่ปฏิบัติตามสัญญา และขัดขวางไม่ให้โจทก์เข้าทำประโยชน์ในที่พิพาท ดังนี้สัญญาซื้อขายระหว่างโจทก์จำเลยเป็นสัญญาซื้อขายเด็ดขาด เมื่อไม่ได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่จึงเป็นโมฆะ จำเลยยังไม่ได้ส่งมอบที่ดินให้โจทก์ โจทก์ฟ้องบังคับให้จำเลยส่งมอบที่ดินและขับไล่จำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 379-380/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนการโอนทรัพย์โดยสมยอมเพื่อหลีกเลี่ยงเจ้าหนี้ แม้ศาลพิพากษาตามยอมแล้ว ก็ยังเพิกถอนได้
การโอนขายทรัพย์โดยสมยอมกันอันเป็นทางให้เจ้าหนี้ต้องเสียเปรียบนั้น แม้ศาลจะได้พิพากษาตามยอมให้ลูกหนี้โอนทรัพย์แก่บุคคลอื่นแล้วก็ตาม เจ้าหนี้ก็มีสิทธิขอให้ศาลเพิกถอนการโอนโดยไม่สุจริตนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 184/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำบังคับคดีหลังคำพิพากษาตามยอม ศาลมีหน้าที่ออกคำบังคับหากยังมิได้ทำ
คำบังคับเป็นหน้าที่ของศาลเมื่อศาลได้พิพากษาหรือมีคำสั่งอย่างใดซึ่งจะต้องมีการบังคับคดี ศาลต้องมีคำบังคับถ้าศาลมิได้มีคำบังคับไว้ เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาก็ขอให้ศาลมีคำบังคับได้
ศาลได้พิพากษาตามยอมและมีคำสั่งท้ายคำพิพากษาให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอม ไม่ปฏิบัติตามจะถูกยึดทรัพย์ จำขังฯลฯ นั้น ถือว่าได้มีคำบังคับไว้แล้ว ศาลจึงไม่ออกคำบังคับซ้ำให้อีก
ศาลได้พิพากษาตามยอมและมีคำสั่งท้ายคำพิพากษาให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอม ไม่ปฏิบัติตามจะถูกยึดทรัพย์ จำขังฯลฯ นั้น ถือว่าได้มีคำบังคับไว้แล้ว ศาลจึงไม่ออกคำบังคับซ้ำให้อีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 184/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำบังคับคดีหลังมีคำพิพากษาตามยอม ศาลไม่จำเป็นต้องออกคำบังคับซ้ำหากคำพิพากษาได้ระบุผลของการไม่ปฏิบัติตาม
คำบังคับเป็นหน้าที่ของศาล เมื่อศาลได้พิพากษาหรือมีคำสั่งอย่างใดซึ่งจะต้องมีการบังคับคดี ศาลต้องมีคำบังคับ ถ้าศาลมิได้มีคำบังคับไว้ เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาก็ขอให้ศาลมีคำบังคับได้
ศาลได้พิพากษาตามยอมและมีคำสั่งท้ายคำพิพากษาให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมไม่ปฏิบัติตามจะถูกยึดทรัพย์ จำขัง ฯลฯ นั้น ถือว่าได้มีคำบังคับไว้แล้ว ศาลจึงไม่ออกคำบังคับซ้ำให้อีก
ศาลได้พิพากษาตามยอมและมีคำสั่งท้ายคำพิพากษาให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมไม่ปฏิบัติตามจะถูกยึดทรัพย์ จำขัง ฯลฯ นั้น ถือว่าได้มีคำบังคับไว้แล้ว ศาลจึงไม่ออกคำบังคับซ้ำให้อีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1138/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนที่ดินโดยลูกหนี้รู้ว่าทำให้เจ้าหนี้เสียเปรียบ ผู้รับโอนต้องรับผิดชอบ
ทำสัญญาจะขายที่ดินให้ผู้ซื้อคนแรก โดยส่งมอบที่ดินให้เขาครอบครองและได้รับเงินค่าที่ดินไปแล้ว กลับเอาที่ดินนั้นไปจดทะเบียนโอนขายให้คนอื่นโดยผู้รับโดยได้รู้ถึงคามจริงเป็นทางให้ผู้ซื้อคนแรกซึ่งเป็นเจ้าหนี้ต้องเสียเปรียบแล้ว ผู้ซื้อคนแรกก็มีสิทธิขอให้ศาลเพิกถอนการจดทะเบียนโอนที่พิพาทนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1138/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนที่ดินโดยรู้ว่าเจ้าหนี้จะเสียเปรียบ เจ้าหนี้มีสิทธิขอเพิกถอนการจดทะเบียนได้
ทำสัญญาจะขายที่ดินให้ผู้ซื้อคนแรก โดยส่งมอบที่ดินให้เขาครอบครองและได้รับเงินค่าที่ดินไปแล้ว กลับเอาที่ดินนั้นไปจดทะเบียนโอนขายให้คนอื่น โดยผู้รับโอนได้รู้ถึงความจริงอันเป็นทางให้ผู้ซื้อคนแรกซึ่งเป็นเจ้าหนี้ต้องเสียเปรียบแล้ว ผู้ซื้อคนแรกก็มีสิทธิขอให้ศาลเพิกถอนการจดทะเบียนโอนที่พิพาทนั้นได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 237
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 134/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายและผลของการชำระเงินมัดจำ แม้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ
โจทก์จำเลยตกลงซื้อขายกระบือ 3 ตัว ราคา 6,000 บาท โจทก์ชำระเงินค่ากระบือให้แก่จำเลยแล้ว จำเลยรับว่าจะส่งกระบือทั้ง 3 ตัวให้แก่โจทก์ แต่แล้วจำเลยไม่นำกระบือไปให้โจทก์ตามที่ตกลงกัน ข้อตกลงเช่นนี้เข้าลักษณะสัญญาจะซื้อขาย เมื่อโจทก์ชำระเงินค่ากระบือให้แก่จำเลย ถือได้ว่ามีการชำระหนี้แล้ว โจทก์จึงฟ้องร้องบังคับคดีได้โดยไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 134/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายและการชำระหนี้โดยไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ
โจทก์จำเลยตกลงซื้อขายกระบือ 3 ตัว ราคา 6,300 บาท โจทก์ชำระเงินค่ากระบือให้แก่จำเลยแล้ว จำเลยรับว่าจะส่งกระบือทั้ง 3 ตัวให้แก่โจทก์แต่แล้วจำเลยไม่นำกระบือไปให้โจทก์ตามที่ตกลงกันข้อตกลงเช่นนี้เข้าลักษณะสัญญาจะซื้อขาย เมื่อโจทก์ชำระเงินค่ากระบือให้แก่จำเลย ถือได้ว่ามีการชำระหนี้แล้วโจทก์จึงฟ้องร้องบังคับคดีได้โดยไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1805-1806/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเชิดตัวแทนก่อหนี้: ผู้รับเหมาต้องรับผิดชอบหนี้ที่ตัวแทนซื้อเชื่อ
การที่จำเลยที่ 1 เป็นผู้ทำสัญญารับเหมาก่อสร้างสถานที่แห่งหนึ่ง แม้จะจ้างเหมาให้จำเลยที่ 2 สร้างอีกต่อหนึ่งก็ตาม แต่ระหว่างก่อสร้างได้ปักป้ายว่าตนเป็นเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างและบางครั้งก็ไปตรวจงานเองหรือมอบให้คนอื่น ไปตรวจแทน การส่งมอบงานและรับเงินแต่ละงวดจำเลยที่ 1 ก็ทำเองโดยตรงเช่นนี้ ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 ได้เชิดจำเลยที่ 2 ออกแสดงเป็นตัวแทนแล้ว จึงต้องรับผิดในหนี้ที่จำเลยที่ 2 ไปซื้อเชื่อวัสดุก่อสร้างต่อบุคคลภายนอกด้วย
สัญญาซื้อขายสังหาริมทรัพย์เป็นเงินเกินกว่าห้าร้อยบาท เมื่อผู้ซื้อได้รับของไปแล้ว ย่อมฟ้องร้องบังคับคดีกันได้โดยไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ ฉะนั้น การตั้งตัวแทนก็ไม่จำต้องทำเป็นหนังสือเช่นกัน
สัญญาซื้อขายสังหาริมทรัพย์เป็นเงินเกินกว่าห้าร้อยบาท เมื่อผู้ซื้อได้รับของไปแล้ว ย่อมฟ้องร้องบังคับคดีกันได้โดยไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ ฉะนั้น การตั้งตัวแทนก็ไม่จำต้องทำเป็นหนังสือเช่นกัน