พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,139 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1129/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตกลงเลิกสัญญาซื้อขายที่ดินด้วยวาจา: สมบูรณ์ตามกฎหมาย
การตกลงเลิกสัญญาซื้อขายที่ดิน และคืนเงินมัดจำกันนั้น ไม่ใช่เป็นการปลดหนี้ตามความหมายในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์และไม่มีกฎหมายบัญญัติให้ทำเป็นหนังสือ ฉะนั้น เพียงแต่มีการแสดงเจตนาต่อกัน ก็ย่อมสมบูรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1129/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตกลงเลิกสัญญาซื้อขายที่ดินและการคืนเงินมัดจำ: สมบูรณ์ด้วยเจตนา
การตกลงเลิกสัญญาจะซื้อขายที่ดิน และคืนเงินมัดจำกันนั้นไม่ใช่เป็นการปลดหนี้ตามความหมายในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และไม่มีกฎหมายบัญญัติให้ทำเป็นหนังสือ ฉะนั้นเพียงแต่มีการแสดงเจตนาต่อกัน ก็ย่อมสมบูรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 404/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินยังไม่สมบูรณ์หากยังไม่ได้จดทะเบียน แม้จะชำระราคาและครอบครองแล้ว เจ้าหนี้มีสิทธิยึดได้
การซื้อขายที่ดินมีโฉนดแม้ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ซื้อจะชำระราคาเรียบร้อยแล้วและได้ยึดถือโฉนดครอบครองถือเอาประโยชน์จากที่ดินนั้นตลอดมาก็ตาม ถ้ายังไม่ได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ การซื้อขายย่อมยังไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย ฉะนั้น โจทก์ในฐานะเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยซึ่งเป็นผู้ขายย่อมมีสิทธิยึดที่ดินนั้นชำระหนี้ได้
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 12/2504
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 12/2504
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 404/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินยังไม่สมบูรณ์หากยังไม่ได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ แม้ผู้ซื้อจะชำระราคาและครอบครองแล้ว เจ้าหนี้ยังคงมีสิทธิยึดได้
การซื้อขายที่ดินมีโฉนดแม้ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ซื้อจะชำระราคาเรียบร้อยแล้วและได้ยึดถือโฉนดครอบครองถือเอาประโยชน์จากที่ดินนั้นตลอดมาก็ตาม ถ้ายังไม่ได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ การซื้อขายย่อมยังไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย ฉะนั้น โจทก์ในฐานะเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยซึ่งเป็นผู้ขายย่อมมีสิทธิยึดที่ดินนั้นชำระหนี้ได้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่12/2504)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1657/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกให้ที่ดินมีโฉนดต้องจดทะเบียนตามกฎหมายจึงสมบูรณ์ การครอบครองยังไม่ทำให้ได้กรรมสิทธิ์
การทำหนังสือยกให้ที่ดินมีโฉนดโดยมิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ สัญญายกให้นั้นย่อมไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย
คำว่า "ทรัพย์สิน" ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 523 หมายถึงเฉพาะสังหาริมทรัพย์ ทั่ว ๆ ไปเท่านั้น มิได้หมายถึงอสังหาริมทรัพย์ หรืออสังหาริมทรัพย์บางชนิดซึ่งถ้าจะซื้อขายต้องทำเป็นหนังสือ และจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 456 วรรค 1 ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์หรือสังหาริมทรัพย์บางชนิดซึ่งถ้าจะซื้อขายต้องทำเป็นหนังสือ และจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 456 วรรค 1 ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์หรือสังหาริมทรัพย์ดังระบุไว้ตาม มาตรา 456 วรรค 1 แล้ว การให้ต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงจะสมบูรณ์
คำสั่งของศาลชั้นต้นอันเป็นการวินิจฉัยในประเด็นแห่งคดี มิใช่เป็นการวินิจฉัยว่าฟ้องไม่ชอบหรือไม่ถูกต้องแล้วในลักษณะอันแท้จริงจึงเป็นยกฟ้อง หาใช่ไม่รับฟ้องไม่
คำว่า "ทรัพย์สิน" ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 523 หมายถึงเฉพาะสังหาริมทรัพย์ ทั่ว ๆ ไปเท่านั้น มิได้หมายถึงอสังหาริมทรัพย์ หรืออสังหาริมทรัพย์บางชนิดซึ่งถ้าจะซื้อขายต้องทำเป็นหนังสือ และจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 456 วรรค 1 ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์หรือสังหาริมทรัพย์บางชนิดซึ่งถ้าจะซื้อขายต้องทำเป็นหนังสือ และจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 456 วรรค 1 ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์หรือสังหาริมทรัพย์ดังระบุไว้ตาม มาตรา 456 วรรค 1 แล้ว การให้ต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงจะสมบูรณ์
คำสั่งของศาลชั้นต้นอันเป็นการวินิจฉัยในประเด็นแห่งคดี มิใช่เป็นการวินิจฉัยว่าฟ้องไม่ชอบหรือไม่ถูกต้องแล้วในลักษณะอันแท้จริงจึงเป็นยกฟ้อง หาใช่ไม่รับฟ้องไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1657/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกให้ที่ดินต้องจดทะเบียนตามกฎหมาย จึงจะสมบูรณ์ การฟ้องบังคับตามสัญญาที่ไม่สมบูรณ์ทำไม่ได้
การทำหนังสือยกให้ที่ดินมีโฉนดโดยมิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ สัญญายกให้นั้นย่อมไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย
คำว่า "ทรัพย์สิน" ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 523 หมายถึงเฉพาะสังหาริมทรัพย์ทั่วๆไปเท่านั้น มิได้หมายถึงอสังหาริมทรัพย์หรือสังหาริมทรัพย์บางชนิดซึ่งถ้าจะซื้อขายต้องทำเป็นหนังสือ และจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 456 วรรคหนึ่ง ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์หรือสังหาริมทรัพย์ดังระบุไว้ตามมาตรา 456 วรรคหนึ่งแล้ว การให้ต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงจะสมบูรณ์
คำสั่งของศาลชั้นต้นอันเป็นการวินิจฉัยในประเด็นแห่งคดีมิใช่เป็นการวินิจฉัยว่า ฟ้องไม่ชอบหรือไม่ถูกต้องแล้ว ในลักษณะอันแท้จริงจึงเป็นการยกฟ้อง หาใช่ไม่รับฟ้องไม่
คำว่า "ทรัพย์สิน" ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 523 หมายถึงเฉพาะสังหาริมทรัพย์ทั่วๆไปเท่านั้น มิได้หมายถึงอสังหาริมทรัพย์หรือสังหาริมทรัพย์บางชนิดซึ่งถ้าจะซื้อขายต้องทำเป็นหนังสือ และจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 456 วรรคหนึ่ง ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์หรือสังหาริมทรัพย์ดังระบุไว้ตามมาตรา 456 วรรคหนึ่งแล้ว การให้ต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงจะสมบูรณ์
คำสั่งของศาลชั้นต้นอันเป็นการวินิจฉัยในประเด็นแห่งคดีมิใช่เป็นการวินิจฉัยว่า ฟ้องไม่ชอบหรือไม่ถูกต้องแล้ว ในลักษณะอันแท้จริงจึงเป็นการยกฟ้อง หาใช่ไม่รับฟ้องไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1394/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงข้ออ้างเรื่องสถานะทางกฎหมายของเรือน (อสังหาริมทรัพย์/สังหาริมทรัพย์) และขอบเขตการสืบพยานที่ต้องเป็นไปตามประเด็นที่ตั้งไว้
ผู้ร้องขัดทรัพย์ยื่นคำร้องขัดทรัพย์ว่า ได้ซื้อเรือนที่โจทก์นำยึดโดยทำสัญญาซื้อขายเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อเจ้าพนักงานแล้ว ขอให้ถอนการยึด แต่จะขอสืบพยานว่าขัดข้องในการจดทะเบียน เพราะเจ้าของที่ดินไม่ยอม จึงได้จัดการที่จะรื้อถอนไปซึ่งเป็นการซื้อสังหาริมทรัพย์เพียงแต่ทำสัญญาซื้อขายเป็นหนังสือก็ใช้ได้เช่นนี้ หาได้ไม่ เพราะเป็นการขอสืบพยานผิดไปจากที่ตั้งประเด็นวิวาทไว้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1394/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายเรือน (อสังหาริมทรัพย์) ต้องทำตามฟอร์มและจดทะเบียน หากเปลี่ยนข้ออ้างระหว่างดำเนินคดี ถือเป็นการนอกประเด็น
ผู้ร้องขัดทรัพย์ยื่นคำร้องขัดทรัพย์ว่า ได้ซื้อเรือนที่โจทก์นำยึดโดยทำสัญญาซื้อขายเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อเจ้าพนักงานแล้ว ขอให้ถอนการยึด แต่จะขอสืบพยานว่า ขัดข้องในการจดทะเบียน เพราะเจ้าของที่ดินไม่ยอม จึงได้จัดการที่จะรื้อถอนไป ซึ่งเป็นการซื้ออสังหาริมทรัพย์เพียงแต่ทำสัญญาซื้อขายเป็นหนังสือก็ใช้ได้เช่นนี้ หาได้ไม่ เพราะเป็นการขอสืบพยานผิดไปจากที่ตั้งประเด็นวิวาทไว้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1360/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายสินบริคณห์โดยความยินยอมของสามี: สัญญาไม่จำเป็นต้องทำเป็นหนังสือ
การที่ภริยาทำสัญญาจะขายที่ดินมีโฉนดอันเป็นสินบริคณห์ให้โจทก์โดยภริยาได้รับเงินราคาที่ดินบางส่วนแล้วและโดยสามีรู้เห็นยินยอมแล้วนั้น เป็นกรณีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 456 วรรคสอง ซึ่งไม่ต้องทำสัญญาเป็นหนังสือก็ใช้ได้ ฉะนั้นความยินยอมของสามีจึงไม่ต้องทำเป็นหนังสือตามมาตรา 1476 โจทก์ฟ้องขอให้บังคับภริยาโอนขายที่ดินให้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1360/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความยินยอมสามีขายสินบริคณห์: ไม่ต้องทำหนังสือหากได้รับเงินค่าขายแล้ว
การที่ภริยาทำสัญญาจะขายที่ดินมีโฉนดอันเป็นสินบริคณห์ให้โจทก์ โดยภริยาได้รับเงินราคาที่ดินบางส่วนแล้ว และโดยสามีรู้เห็นยินยอมแล้วนั้น เป็นกรณีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 456 วรรค 2 ซึ่งไม่ต้องทำสัญญาเป็นหนังสือก็ใช้ได้ ฉะนั้น ความยินยอมของสามีจึงไม่ต้องทำเป็นหนังสือตามมาตรา 1476 โจทก์ฟ้องขอให้บังคับภริยาโอนขายที่ดินได้