คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 456

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,139 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 479/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะซื้อขายไม่ตัดสิทธิเช่าเดิม โจทก์ฟ้องขับไล่ไม่ได้
การที่จำเลยทำสัญญาจะซื้อที่พิพาทซึ่งจำเลยเช่าอยู่นั้น ไม่ได้แสดงหรือสันนิษฐานว่าจำเลยได้ตกลงเลิกการเช่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 479/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะซื้อขายไม่ทำให้สัญญาเช่าสิ้นสุด จำเป็นต้องมีข้อตกลงยกเลิกสัญญาเช่าโดยชัดแจ้ง
การที่จำเลยทำสัญญาจะซื้อที่พิพาทซึ่งจำเลยเช่าอยู่นั้นไม่ได้แสดงหรือสันนิษฐานว่าจำเลยได้ตกลงเลิกการเช่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 360/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะซื้อขายและผลของการเข้าครอบครองที่ดินเฉพาะส่วน ศาลมีอำนาจพิพากษาให้โอนกรรมสิทธิ์ได้
สัญญามีข้อความว่า ผู้ขาย (จำเลย) สัญญาว่าจะส่งมอบทรัพย์ที่ขายนี้ให้แก่ผู้ซื้อ(โจทก์)ซึ่งผู้ขายได้รับราคาทรัพย์ที่ขายไปครบถ้วนแล้วซึ่งหมายความว่า ขณะทำสัญญายังหาได้มอบทรัพย์ที่ขายกันไม่เพราะต้องทำการโอนให้ถูกต้องตามกฎหมายด้วยและตามฟ้องของโจทก์ก็ว่าการซื้อขายนี้ได้ทำสัญญากันว่าเมื่อโจทก์(ผู้ซื้อ)ประสงค์จะให้จำเลย(ผู้ขาย)โอนกรรมสิทธิ์เมื่อใด จำเลย(ผู้ขาย)จะทำการโอนทันทีจำเลยไม่ได้ปฏิเสธหรือกล่าวแก้อย่างใดถือว่าจำเลยรับตามฟ้องดังนี้ สัญญาดังกล่าวจึงถือว่าเป็นสัญญาจะซื้อขาย
ฟ้องกล่าวว่า โจทก์ได้เข้าครอบครองที่ดินที่จำเลยขายให้เป็นส่วนสัดแล้ว ศาลย่อมพิพากษาให้จำเลยโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินเฉพาะส่วนของจำเลยให้โจทก์ได้เพราะผู้ที่มีกรรมสิทธิ์ร่วมกับจำเลยไม่ได้เข้ามาโต้แย้งอย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 360/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะซื้อขายที่ดิน & การโอนกรรมสิทธิ์เฉพาะส่วน – ศาลมีอำนาจพิพากษาได้หากไม่มีผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโต้แย้ง
สัญญามีข้อความว่า ผู้ขาย (จำเลย) สัญญาว่าจะส่งมอบทรัพย์ที่ขายนี้ให้แก่ผู้ซื้อ (โจทก์) ซึ่งผู้ขายได้รับราคาทรัพย์ที่ขายไปครบถ้วนแล้ว ซึ่งหมายความว่า ขณะทำสัญญายังหาได้มอบทรัพย์ที่ขายกันไม่ เพราะต้องทำการโอนให้ถูกต้องตามกฎหมายด้วยและตามฟ้องของโจทก์ก็ว่า การซื้อขายนี้ได้ทำสัญญากันว่า เมื่อโจทก์ (ผู้ซื้อ) ประสงค์จะให้จำเลย (ผู้ขาย) โอนกรรมสิทธิ์เมื่อใดจำเลย (ผู้ขาย) จะทำการโอนทันที จำเลยไม่ได้ปฏิเสธหรือกล่าวแก้อย่างใด ถือว่าจำเลยรับตามฟ้อง ดังนี้ สัญญาดังกล่าวจึงถือว่า เป็นสัญญาจะซื้อขาย
ฟ้องกล่าวว่า โจทก์ได้เข้าครอบครองที่ดินที่จำเลยขายให้เป็นส่วนสัดแล้ว ศาลย่อมพิพากษาให้จำเลยโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน เฉพาะส่วนของจำเลยให้โจทก์ได้ เพราะผู้ที่มีกรรมสิทธิ์รวมกับจำเลยไม่ได้เข้ามาโต้แย้งอย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 238/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายสุกรและการมอบหมายให้ขายแทน ไม่ใช่การซื้อเชื่อ แม้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือก็ฟ้องบังคับได้
การที่โจทก์จำเลยตกลงกันว่า จำเลยรับสุกรโจทก์ไป 40 ตัว ไปขาย จำเลยคิดราคาให้โจทก์กิโลกรัมละ 4 บาท 20 สตางค์ ส่วนราคาที่จะขายได้เกินกว่านั้น และน้ำหนักจะเพิ่มขึ้นจากเวลาที่รับจากโจทก์ตกเป็นของจำเลย เงินโจทก์จะติดตามไปรับหรือจำเลยจะมอบฉันทะให้ตัวแทนโจทก์ไปรับ เช่นนี้ไม่ใช่เรื่องที่จำเลยซื้อเชื่อสุกรไปจากโจทก์ แต่เป็นเรื่องที่จำเลยรับสุกรไปขายแทนโจทก์ และหากจะฟังว่าเป็นเรื่องซื้อขาย โจทก์ก็ได้มอบสุกรให้จำเลยไปเป็นการชำระหนี้บางส่วนแล้ว แม้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ โจทก์ก็ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระค่าสุกรได้
ฎีกาที่ 1434/2495

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 238/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งมอบสุกรไปขายแทนกัน แม้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ก็ฟ้องบังคับได้
การที่โจทก์จำเลยตกลงกันว่าจำเลยรับสุกรโจทก์ไป 40 ตัว ไปขาย จำเลยคิดราคาให้โจทก์กิโลกรัมละ 4 บาท 20สตางค์ส่วนราคาที่จะขายได้เกินกว่านั้น และน้ำหนักจะเพิ่มขึ้นจากเวลาที่รับจากโจทก์ตกเป็นของจำเลยเงินโจทก์จะติดตามไปรับหรือจำเลยจะมอบฉันทะให้ตัวแทนโจทก์ไปรับเช่นนี้ ไม่ใช่เรื่องที่จำเลยซื้อเชื่อสุกรไปจากโจทก์แต่เป็นเรื่องที่จำเลยรับสุกรไปขายแทนโจทก์และหากจะฟังว่าเป็นเรื่องซื้อขายโจทก์ก็ได้มอบสุกรให้จำเลยไปเป็นการชำระหนี้บางส่วนแล้วแม้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ โจทก์ก็ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระค่าสุกรได้(ฎีกาที่ 1434/2495)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 173/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายที่มีเงื่อนไขการชำระเงินตามการเวนคืนที่ดิน การนำสืบพยานนอกเหนือเอกสาร
สัญญาซื้อขายมีข้อความว่าถ้าไม่ถูกตัดถนนต้องนำเงินมาชำระจำนวนหนึ่ง ถ้าถูกตัดถนนไม่ต้องใช้เงินจำนวนนี้โจทก์จะนำพยานบุคคลมาสืบว่ายังมีข้อตกลงในเรื่องการตัดถนนในระยะเวลา1 ปี ด้วย นำสืบไม่ได้ ต้องห้าม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 173/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงเงื่อนไขการซื้อขายที่ดิน: การรับฟังพยานนอกเอกสารและขอบเขตสัญญา
สัญญาซื้อขายมีข้อความว่า ถ้าไม่ถูกตัดถนนต้องนำเงินมาชำระจำนวนหนึ่ง ถ้าถูกตัดถนนไม่ต้องใช้เงินจำนวนนี้ โจทก์จะนำพยานบุคคลมาสืบว่ายังมีข้อตกลงในเรื่องการตัดถนนในระยะเวลา 1 ปีด้วย นำสืบไม่ได้ ต้องห้าม.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1062/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะซื้อขายที่ดินโดยมีค่าตอบแทนเป็นเงินแต่งงาน แม้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือก็มีผลผูกพันได้ หากมีการชำระค่าตอบแทนแล้ว
จำเลยตกลงจะโอนขายที่ดินส่วนของตนให้แก่โจทก์ตอบแทนในการที่โจทก์ออกเงินแต่งงานให้จำเลย แม้ข้อตกลงนี้จะไม่ได้ทำหลักฐานเป็นหนังสือ แต่เมื่อโจทก์ได้ชำระหนี้คือออกเงินแต่งงานให้แก่จำเลยไปตามที่ได้ตกลงกันแล้วย่อมถือว่าจำเลยให้คำมั่นจะขายที่ดินส่วนของจำเลยให้แก่โจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 456 เมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติตามสัญญาโจทก์ย่อมฟ้องร้องขอให้บังคับคดีตามที่จำเลยตกลงไว้นั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1062/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะซื้อขายที่ดินโดยแลกเปลี่ยนกับการออกค่าใช้จ่ายแต่งงาน แม้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือก็มีผลผูกพันได้หากมีการชำระหนี้แล้ว
จำเลยตกลงจะโอนขายที่ดินส่วนของตนให้แก่โจทก์ตอบแทนในการที่โจทก์ออกเงินแต่งงานให้จำเลย แม้ข้อตกลงนี้จะไม่ได้ทำหลักฐานเป็นหนังสือ แต่เมื่อโจทก์ได้ชำระหนี้คือออกเงินแต่งงานให้แก่จำเลยไปตามที่ได้ตกลงกันแล้วย่อมถือว่าจำเลยให้คำมั่นจะขายที่ดินส่วนของจำเลยให้แก่โจทก์ตาม ป.พ.พ.มาตรา 456 เมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติตามสัญญา โจทก์ย่อมฟ้องร้องขอให้บังคับคดีตามที่จำเลยตกลงไว้นั้นได้
of 114