พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,139 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 740/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อที่ดินจากการขายทอดตลาดและครอบครองเกินสิบปี ทำให้ได้กรรมสิทธิ์ตามกฎหมาย
ซื้อที่ดินจากการขายทอดตลาดไว้เอง โดยมีข้อตกลงว่าจะยอมให้ผู้อื่นซื้อไปได้ในเมื่อเอาเงินมาชำระให้ตนนั้น ไม่ใช่เรื่องซื้อที่ดินแทนผู้อื่นในทางเป็นตัวแทน แต่เป็นสัญญาในทางซื้อขาย ฉะนั้นเมื่อได้ครอบครองอย่างเป็นเจ้าของมาเกินสิบปีแล้วแม้ยังไม่ได้โอนโฉนดที่ดินก็ย่อมตกเป็นกรรมสิทธิ์แก่ผู้ซื้อตามมาตรา1382
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 740/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อที่ดินจากการขายทอดตลาดและครอบครองเกิน 10 ปี ทำให้ได้กรรมสิทธิ์ตามกฎหมาย
ซื้อที่ดินจากการขายทอดตลาดไว้เอง โดยมีข้อตกลงว่าจะยอมให้ผู้อื่นซื้อไปได้ในเมื่อเอาเงินมาชำระให้ตนนั้น ไม่ใช่เรื่องซื้อที่ดินแทนผู้อื่นในทางเป็นตัวแทน แต่เป็นสัญญาในทางซื้อขาย ฉะนั้นเมื่อได้ครอบครองอย่างเป็นเจ้าของมาเกินสิบปีแล้วแม้ยังไม่ได้โอนโฉนดที่ดินก็ย่อมตกเป็นกรรมสิทธิแก่ผู้ ซื้อตามมาตรา 1382
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 647/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายยังใช้ได้ แม้การโอนช่วงแรกถูกทำลาย เหตุใบมอบอำนาจสิ้นอายุ ทายาทต้องปฏิบัติตามสัญญา
ผู้ตายได้ทำสัญญาจะขายนาให้โจทก์แต่ได้ตายเสียในระหว่างประกาศขาย ทายาทบางคนได้โอนขายนาพิพาทให้โจทก์ไปโดยถือตามใบมอบอำนาจเดิม ต่อมาโจทก์ถูกทายาทคนอื่นฟ้องทำลายการโอนดังนี้ แม้ศาลจะพิพากษาให้ทำลายการโอนและให้คืนเงินราคานาให้โจทก์โดยอ้างเหตุว่า ใบมอบอำนาจสิ้นอายุ โจทก์ก็ยังฟ้องบังคับทายาทของผู้ตายให้โอนนาพิพาทให้โจทก์ตามสัญญาจะซื้อขายเดิมได้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 521/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องร้องเรียกทรัพย์คืนจากการซื้อขาย และภาระการพิสูจน์การครอบครองเพื่ออ้างกรรมสิทธิ์
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยขายที่ดินมีโฉนดให้ และโจทก์ได้ครอบครองมา 10 ปีกว่าแล้ว ขอให้จำเลยโอนแก้ทะเบียนให้โจทก์ตามสัญญาซื้อขายหรือใไ้ถอนชื่อจำเลยออกใส่ชื่อโจทก์ในโฉนดแทน จำเลยต่อสู้ว่าได้มอบที่ดินให้โจทก์ทำกินต่างดอกเบี้ยเงินกู้ ดังนี้ประเด็นตกเป็นหน้าที่โจทก์นำสืบก่อน เพราะภาระการพิสูจน์ว่า การครอบครองของโจทก์ได้เป็นไปโดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของยังคงตกอยู่แก่โจทก์ ทั้งนี้เพราะการอ้างถึงการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ที่ดินตามมาตรา 1382 สหรับที่ดินที่มีหนังสือสำคัญ แสดงกรรมสิทธิว่าเป็นของผู้อื่นอยู่แล้วนั้น ผู้อ้างจะต้องแสดงหลักฐานให้เป็นที่พอใจต่อศาลจึงจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งแสดงการได้มาซึ่งกรรมสิทธิเพื่อการจดทะเบียนตามบทบัญญัติแห่ง พ.ร.บ.ออกโฉนดที่ดิน (ฉบับที่ 7) 2486 มาตรา 14 และกฎกระทรงมหาดไทยลงวันที่ 1 มกราคม 2486 ข้อ 1
ศาลชั้นต้นสั่งให้จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อน ซึ่งเป็นการไม่ชอบ การที่จำเลยต้องขาดนัดพิจารณาเพราะหน้าที่นำสืบก่อนต้องตกแต่จำเลยโดยไม่ชอบเช่นนี้ เป็นการสมควรให้ได้มีการพิจารณาคดีใหม่ โดยดำเนินกระบวนพิจารณาไม่ชอบ แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปความ
ฟ้องขอให้ศาลบังคับลูกหนี้กระทำการชำระหนี้ตามสัญญาที่ได้ทำกันไว้ อันเป็นการขอให้บังคับตามสิทธิเรียกร้องนั้น จะต้องฟ้องเสียภายในระยะเวลา 10 ปี มิฉะนั้นขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นสั่งให้จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อน ซึ่งเป็นการไม่ชอบ การที่จำเลยต้องขาดนัดพิจารณาเพราะหน้าที่นำสืบก่อนต้องตกแต่จำเลยโดยไม่ชอบเช่นนี้ เป็นการสมควรให้ได้มีการพิจารณาคดีใหม่ โดยดำเนินกระบวนพิจารณาไม่ชอบ แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปความ
ฟ้องขอให้ศาลบังคับลูกหนี้กระทำการชำระหนี้ตามสัญญาที่ได้ทำกันไว้ อันเป็นการขอให้บังคับตามสิทธิเรียกร้องนั้น จะต้องฟ้องเสียภายในระยะเวลา 10 ปี มิฉะนั้นขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 521/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องร้องบังคับตามสัญญาซื้อขาย และภาระการพิสูจน์การครอบครองปรปักษ์ที่ดินที่มีโฉนด
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยขายที่ดินมีโฉนดให้ และโจทก์ได้ครอบครองมา 10 ปีกว่าแล้ว ขอให้จำเลยโอนแก้ทะเบียนให้โจทก์ตามสัญญาซื้อขายหรือให้ถอนชื่อจำเลยออกใส่ชื่อโจทก์ในโฉนดแทน จำเลยต่อสู้ว่าได้มอบที่ดินให้โจทก์ทำกินต่างดอกเบี้ยเงินกู้ดังนี้ ประเด็นตกเป็นหน้าที่โจทก์นำสืบก่อน เพราะภาระการพิสูจน์ว่า การครอบครองของโจทก์ได้เป็นไปโดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของยังคงตกอยู่แก่โจทก์ทั้งนี้เพราะการอ้างถึงการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ที่ดินตามมาตรา 1382 สำหรับที่ดินที่มีหนังสือสำคัญ แสดงกรรมสิทธิ์ว่าเป็นของผู้อื่นอยู่แล้วนั้น ผู้อ้างจะต้องแสดงหลักฐานให้เป็นที่พอใจต่อศาล ศาลจึงจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งแสดงการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์เพื่อการจดทะเบียนตามบทบัญญัติแห่งพ.ร.บ.ออกโฉนดที่ดิน (ฉบับที่ 7)2486มาตรา 14 และกฎกระทรวงมหาดไทยลงวันที่ 1 มกราคม 2486ข้อ 1
ศาลชั้นต้นสั่งให้จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อน ซึ่งเป็นการไม่ชอบ การที่จำเลยต้องขาดนัดพิจารณาเพราะหน้าที่นำสืบก่อนต้องตกแก่จำเลยโดยไม่ชอบเช่นนี้ เป็นการสมควรให้ได้มีการพิจารณาคดีใหม่ โดยดำเนินกระบวนพิจารณาให้ชอบ แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปความ
ฟ้องขอให้ศาลบังคับลูกหนี้กระทำการชำระหนี้ตามสัญญาที่ได้ทำกันไว้อันเป็นการขอให้บังคับตามสิทธิเรียกร้องนั้น จะต้องฟ้องเสียภายในระยะเวลา10 ปี มิฉะนั้นขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นสั่งให้จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อน ซึ่งเป็นการไม่ชอบ การที่จำเลยต้องขาดนัดพิจารณาเพราะหน้าที่นำสืบก่อนต้องตกแก่จำเลยโดยไม่ชอบเช่นนี้ เป็นการสมควรให้ได้มีการพิจารณาคดีใหม่ โดยดำเนินกระบวนพิจารณาให้ชอบ แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปความ
ฟ้องขอให้ศาลบังคับลูกหนี้กระทำการชำระหนี้ตามสัญญาที่ได้ทำกันไว้อันเป็นการขอให้บังคับตามสิทธิเรียกร้องนั้น จะต้องฟ้องเสียภายในระยะเวลา10 ปี มิฉะนั้นขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 462/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายแร่: การตีความสัญญา, เหตุสุดวิสัย, และฐานตัวแทนที่มิได้เปิดเผย
การที่จำเลยทำสัญญาขายแร่ในนามของตนเอง ในสัญญามิได้ระบุว่าทำแทนใคร แม้จะมีตัวการ ๆ ก็ไม่เคยแสดงต่อผู้ซื้อมาก่อนว่าจำเลยทำแทน ดังนี้ จำเลยต้องรับผิดตามสัญญา ตัวการหาอาจทำให้เสื่อมสิทธิของผู้ซื้อที่มีต่อจำเลย ฐานจำเลยผิดสัญญาได้ไม่
เมื่อข้อความในสัญญามิได้ระบุว่า จำเลยทำแทนผู้ใด ที่จำเลยนำสืบว่าทำในฐานะตัวแทน จึงต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 94
ข้อสัญญาที่ว่า ค่าส่งจากสถานีโกดังผู้ซื้อ ผู้ขายต้องเสียเองนั้น หมายถึงว่า ผู้ขายต้องส่งมอบถึงโกดังผู้ซื้อ ไม่หมายเลยไปถึงว่า ผู้ขายจะต้องไปเอาแร่จากที่ใดที่หนึ่งมาส่ง ผู้ขายจึงอ้างเหตุสุดวิสัยว่าไม่สามารถขนส่งแร่จากที่หนึ่งมาแก้ตัวไม่ได้
การซื้อขายแร่แม้ผู้ซื้อขายไม่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติความผิดอยู่ที่ไม่ขออนุญาตกฎหมายมิได้ห้ามการซื้อขายแร่ทั้งสัญญาได้ทำในจังหวัดที่ยังมิได้ประกาศใช้ พ.ร.บ.การทำเหมืองแร่ ฯ 2474 สัญญานั้นไม่เป็นโมฆะ
เมื่อข้อความในสัญญามิได้ระบุว่า จำเลยทำแทนผู้ใด ที่จำเลยนำสืบว่าทำในฐานะตัวแทน จึงต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 94
ข้อสัญญาที่ว่า ค่าส่งจากสถานีโกดังผู้ซื้อ ผู้ขายต้องเสียเองนั้น หมายถึงว่า ผู้ขายต้องส่งมอบถึงโกดังผู้ซื้อ ไม่หมายเลยไปถึงว่า ผู้ขายจะต้องไปเอาแร่จากที่ใดที่หนึ่งมาส่ง ผู้ขายจึงอ้างเหตุสุดวิสัยว่าไม่สามารถขนส่งแร่จากที่หนึ่งมาแก้ตัวไม่ได้
การซื้อขายแร่แม้ผู้ซื้อขายไม่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติความผิดอยู่ที่ไม่ขออนุญาตกฎหมายมิได้ห้ามการซื้อขายแร่ทั้งสัญญาได้ทำในจังหวัดที่ยังมิได้ประกาศใช้ พ.ร.บ.การทำเหมืองแร่ ฯ 2474 สัญญานั้นไม่เป็นโมฆะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 462/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายแร่: การส่งมอบ, ข้อจำกัดการอ้างเหตุสุดวิสัย, และการเปลี่ยนแปลงข้อตกลงในสัญญา
การที่จำเลยทำสัญญาขายแร่ในนามของตนเอง ในสัญญามิได้ระบุว่าทำแทนใคร แม้จะมีตัวการตัวการก็ไม่เคยแสดงต่อผู้ซื้อมาก่อนว่าจำเลยทำแทน ดังนี้จำเลยต้องรับผิดตามสัญญา ตัวการหาอาจทำให้เสื่อมสิทธิของผู้ซื้อที่มีต่อจำเลย ฐานจำเลยผิดสัญญาได้ไม่
เมื่อข้อความในสัญญามิได้ระบุว่า จำเลยทำแทนผู้ใด ที่จำเลยนำสืบว่าทำในฐานะตัวแทน จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 94
ข้อสัญญาที่ว่า ค่าส่งจากสถานีถึงโกดังผู้ซื้อ ผู้ขายต้องเสียเองนั้นหมายถึงว่า ผู้ขายต้องส่งมอบถึงโกดังผู้ซื้อ ไม่หมายเลยไปถึงว่า ผู้ขายจะต้องไปเอาแร่จากที่ใดที่หนึ่งมาส่ง ผู้ขายจึงอ้างเหตุสุดวิสัยว่าไม่สามารถขนส่งแร่จากที่หนึ่งมาแก้ตัวไม่ได้
การซื้อขายแร่แม้ผู้ซื้อขายไม่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติความผิดอยู่ที่ไม่ขออนุญาตกฎหมายมิได้ห้ามการซื้อขายแร่ทั้งสัญญาได้ทำในจังหวัดที่ยังมิได้ประกาศใช้ พระราชบัญญัติการทำเหมืองแร่ฯ 2474 สัญญานั้นไม่เป็นโมฆะ
เมื่อข้อความในสัญญามิได้ระบุว่า จำเลยทำแทนผู้ใด ที่จำเลยนำสืบว่าทำในฐานะตัวแทน จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 94
ข้อสัญญาที่ว่า ค่าส่งจากสถานีถึงโกดังผู้ซื้อ ผู้ขายต้องเสียเองนั้นหมายถึงว่า ผู้ขายต้องส่งมอบถึงโกดังผู้ซื้อ ไม่หมายเลยไปถึงว่า ผู้ขายจะต้องไปเอาแร่จากที่ใดที่หนึ่งมาส่ง ผู้ขายจึงอ้างเหตุสุดวิสัยว่าไม่สามารถขนส่งแร่จากที่หนึ่งมาแก้ตัวไม่ได้
การซื้อขายแร่แม้ผู้ซื้อขายไม่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติความผิดอยู่ที่ไม่ขออนุญาตกฎหมายมิได้ห้ามการซื้อขายแร่ทั้งสัญญาได้ทำในจังหวัดที่ยังมิได้ประกาศใช้ พระราชบัญญัติการทำเหมืองแร่ฯ 2474 สัญญานั้นไม่เป็นโมฆะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 385/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายหรือกู้เงิน: การตีความสัญญาที่มีข้อความคลุมเครือ และสิทธิในการนำสืบพยานเพื่อพิสูจน์เจตนา
สัญญาซึ่งมีข้อความในตอนต้นว่ากู้เงินเอาที่ดินเป็นประกัน และตีราคาที่ดินไว้ด้วย แต่ในตอนท้ายมีว่า ยอมให้ทำนานั้นต่างดอกเบี้ยจนกว่าจะได้ไปทำหนังสือสัญญาซื้อขายทางอำเภอดังนี้ สัญญานั้นอาจเป็นสัญญาจะซื้อขายที่ดิน และน่าจะไม่ใช่กู้เงินกันอย่างแท้จริง
เอกสารสัญญาซึ่งอาจตีความหมายได้เป็น 2 นัยดังกล่าวคู่ความอาจนำสืบประกอบเพื่อตีความหมายได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 94 วรรคท้าย
เอกสารสัญญาซึ่งอาจตีความหมายได้เป็น 2 นัยดังกล่าวคู่ความอาจนำสืบประกอบเพื่อตีความหมายได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 94 วรรคท้าย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 385/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาที่มีข้อความคลุมเครือ ศาลอนุญาตให้สืบพยานเพื่อตีความสัญญาได้
สัญญาซึ่งมีข้อความในตอนต้นว่ากู้เงินเอาที่ดินเป็นประกัน และตีราคาที่ดินไว้ด้วย แต่ในตอนท้ายมีว่า ยอมให้ทำนานั้นต่างดอกเบี้ย จนกว่าจะได้ทำหนังสือสัญญาซื้อขายทางอำเภอดังนี้ สัญญานั้นอาจเป็นสัญญาจะซื้อขายที่ดิน และน่าจะไม่ใช้กู้เงินกันอย่างแท้จริง
เอกสารสัญญาซึ่งอาจตีความหมายได้เป็น 2 นัยดังกล่าว คู่ความอาจนำสืบประกอบเพื่อตีความหมายได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 วรรคท้าย
เอกสารสัญญาซึ่งอาจตีความหมายได้เป็น 2 นัยดังกล่าว คู่ความอาจนำสืบประกอบเพื่อตีความหมายได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 วรรคท้าย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 340/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ทำไม่ถูกแบบและการครอบครองปรปักษ์: โจทก์ฟ้องเรียกคืนที่ดินไม่ได้
ในเอกสารที่ระบุว่าฝ่ายโจทก์ได้กู้เงินเอานาไม่มีโฉนดหนึ่งแปลงยกให้เป็นกรรมสิทธิ์ต่อไป ซึ่งจำเลยได้ครอบครองที่นามานั้นมากว่า 20 ปีแล้ว ดังนี้ เป็นการซื้อขายที่ทำไม่ถูกแบบ โจทก์จะฟ้องเรียกที่นาคืนมิได้