คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 865

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 98 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 68/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปิดเผยข้อเท็จจริงในสัญญาประกันชีวิต และสิทธิบอกล้างสัญญาเมื่อมีข้อมูลเท็จ
หน้าที่เปิดเผยข้อความจริงของผู้เอาประกันภัยมิได้สิ้นสุดลงเพียงในชั้นยื่นคำเสนอขอเอาประกันภัยโดยกรอกคำตอบในแบบคำขอนั้นเท่านั้น แต่ยังคงมีอยู่ตลอดเวลาในระหว่างนั้นเรื่อยไปจนถึงเวลาที่ผู้รับประกันภัยสนองตอบรับจนเกิดเป็นสัญญาขึ้นแล้วระหว่างคู่กรณี ฉะนั้น ในกรณีประกันชีวิต แม้ผู้เอาประกันภัยจะได้กรอกแบบคำขอเอาประกันชีวิตแล้ว โดยเฉพาะในข้อถามที่ 7ว่า ตนไม่เคยเป็นโรคกระเพาะอักเสบ โรคตับอักเสบ ฯลฯ ยื่นส่งแก่บริษัทประกันภัยไปแล้วก็ตาม ถ้าภายหลังนั้นผู้เอาประกันภัยเกิดป่วยต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาลด้วยโรคกระเพาะอาหารและโรคตับแข็งซึ่งเป็นผลให้ข้อความจริงซึ่งได้แถลงไปแล้วแต่แรกนั้นคลาดเคลื่อนไม่ตรงต่อความเป็นจริง และผู้เอาประกันภัยย่อมทราบว่ายังอยู่ในระหว่างเวลาที่บริษัทยังพิจารณาคำขอ และยังมิได้ออกกรมธรรม์ตอบรับมา ทั้งข้อถามต่างๆ ในแบบคำขอนั้นผู้เอาประกันภัยเองก็ได้ทราบและรับรองไว้ว่าเป็นข้อความจริงอันเป็นมูลฐานและสารสำคัญแห่งการออกกรมธรรม์ของฝ่ายผู้รับประกันภัยดังนี้ ย่อมมีผลให้สัญญาไม่สมบูรณ์เป็นโมฆียะ ผู้รับประกันภัยมีสิทธิบอกล้างและคืนแต่ค่าไถ่ถอนกรมธรรม์ให้แก่ทายาทของผู้เอาประกันภัยเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 858/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประกันภัยเป็นโมฆียะ หากผู้เอาประกันปกปิดโรคสำคัญ แม้เบี้ยประกันจะสูงขึ้น
ข้อความจริงซึ่งผู้เอาประกันภัยได้ปกปิดไว้ไม่เปิดเผยให้ผู้รับประกันภัยทราบในเวลาทำสัญญาประกันภัย แม้อาจจูงใจผู้รับประกันภัยให้เรียกเบี้ยประกันภัยสูงขึ้นอีกหากได้ทราบข้อความจริงนั้น ไม่ถึงกับให้บอกปัดไม่ยอมทำสัญญาด้วยก็ตามข้อความจริงในระดับความสำคัญทั้งสองประการนี้ย่อมมีผลให้สัญญาประกันภัยเป็นโมฆียะเช่นเดียวกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 865
ผลแห่งโมฆียะกรรมตามบทบัญญัติดังกล่าวขึ้นอยู่กับการพิเคราะห์ความสำคัญของข้อความจริง แต่ในชั้นขณะทำสัญญาประกันภัยเท่านั้น ฉะนั้น แม้จะปรากฏว่าผู้เอาประกันชีวิตมิได้มรณะด้วยโรคที่ตนเคยป่วยมาก่อนทำสัญญาประกันชีวิตและได้ปกปิดไว้ไม่เปิดเผยให้ผู้รับประกันภัยทราบก็ตามก็ไม่ทำให้ผลของสัญญาซึ่งเป็นโมฆียะไปแล้วนั้นเปลี่ยนแปลงไปแต่อย่างใด ผู้รับประกันภัยชอบที่จะบอกล้างสัญญาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 858/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประกันภัยเป็นโมฆียะจากข้อมูลที่ผู้เอาประกันปกปิด แม้ผู้รับประกันจะเรียกเบี้ยเพิ่มได้
ข้อความจริงซึ่งผู้เอาประกันภัยได้ปกปิดไว้ไม่เปิดเผยให้ผู้รับประกันภัยทราบในเวลาทำสัญญาประกันภัย แม้อาจจูงใจผู้รับประกันภัยให้เรียกเบี้ยประกันภัยสูงขึ้นอีกหากได้ทราบข้อความจริงนั้น ไม่ถึงกับให้บอกปัดไม่ยอมทำสัญญาด้วยก็ตามข้อความจริงในระดับความสำคัญทั้งสองประการนี้ย่อมมีผลให้สัญญาประกันภัยเป็นโมฆียะเช่นเดียวกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 865
ผลแห่งโมฆียะกรรมตามบทบัญญัติดังกล่าวขึ้นอยู่กับการพิเคราะห์ความสำคัญของข้อความจริง แต่ในชั้นขณะทำสัญญาประกันภัยเท่านั้น ฉะนั้น แม้จะปรากฏว่าผู้เอาประกันชีวิตมิได้มรณะด้วยโรคที่ตนเคยป่วยมาก่อนทำสัญญาประกันชีวิตและได้ปกปิดไว้ไม่เปิดเผยให้ผู้รับประกันภัยทราบก็ตาม ก็ไม่ทำให้ผลของสัญญาซึ่งเป็นโมฆียะไปแล้วนั้นเปลี่ยนแปลงไปแต่อย่างใด ผู้รับประกันภัยชอบที่จะบอกล้างสัญญาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2076/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปกปิดประวัติโรคมะเร็งก่อนทำประกันชีวิตทำให้สัญญาเป็นโมฆียะ
ผู้เอาประกันชีวิตรู้ว่าตนป่วยเป็นโรคมะเร็ง เคยเข้ารับการผ่าตัดมะเร็งต่อมไทมัสที่ทรวงอกและต่อมาที่มดลูกและรังไข่ซึ่งมะเร็งได้กระจายลงไป ขณะยื่นคำขอเอาประกันชีวิตก็เป็นระยะที่ตนกำลังได้รับการรักษาด้านการฉายรังสี แต่ปกปิดความจริงดังกล่าวนี้โดยแถลงเท็จว่าเป็นการผ่าตัดซี่โครงข้างซ้ายซึ่งงอเพราะกระโดดน้ำเล่นและผ่าตัดไส้ติ่งซึ่งถ้าบริษัทประกันภัยทราบความจริงข้างต้นนี้แล้วก็จะไม่ยอมทำสัญญาประกันชีวิตด้วย เช่นนี้ สัญญาย่อมเป็นโมฆียะบริษัทมีสิทธิบอกล้างไม่ใช้เงินตามสัญญาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2076/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปกปิดประวัติโรคร้ายแรงในการทำประกันชีวิต ทำให้สัญญาสัญญาประกันเป็นโมฆียะ
ผู้เอาประกันชีวิตรู้ว่าตนป่วยเป็นโรคมะเร็ง เคยเข้ารับการผ่าตัดมะเร็งต่อมไทมัสที่ทรวงอกและต่อมาที่มดลูกและรังไข่ซึ่งมะเร็งได้กระจายลงไป ขณะยื่นคำขอเอาประกันชีวิตก็เป็นระยะที่ตนกำลังได้รับการรักษาด้านการฉายรังสี แต่ปกปิดความจริงดังกล่าวนี้โดยแถลงเท็จว่าเป็นการผ่าตัดซี่โครงข้างซ้ายซึ่งงอเพราะกระโดดน้ำเล่นและผ่าตัดไส้ติ่ง ซึ่งถ้าบริษัทประกันภัยทราบความจริงข้างต้นนี้แล้วก็จะไม่ยอมทำสัญญาประกันชีวิตด้วย เช่นนี้ สัญญาย่อมเป็นโมฆียะบริษัทมีสิทธิบอกล้างไม่ใช้เงินตามสัญญาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 715/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปิดเผยข้อมูลสุขภาพของผู้เอาประกันภัย สัญญาประกันชีวิตไม่เป็นโมฆียะหากข้อมูลที่ไม่เปิดเผยไม่กระทบต่อการรับประกัน
การละเว้นไม่เปิดเผยข้อความจริงซึ่งอาจจะได้จูงใจผู้รับประกันภัยให้เรียกเบี้ยประกันภัยสูงขึ้นหรือบอกปัดไม่ยอมทำสัญญา ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 865 จะต้องพิจารณาถึงความสำคัญของข้อความที่ละเว้นไม่เปิดเผยด้วยมิใช่ว่าถ้ามีการปกปิดความจริงแล้วจะทำให้สัญญาประกันภัยเป็นโมฆียะไปเสียทั้งหมด
โรคไส้เลื่อนมิใช่เป็นโรคอันตรายร้ายแรง เมื่อผ่าตัดแล้วอาจหายไปได้การที่ผู้เอาประกันมิได้แจ้งเรื่องเคยเป็นโรคนี้ และได้รับการผ่าตัดมาก่อนให้ทราบ ยังไม่ถึงขนาดที่จะอนุมานเอาได้ว่าถ้าได้แจ้งเช่นนั้นผู้รับประกันภัยจะบอกปัดไม่รับประกัน หรือเรียกเบี้ยประกันให้สูงขึ้น จึงไม่ทำให้สัญญาประกันชีวิตเป็นโมฆียะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 715/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปิดเผยข้อมูลสุขภาพในการทำประกันชีวิต: การปกปิดโรคไส้เลื่อนไม่ถึงขนาดทำให้สัญญาเป็นโมฆียะ
การละเว้นไม่เปิดเผยข้อความจริงซึ่งอาจจะได้จูงใจผู้รับประกันภัยให้เรียกเบี้ยประกันภัยสูงขึ้นหรือบอกปัดไม่ยอมทำสัญญา ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 865 จะต้องพิจารณาถึงความสำคัญของข้อความที่ละเว้นไม่เปิดเผยด้วยมิใช่ว่าถ้ามีการปกปิดความจริงแล้วจะทำให้สัญญาประกันภัยเป็นโมฆียะไปเสียทั้งหมด
โรคไส้เลื่อนมิใช่เป็นโรคอันตรายร้ายแรง เมื่อผ่าตัดแล้วอาจหายไปได้การที่ผู้เอาประกันมิได้แจ้งเรื่องเคยเป็นโรคนี้ และได้รับการผ่าตัดมาก่อนให้ทราบ ยังไม่ถึงขนาดที่จะอนุมานเอาได้ว่า ถ้าได้แจ้งเช่นนั้นผู้รับประกันภัยจะบอกปัดไม่รับประกันหรือเรียกเบี้ยประกันให้สูงขึ้น จึงไม่ทำให้สัญญาประกันชีวิตเป็นโมฆียะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 355/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปกปิดโรคภัยไข้เจ็บก่อนทำประกันชีวิตทำให้กรมธรรม์เป็นโมฆียะเมื่อบริษัทบอกล้างสิทธิ
ผู้เอาประกันชีวิตเคยเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลด้วยโรคมะเร็งในเม็ดโลหิตขาว ซึ่งขณะนี้ไม่มีทางรักษาหายและจะตายอย่างช้าใน 5 ปี แต่ปกปิดความจริงว่าไม่เคยเจ็บป่วย ไม่เคยรักษาตัวในโรงพยาบาลใด ทำให้กรมธรรม์ประกันชีวิตเป็นโมฆียะ เมื่อผู้รับประกันชีวิตบอกล้างใน 1 เดือนแล้ว ย่อมตกเป็นโมฆะ ผู้รับประโยชน์จะฟ้องเรียกเงินประกันชีวิตไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1675/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปกปิดข้อมูลอาชีพและประวัติการประกัน ถือเป็นเหตุบอกล้างสัญญาประกันชีวิตได้
การปกปิดข้อความจริงในเรื่องอาชีพของผู้เอาประกันชีวิต ในเรื่องการชำระเบี้ยประกันของผู้เอาประกัน หรือแม้ในเรื่องที่ผู้เอาประกันชีวิตได้เอาประกันชีวิตไว้ก่อนแล้ว ถือว่าเป็นการปกปิดข้อความจริงอันเป็นสาระสำคัญ ซึ่งถ้าบริษัทรับประกันชีวิตทราบความจริงแล้วย่อมจะบอกปัดไม่รับประกัน สัญญาประกันชีวิตเช่นว่านี้เป็นโมฆียะ
การบอกล้างโมฆียะกรรมดังกล่าว กฎหมายไม่ได้บังคับว่าให้บอกล้างกับผู้เอาประกันโดยตรง เมื่อบริษัทผู้รับประกันทราบถึงมูลอันจะบอกล้างได้ ก็ย่อมบอกล้างแก่ผู้ซึ่งจะได้รับประโยชนในการประกันจากบริษัทผู้รับประกันได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1675/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปกปิดข้อมูลอาชีพและประวัติการประกันภัยถือเป็นสาระสำคัญ ทำให้สัญญาประกันเป็นโมฆียะ
การปกปิดข้อความจริงในเรื่องอาชีพของผู้เอาประกันชีวิตในเรื่องการชำระเบี้ยประกันของผู้เอาประกัน หรือแม้ในเรื่องที่ผู้เอาประกันชีวิตได้เอาประกันชีวิตไว้ก่อนแล้ว ถือว่าเป็นการปกปิดข้อความจริงอันเป็นสาระสำคัญ ซึ่งถ้าบริษัทรับประกันชีวิตทราบความจริงแล้วย่อมจะบอกปัดไม่รับประกัน สัญญาประกันชีวิตเช่นว่านี้เป็นโมฆียะ
การบอกล้างโมฆียะกรรมดังกล่าว กฎหมายไม่ได้บังคับว่าให้บอกล้างกับผู้เอาประกันโดยตรง เมื่อบริษัทผู้รับประกันทราบถึงมูลอันจะบอกล้างได้ ก็ย่อมบอกล้างแก่ผู้ซึ่งจะได้รับประโยชน์ในการประกันจากบริษัทผู้รับประกันได้
of 10