คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 14

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 9 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 87/2565

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคัดค้านผู้พิพากษาต้องแสดงเหตุผลชัดเจน หากไม่มีรายละเอียดเพียงพอ ศาลไม่จำเป็นต้องไต่สวน
ตามคำร้องของโจทก์ที่คัดค้านขอให้เปลี่ยนตัวผู้พิพากษาท่านอื่นแทน ณ. ไม่ได้แสดงรายละเอียดโดยแจ้งชัดพอที่จะทำให้เข้าใจได้ว่าที่ ณ. นั่งพิจารณาคดีหมายเลขดำที่ 1163/2561 ซึ่งแม้จะเป็นคู่ความเดียวกันด้วยนั้น มีพฤติกรรมอย่างไรที่ ณ. อาจทำให้การพิจารณาหรือพิพากษาคดีนี้เสียความยุติธรรมไปอย่างไรด้วย แม้โจทก์จะกล่าวอ้างในคำร้องว่าขออนุญาตนำสืบในรายละเอียดชั้นไต่สวนคำร้องต่อไป แต่เมื่อคำร้องของโจทก์ไม่มีรายละเอียดในเบื้องต้นว่ามีเหตุที่จะคัดค้านผู้พิพากษาตามที่ ป.วิ.พ. มาตรา 11 (5) และมาตรา 12 ได้บัญญัติไว้อย่างไรเสียแล้ว จึงไม่จำเป็นที่ศาลจะต้องทำการไต่สวนพยานหลักฐานว่ามีข้อเท็จจริงรับฟังได้ตามคำร้องหรือไม่ ส่วนที่โจทก์จะขอนำสืบรายละเอียดในชั้นไต่สวนคำร้องนั้นก็เป็นข้อเท็จจริงที่โจทก์ไม่ได้อ้างไว้ในคำร้อง ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ตามคำร้องไม่ปรากฏเหตุตามกฎหมายที่จะคัดค้านผู้พิพากษาได้ ในชั้นนี้ให้ยกคำร้องนั้นเป็นการชอบแล้ว และคำสั่งเช่นว่านี้เป็นที่สุดตาม ป.วิ.พ. มาตรา 14

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 79/2565

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคัดค้านผู้พิพากษาต้องมีเหตุตามกฎหมายชัดเจน การอ้างเหตุในชั้นไต่สวนโดยไม่ระบุในคำร้องไม่เพียงพอ
ตามคำร้องของจำเลยที่ 1 ที่คัดค้านขอให้เปลี่ยนตัวผู้พิพากษาท่านอื่นเข้ารับผิดชอบสำนวนคดีนี้แทน ไม่ได้แสดงรายละเอียดโดยแจ้งชัดพอที่จะทำให้เข้าใจได้ว่า ณ. มีผลประโยชน์ได้เสียเกี่ยวข้องอยู่ในคดีนี้อย่างไรหรือมีเหตุการณ์อื่นอันมีสภาพร้ายแรงซึ่งอาจทำให้การพิจารณาหรือพิพากษาคดีเสียความยุติธรรมไปอย่างไร อันเป็นเหตุตามที่ ป.วิ.พ. มาตรา 11 (1) และมาตรา 12 ได้บัญญัติไว้เพื่อคัดค้านผู้พิพากษา แม้จำเลยจะกล่าวอ้างในคำร้องต่อไปว่า รายละเอียดจำเลยที่ 1 ขอนำสืบในชั้นไต่สวนคำร้องนี้และหลีกเลี่ยงไม่เขียนข้อความในคำร้องเพื่อกระทบต่อจิตสำนึกในการเคารพผู้พิพากษาก็ตาม แต่เมื่อคำร้องของจำเลยที่ 1 ไม่มีรายละเอียดในเบื้องต้นว่ามีเหตุที่จะคัดค้านผู้พิพากษาตามที่ ป.วิ.พ. มาตรา 11 (1) และมาตรา 12 ได้บัญญัติไว้อย่างไรเสียแล้ว จึงไม่จำเป็นที่ศาลจะต้องทำการไต่สวนพยานหลักฐานว่า มีข้อเท็จจริงรับฟังได้ตามคำร้องหรือไม่ ส่วนที่จำเลยที่ 1 จะขอนำสืบรายละเอียดในชั้นไต่สวนคำร้องนั้นก็เป็นข้อเท็จจริงที่ไม่ได้อ้างไว้ในคำร้อง ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ตามคำร้องไม่ปรากฏเหตุตามกฎหมายที่จะคัดค้านผู้พิพากษาได้ ในชั้นนี้ให้ยกคำร้องเป็นการชอบแล้ว และคำสั่งเช่นว่านี้เป็นที่สุดตาม ป.วิ.พ. มาตรา 14

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3152/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคัดค้านผู้พิพากษาและการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการตุลาการตามกฎหมายพิเศษ
ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องของโจทก์ที่คัดค้านผู้พิพากษาทุกคนที่จะทำการพิจารณาคดีโจทก์ในศาลชั้นต้น ด้วยเหตุคำคัดค้านไม่ต้องด้วยบทบัญญัติเรื่องการคัดค้านผู้พิพากษา ดังนี้เท่ากับเป็นการไม่รับคำคัดค้านไว้พิจารณา มิใช่เป็นการสั่งยอมรับหรือยกเสียซึ่งคำคัดค้านตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 14 ที่ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องโดยไม่ส่งสำนวนไปให้ศาลซึ่งมีอำนาจสูงกว่าวินิจฉัย ตามมาตรา 13 แห่งประมวลกฎหมายดังกล่าวนั้นชอบแล้ว
คณะกรรมการตุลาการปฏิบัติหน้าที่ตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการกำหนดไว้ได้โดยอิสระ มิได้อยู่ภายใต้บังคับบัญชาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รัฐมนตรีฯ จึงไม่มีอำนาจที่จะแต่งตั้งกรรมการขึ้นสอบสวนกรรมการตุลาการเป็นรายคนหรือทั้งคณะในส่วนที่เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายดังกล่าว
คณะกรรมการสอบสวนทางวินัยมีอำนาจสอบสวนและลงมติตามอำนาจหน้าที่ที่ได้รับแต่งตั้ง เมื่อไม่ได้กระทำไปโดยอคติ หรือไม่ยุติธรรม หรือไม่สุจริต ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3152/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคัดค้านผู้พิพากษา การปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการตุลาการ และความผิดตามมาตรา 157
ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องของโจทก์ที่คัดค้านผู้พิพากษาทุกคนที่จะทำการพิจารณาคดีโจทก์ในศาลชั้นต้น ด้วยเหตุคำคัดค้านไม่ต้องด้วยบทบัญญัติเรื่องการคัดค้านผู้พิพากษา ดังนี้เท่ากับเป็นการไม่รับคำคัดค้านไว้พิจารณา มิใช่เป็นการสั่งยอมรับหรือยกเสียซึ่งคำคัดค้านตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 14ที่ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องโดยไม่ส่งสำนวนไปให้ศาลซึ่งมีอำนาจสูงกว่าวินิจฉัย ตามมาตรา 13 แห่งประมวลกฎหมายดังกล่าวนั้นชอบแล้ว คณะกรรมการตุลาการปฏิบัติหน้าที่ตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการกำหนดไว้ได้โดยอิสระ มิได้อยู่ภายใต้บังคับบัญชาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รัฐมนตรีฯ จึงไม่มีอำนาจที่จะแต่งตั้งกรรมการขึ้นสอบสวนกรรมการตุลาการเป็นรายคนหรือทั้งคณะในส่วนที่เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายดังกล่าว คณะกรรมการสอบสวนทางวินัยมีอำนาจสอบสวนและลงมติตามอำนาจหน้าที่ที่ได้รับแต่งตั้ง เมื่อไม่ได้กระทำไปโดยอคติ หรือไม่ยุติธรรม หรือไม่สุจริต ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1588/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของหุ้นส่วนผู้จัดการ: ฟ้องห้างฯ หรือฟ้องผู้จัดการส่วนตัว?
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเป็นเจ้าของปั๊มน้ำมัน "ทองคำบริการ"รับรถยนต์ของโจทก์ไว้อัดฉีดแล้วประมาทเลินเล่อปล่อยให้บุคคลอื่นซึ่งมิได้รับมอบอำนาจจากโจทก์เอารถคันดังกล่าวของโจทก์ไป ขอให้บังคับจำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์แต่ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยเป็นเพียงหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนจำกัดทองคำบริการซึ่งเป็นนิติบุคคลต่างหากรับทำการอัดฉีดรถของโจทก์ จำเลยเป็นเพียงผู้ทำแทนห้างฯ มิได้ทำในฐานะส่วนตัวเมื่อฟ้องโจทก์มิได้ระบุถึงความรับผิดของห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล และไม่ได้ระบุว่าผู้เป็นหุ้นส่วนจะต้องรับผิดประการใดเลย ดังนี้ โจทก์จะขอให้จำเลยรับผิดในฐานะส่วนตัวหรือในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการห้างดังกล่าวไม่ได้ ต้องยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1588/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของหุ้นส่วนผู้จัดการ: ฟ้องห้างฯ นิติบุคคลโดยตรง หากจำเลยทำหน้าที่แทน ห้างฯ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเป็นเจ้าของปั้มน้ำมัน "ทองคำบริการ" รับรถยนต์ของโจทก์ไว้อัดฉีดแล้วประมาทเลินเล่อปล่อยให้บุคคลอื่น ซึ่งมิได้รับมอบอำนาจจากโจทก์เอารถคันดังกล่าวของโจทก์ไป ขอให้บังคับจำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ แต่ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยเป็นเพียงหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนจำกัดทองคำบริการ ซึ่งเป็นนิติบุคคลต่างหากรับทำการอัดฉีดรถของโจทก์ จำเลยเป็นเพียงผู้ทำแทนห้างฯ มิได้ทำในฐานะส่วนตัว เมื่อฟ้องโจทก์มิได้ระบุถึงความรับผิดของห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล และไม่ได้ระบุว่าผู้เป็นหุ้นส่วนจะต้องรับผิดประการใดเลย ดังนี้ โจทก์จะขอให้จำเลยรับผิดในฐานะส่วนตัวหรือในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการห้างดังกล่าวไม่ได้ ต้องยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2631/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาลที่ไม่รับหรือคืนอุทธรณ์: โจทก์มีสิทธิอุทธรณ์ได้ทันที ไม่ต้องรอคำสั่งไม่รับ
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18 วรรคท้าย ให้สิทธิคู่ความที่จะอุทธรณ์และฎีกาคำสั่งของศาลที่ไม่รับหรือคืนคำคู่ความ ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 227, 228 และ 247 นั้นได้
เมื่อศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์รับอุทธรณ์คืนไปทำมาภายใหม่ภายในกำหนด 7 วัน แต่โจทก์เห็นว่าอุทธรณ์ของโจทก์ไม่มีข้ออันควรตำหนิที่จะต้องแก้ไข หรือทำมาใหม่ตามคำสั่งของศาลชั้นต้นโจทก์ย่อมมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งนั้นให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยได้ตามนัยแห่งบทบัญญัติดังกล่าว โดยไม่จำต้องรอให้ศาลมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์อีกครั้งหนึ่งก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 292/2482

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจพนักงานสอบสวนในคดีที่ตนมีส่วนได้เสีย: ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าไม่ขัดกฎหมาย
พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนในคดีที่ตนมีส่วนได้เสียก็ได้.
ปลัดอำเภอไปตรวจราชการ+ของปลัดอำเภอหายไป+ได้ที่จำเลย ปลัดอำเภอ+การสอบสวนจำเลยแล้วส่วอัยยการฟ้องศาลดังนี้+ได้ว่าได้มีการร้องทุกข์และสอบ-สวนตาม ก.ม.แล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 497/2480

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนพินัยกรรมและการตัดทายาทต้องทำเป็นหนังสือ การฎีกาข้อเท็จจริงขัดต่อข้อกำหนด
เจ้ามฤดกจะตัดทายาทมิให้รับมฤดกได้ก็ต้องแสดงเจตนาด้วยการทำเป็นพินัยกรรม์หรือทำเป็นหนังสือจะตัดด้วยปากเปล่าไม่ได้ คดีที่ฎีกาได้ฉะเพาะข้อกฎหมายนั้น แม้เขียนฎีกาฟุ่มเฟือยแต่พอเก็บหัวข้อเป็นข้อกฎหมายได้แล้ว ศาลฎีการับพิจารณาให้