พบผลลัพธ์ทั้งหมด 229 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 120/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขับแซงหลีกรถจอด การกระทำไม่ผิดกฎจราจร
จำเลยขับรถแซงขึ้นหน้ารถบันทุกของทหารที่จอดอยู่ข้างหน้านั้น เป็นการขับหลีกรถที่จอดอยู่ไปเท่านั้น ย่อมจะขับหลีกไปได้ ไม่ใช่การเดินรถขึ้นหน้ารถคันใดซึ่งกำลังเดินไปข้างหน้าของรถจำเลย การกระทำของจำเลยจึงไม่ผิดกฎจราจร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1298/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนัดพิจารณาคดีและการขาดนัด: ศาลต้องนัดให้คู่ความมาพร้อมกันเพื่อสอบคำให้การ หากโจทก์ไม่มาถือว่าขาดนัดได้ต่อเมื่อมีการนัดพิจารณาอย่างชัดเจน
โจทก์ฟ้องจำเลยหาว่าจำเลยหมิ่นประมาทใส่ความ ศาลนัดไต่สวนแล้ว สั่งว่าคดีมีมูลให้ประทับฟ้อง และให้หมายเรียกจำเลยมาแก้คดีในวันที่ 22 มีนาคม 2499 และให้โจทก์เซ็นทราบไว้ด้วย ครั้นถึงวันที่ 22 มีนาคม 2499 จำเลยยื่นคำให้การ ศาลเรียกคู่ความเพื่อสอบถามคำให้การจำเลย แต่โจทก์ไม่มาศาลในวันนี้ ศาลจะสั่งจำหน่ายคดีเสียโดยหาว่าโจทก์ทิ้งฟ้องไม่ได้ เพราะไม่มีการนัดเป็นกิจลักษณะว่าจะดำเนินกระบวนพิจารณา และกรณีไม่เข้าตามมาตรา 174 แห่งวิธีพิจารณาความแพ่ง ไม่เป็นการทิ้งฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1298/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนัดแก้คดีและการขาดนัดพิจารณา: การนัดให้จำเลยแก้คดีไม่ใช่การนัดพิจารณาคดี และโจทก์ไม่ขาดนัด
โจทก์ฟ้องจำเลยหาว่าจำเลยหมิ่นประมาทใส่ความ ศาลนัดไต่สวนแล้ว สั่งว่าคดีมีมูลให้ประทับฟ้อง และให้หมายเรียกจำเลยมาแก้คดีในวันที่ 22 มีนาคม 2499 และให้โจทก์เซ็นทราบไว้ด้วย ครั้นถึงวันที่ 22 มีนาคม 2499 จำเลยยื่นคำให้การ ศาลเรียกคู่ความเพื่อสอบถามคำให้การจำเลยแต่โจทก์ไม่มาศาลในวันนี้ ศาลจะสั่งจำหน่ายคดีเสียโดยหาว่าโจทก์ทิ้งฟ้องไม่ได้ เพราะไม่มีการนัดเป็นกิจลักษณะว่าจะดำเนินกระบวนพิจารณา และกรณีไม่เข้าตามมาตรา 174 แห่งวิธีพิจารณาความแพ่งฯไม่เป็นการทิ้งฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 890/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาที่ยื่นฟ้องก่อนแก้กฎหมายวิธีพิจารณา ต้องใช้กฎหมายเดิมบังคับ หากส่งสำเนาฎีกาไม่ได้ให้จำหน่ายคดี
คดีที่ได้ยื่นฟ้องฎีกาก่อนวันประกาศใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาที่แก้ไขใหม่นั้น ต้องใช้ประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาที่ใช้อยู่เดิมบังคับ.เมื่อส่งสำเนาฎีกาไม่ได้ ต้องจำหน่ายคดี.
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 5/2499)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 5/2499)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 890/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาที่ยื่นก่อนกฎหมายวิธีพิจารณาใหม่ ใช้กฎหมายเดิมบังคับ แม้ส่งสำเนาฎีกาไม่ได้
คดีที่ได้ยื่นฟ้องฎีกาก่อนวันประกาศใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาที่แก้ไขใหม่นั้น ต้องใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาที่ใช้อยู่เดิมบังคับเมื่อส่งสำเนาฎีกาไม่ได้ต้องจำหน่ายคดี(ประชุมใหญ่ครั้งที่5/2499)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 369/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องเคลือบคลุม: จำเลยต้องรับผิดต่อการยักยอกเงินหรือไม่ เมื่อโจทก์ไม่ได้ระบุรายละเอียดการบกพร่องหน้าที่
โจทก์บรรยายฟ้องว่า "จำเลยมิได้ตั้งใจปฏิบัติราชการให้เป็นไปด้วยดี เว้นการอันควรปฏิบัติตามหน้าที่และมิได้ดำเนินการตามระเบียบแบบแผนของกรมไปรษณีย์ ผู้ซึ่งเป็นนายจ้างได้วางไว้ เพื่อปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บและรักษาเงินรายได้ของรัฐบาลดังกล่าวแล้วเป็นเหตุให้นายนัดนายไปรษณีย์ จังหวัดระนองทำการทุจริตยักยอกเงินไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสียเพราะการกระทำของจำเลยทั้งสองดังกล่าวแล้วข้างต้น ฯลฯ" ทั้งคำฟ้องของโจทก์มิได้บรรยายไว้ในตอนใดเลยว่าจำเลยได้กระทำอย่างไรอันเป็นการบกพร่องต่อหน้าที่จึงเป็นเหตุให้นายไปรษณีย์ยักยอกเอาเงินไปได้ถือว่าฟ้องโจทก์ไม่มีประเด็นที่จำเลยจะต่อสู้คดีให้ถูกต้องได้เป็นฟ้องเคลือบคลุม.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 977/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสูญเสียสัญชาติไทยด้วยการรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวและการฟ้องคดีไม่ขาดอายุความ
บุคคลผู้มีสัญชาติไทยเพราะเกิดในราชอาณาจักรไทยแต่บิดาเป็นคนต่างด้าวนั้น เมื่อจำเลยรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวแล้ว ย่อมขาดจากสัญชาติไทย ตาม พ.ร.บ.สัญชาติ(ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2496 ม.5 ไม่ ว่าจะได้รับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวก่อนหรือหลังวัน พ.ร.บ.นั้นใช้บังคับ
การที่จำเลยให้การว่าได้เอาใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวไปคืนให้แก่อำเภอ 7-8 ปีแล้ว แต่ไม่มีหลักฐานอะไร ดังนี้ ก็ย่อมไม่มีเหตุจำเป็นที่ศาลฎีกาจะย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่
พ.ร.บ.สัญชาติ (ฉบับที่ 2) 2496 ม.5 ใช้บังคับเมื่อ 4 ก.พ. 96 จำเลยมีหน้าที่ต้องไปขอใบสำคัญประจำตัวภายใน 30 วันนับแต่วันรู้หรือควรจะรู้ว่าตนได้สูญเสียสัญชาติไทยโจทก์มาฟ้องเมื่อ 15 ก.พ. 97 ดังนี้ยังหาขาดอายุความไม่ เพราะฟ้องภายในกำหนด 1 ปี นับแต่วันที่ จำเลยไม่ไปขอใบสำคัญประจำตัวภายในกำหนด ที่ ก.ม. บังคับไว้
การที่จำเลยให้การว่าได้เอาใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวไปคืนให้แก่อำเภอ 7-8 ปีแล้ว แต่ไม่มีหลักฐานอะไร ดังนี้ ก็ย่อมไม่มีเหตุจำเป็นที่ศาลฎีกาจะย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่
พ.ร.บ.สัญชาติ (ฉบับที่ 2) 2496 ม.5 ใช้บังคับเมื่อ 4 ก.พ. 96 จำเลยมีหน้าที่ต้องไปขอใบสำคัญประจำตัวภายใน 30 วันนับแต่วันรู้หรือควรจะรู้ว่าตนได้สูญเสียสัญชาติไทยโจทก์มาฟ้องเมื่อ 15 ก.พ. 97 ดังนี้ยังหาขาดอายุความไม่ เพราะฟ้องภายในกำหนด 1 ปี นับแต่วันที่ จำเลยไม่ไปขอใบสำคัญประจำตัวภายในกำหนด ที่ ก.ม. บังคับไว้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 596-598/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเท็จและการรับรองพยานหลักฐานจากสำนวนอื่น ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์
คดีอาญาที่ราษฎรเป็นโจทก์ เมื่อศาลตรวจฟ้องถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา158 และสั่งนัดไต่สวนมูลฟ้องแล้วก็ถือว่าเป็นฟ้องตามกฎหมายและจะถือว่าผู้ถูกฟ้องยังไม่เป็นจำเลยหาได้ไม่ หากแต่ได้รับผ่อนผันยกเว้นสำหรับการดำเนินคดีในเบื้องต้นเท่านั้นฉะนั้นถ้าจะเป็นฟ้องเท็จก็อาจเป็นผิดตาม กฎหมายอาญา มาตรา 158,159 ได้ คดีอาญาที่คู่ความเพียงแต่อ้างสำนวนการพิจารณาในคดีอื่นมาเป็นพยานหลักฐานในคดีหลังนี้ ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการพิจารณาและสืบพยานในศาลตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 172
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1271/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายคดีเนื่องจากโจทก์ฎีกาเฉพาะจำเลยบางราย และไม่สามารถส่งสำเนาฟ้องฎีกาให้จำเลยได้
เมื่อส่งสำนวนฟ้องฎีกาให้จำเลยไม่ได้ ศาลก็มีอำนาจสั่งจำหน่ายคดีห้ามมิให้โจทก์ฎีกาในคดีซึ่งศาลเดิมและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์โดยอาศัยข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1271/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายคดีเนื่องจากส่งสำเนาฟ้องฎีกาไม่ได้ และข้อจำกัดในการฎีกาเมื่อศาลเดิมยกฟ้อง
เมื่อส่งสำเนาฟ้องฎีกาให้จำเลยไม่ได้ ศาลก็มีอำนาจสั่งจำหน่ายคดี
ห้ามมิให้โจทก์ฎีกาในคดีซึ่งศาลเดิมและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์โดยอาศัยข้อเท็จจริง
ห้ามมิให้โจทก์ฎีกาในคดีซึ่งศาลเดิมและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์โดยอาศัยข้อเท็จจริง