พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 527/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิครอบครองที่ดินพิพาท: ศาลต้องรับฟังพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายเพื่อวินิจฉัยสิทธิครอบครองก่อนพิจารณาสัญญา
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์ทำสัญญามัดจำซื้อที่ดินพิพาท โดยจำเลยที่ 1 และป.ผู้จะขายให้โจทก์เข้าครอบครองที่ดินไว้ก่อน และกำหนดนัดโอนเมื่อจำเลยที่ 1 และ ป. ได้รับหนังสือรับรองการทำประโยชน์จากเจ้าพนักงานแล้ว ต่อมา ป. ถึงแก่ความตาย จำเลยที่ 1 และ น.ซึ่งเป็นบุตรของ ป. มาแจ้งว่าไม่ได้รับหนังสือรับรองการทำประโยชน์จากเจ้าพนักงานและตกลงให้ที่ดินเป็นของโจทก์ไม่ขอเกี่ยวข้องอีกต่อไปต่อมาจำเลยที่ 1 มีเจตนาทุจริตมาขอจัดการมรดกของ ป. แล้วขายที่ดินดังกล่าวให้จำเลยที่ 2 ไป จึงขอให้ศาลพิพากษาว่าที่ดินตามฟ้องเป็นของโจทก์ เป็นการฟ้องในฐานะเป็นเจ้าของที่ดินพิพาทซึ่งได้สิทธิโดยการครอบครองหาใช่โดยอาศัยสิทธิเรียกร้องตามสัญญามัดจำไม่เมื่อจำเลยที่ 1 ให้การว่าโจทก์ไม่เคยเข้าครอบครองที่ดินพิพาทก็ชอบที่ศาลจะต้องฟังพยานหลักฐานของทั้งสองฝ่ายว่าโจทก์ได้สิทธิครอบครองที่ดินพิพาทหรือไม่ การที่ศาลล่างสั่งให้งดสืบพยานและพิพากษายกฟ้องโดยยกสัญญามัดจำขึ้นวินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความจึงไม่ชอบ จำเลยที่ 1 ฎีกาขอให้พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3ที่พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนการพิจารณาใหม่แล้วพิจารณาพิพากษาใหม่ตามรูปคดี จึงเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์