คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 438

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 807 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1361-1372/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของรถต้องรับผิดต่อความเสียหายจากอุบัติเหตุ แม้จะทำสัญญาประกันภัย และอายุความไม่ตัดสิทธิผู้รับประกันภัย
จำเลยที่1มีชื่อเป็นคู่สัญญาซื้อรถบรรทุกคันเกิดเหตุและมีชื่อเป็นผู้เอาประกันภัยรถยนต์นั้นไว้กับจำเลยร่วมเมื่อเกิดเหตุรถชนกันขึ้นอ. บุตรชายของจำเลยที่2และเป็นผู้มีส่วนในการดำเนินกิจการของจำเลยที่1อยู่ด้วยได้ให้ถ้อยคำกับพนักงานสอบสวนว่ารถเป็นของจำเลยที่1ส. เป็นคนขับรถของจำเลยที่1โดยในวันเกิดเหตุอ. ได้สั่งให้ส. ขับรถเอามันเส้นของจำเลยที่1ไปส่งที่อำเภอบางประกง นอกจากนี้จำเลยที่2ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของจำเลยที่1ได้มอบอำนาจให้อ. ไปรับรถคืนจากพนักงานสอบสวนโดยอ้างว่าเป็นรถของจำเลยที่1พยานหลักฐานต่างๆเหล่านี้รับฟังได้ว่ารถยนต์บรรทุกคันเกิดเหตุเป็นของจำเลยที่1และส. เป็นลูกจ้างของจำเลยที่1ได้ขับรถไปในทางการที่จ้างของจำเลยที่1 เมื่อโจทก์นำสืบให้ปรากฏแล้วว่ามีความเสียหายเกิดขึ้นแก่โจทก์แม้โจทก์จะไม่นำสืบหรือนำสืบไม่ได้ว่าค่าเสียหายเป็นจำนวนเท่าใดศาลก็อาจกำหนดให้ได้ตามควรแก่พฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งการละเมิด แม้จำเลยที่1ที่2จะขอให้ศาลหมายเรียกจำเลยร่วมเข้ามาในคดีเป็นเวลาเกิน1ปีนับแต่วันละเมิดแต่ได้เรียกเข้ามาในฐานะเป็นผู้รับประกันภัยค้ำจุนรถยนต์ของจำเลยที่1ที่2จำเลยร่วมจึงไม่อาจยกอายุความละเมิดขึ้นต่อสู้ให้ยกฟ้องคดีโจทก์ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1248-1249/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางละเมิด: การเฉลี่ยความรับผิดของผู้กระทำละเมิดหลายฝ่าย และสิทธิการเบิกค่ารักษาพยาบาล
เมื่อจำเลยต้องรับผิดในผลของการกระทำละเมิดแล้วก็ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์เต็มจำนวนแม้โจทก์จะมีสิทธิเบิกเงินค่ารักษาพยาบาลจากทางราชการได้ก็เป็นสิทธิเฉพาะตัวของโจทก์จำเลยจะนำมาหักความรับผิดของตนหาได้ไม่ จำเลยที่1ขอเลื่อนคดีมา1ปีเศษจึงนำพยานเข้าสืบได้ปากเดียวศาลสั่งงดเพราะเห็นว่าเป็นการประวิงคดีนั้นเป็นดุลพินิจที่ชอบแล้ว ผู้ขับรถยนต์ทั้งสองฝ่ายชนกันโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียหายและไม่อาจแบ่งแยกผลของการละเมิดแต่ละฝ่ายใดประมาทมากน้อยกว่ากันศาลมีอำนาจกำหนดให้เฉลี่ยความรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้เสียหายฝ่ายละเท่าๆกันได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1248-1249/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางละเมิด: การเฉลี่ยความรับผิดของผู้ประมาท และสิทธิการเบิกค่ารักษาพยาบาลไม่ตัดสิทธิเรียกร้องค่าเสียหาย
เมื่อจำเลยต้องรับผิดในผลของการกระทำละเมิดแล้วก็ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์เต็มจำนวน แม้โจทก์จะมีสิทธิเบิกเงินค่ารักษาพยาบาลจากทางราชการได้ก็เป็นสิทธิเฉพาะตัวของโจทก์ จำเลยจะนำมาหักความรับผิดของตนหาได้ไม่
จำเลยที่ 1 ขอเลื่อนคดีมา 1 ปีเศษ จึงนำพยานเข้าสืบได้ปากเดียว ศาลสั่งงดเพราะเห็นว่าเป็นการประวิงคดีนั้นเป็นดุลพินิจที่ชอบแล้ว
ผู้ขับรถยนต์ทั้งสองฝ่ายชนกันโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียหายและไม่อาจแบ่งแยกผลของการละเมิดแต่ละฝ่ายใดประมาทมากน้อยกว่ากัน ศาลมีอำนาจกำหนดให้เฉลี่ยความรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้เสียหายฝ่ายละเท่า ๆ กันได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 422/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าเสียหายรายเดือนกับดอกเบี้ย: ห้ามซ้ำซ้อน
ฟ้องโจทก์ที่เรียกค่าเสียหายเป็นรายเดือนนับจากเดือนที่ฟ้องเป็นต้นไปพร้อมดอกเบี้ยในแต่ละเดือนด้วยนั้นเมื่อกำหนดให้จำเลยใช้ค่าเสียหายเป็นรายเดือนอันเป็นค่าเสียหายในอนาคตแล้วโจทก์ก็ไม่อาจที่จะขอให้ชำระดอกเบี้ยในค่าเสียหายดังกล่าวมาในคราวเดียวกันอีกเพราะเป็นการซ้ำซ้อนกัน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 422/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าเสียหายรายเดือนและดอกเบี้ย: การจ่ายค่าเสียหายรายเดือนครอบคลุมแล้ว ไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยซ้ำซ้อน
ฟ้องโจทก์ที่เรียกค่าเสียหายเป็นรายเดือนนับจากเดือนที่ฟ้องเป็นต้นไปพร้อมดอกเบี้ยในแต่ละเดือนด้วยนั้นเมื่อกำหนดให้จำเลยใช้ค่าเสียหายเป็นรายเดือนอันเป็นค่าเสียหายในอนาคตแล้วโจทก์ก็ไม่อาจที่จะขอให้ชำระดอกเบี้ยในค่าเสียหายดังกล่าวมาในคราวเดียวกันอีกเพราะเป็นการซ้ำซ้อนกัน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 422/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าเสียหายรายเดือนกับดอกเบี้ย: ห้ามซ้ำซ้อน
ฟ้องโจทก์ที่เรียกค่าเสียหายเป็นรายเดือนนับจากเดือนที่ฟ้องเป็นต้นไปพร้อมดอกเบี้ยในแต่ละเดือนด้วยนั้น เมื่อกำหนดให้จำเลยใช้ค่าเสียหายเป็นรายเดือน อันเป็นค่าเสียหายในอนาคตแล้ว โจทก์ก็ไม่อาจที่จะขอให้ชำระดอกเบี้ยในค่าเสียหายดังกล่าวมาในคราวเดียวกันอีก เพราะเป็นการซ้ำซ้อนกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 382/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดร่วมของคนขับรถและนายจ้างต่อความเสียหายจากอุบัติเหตุ แม้ผู้เสียหายไม่มีส่วนประมาท ศาลมีอำนาจแบ่งจำนวนค่าเสียหายให้เหมาะสม
โจทก์ฟ้องให้จำเลยซึ่งเป็นคนขับรถฝ่ายหนึ่งกับนายจ้างร่วมรับผิดฐานละเมิดแม้เหตุที่รถชนกันจะเกิดจากความประมาทร่วมของคนขับรถทั้งสองฝ่ายเมื่อโจทก์มิได้มีส่วนร่วมในความประมาทด้วยโดยเพียงนั่งมาในรถยนต์สามล้อเท่านั้นผู้ทำละเมิดทุกคนต้องร่วมกันรับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการละเมิดนั้นต่อโจทก์เต็มจำนวนมิใช่รับผิดเพียงกึ่งหนึ่งการที่ผู้ทำละเมิดแต่ละคนจะรับผิดมากน้อยเพียงใดเป็นเรื่องระหว่างผู้ทำละเมิด. ศาลชั้นต้นกำหนดให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าอุปการะเลี้ยงดูให้โจทก์ทั้งสามจำนวนเดียวโดยมิได้แยกเป็นของแต่ละคนทั้งที่โจทก์ทั้งสามขอค่าอุปการะเลี้ยงดูมาแต่ละคนไม่เท่ากันศาลฎีกามีอำนาจกำหนดให้มากน้อยตามส่วนของแต่ละคนที่ขอมาได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 382/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดร่วมกันของผู้อยู่ในเหตุการณ์ละเมิด และการแบ่งค่าเสียหายตามส่วนของโจทก์
โจทก์ฟ้องให้จำเลยซึ่งเป็นคนขับรถฝ่ายหนึ่งกับนายจ้างร่วมรับผิดฐานละเมิด แม้เหตุที่รถชนกันจะเกิดจากความประมาทร่วมของคนขับรถทั้งสองฝ่าย เมื่อโจทก์มิได้มีส่วนร่วมในความประมาทด้วยโดยเพียงนั่งมาในรถยนต์สามล้อเท่านั้น ผู้ทำละเมิดทุกคนต้องร่วมกันรับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการละเมิดนั้นต่อโจทก์เต็มจำนวน มิใช่รับผิดเพียงกึ่งหนึ่ง การที่ผู้ทำละเมิดแต่ละคนจะรับผิดมากน้อยเพียงใดเป็นเรื่องระหว่างผู้ทำละเมิด
ศาลชั้นต้นกำหนดให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าอุปการะเลี้ยงดูให้โจทก์ทั้งสามจำนวนเดียว โดยมิได้แยกเป็นของแต่ละคนทั้งที่โจทก์ทั้งสามขอค่าอุปการะเลี้ยงดูมาแต่ละคนไม่เท่ากัน ศาลฎีกามีอำนาจกำหนดให้มากน้อยตามส่วนของแต่ละคนที่ขอมาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4446-4449/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์: การประเมินความผิดและขอบเขตความรับผิดของแต่ละฝ่าย
รถของโจทก์ที่ 1 ชนกับรถของจำเลยที่ 2 แม้ ส. คนขับรถ ของโจทก์ที่ 1 จะขับรถโดยประมาทเลินเล่อด้วย แต่โจทก์ที่ 4 เป็นเพียงนั่งโดยสารมากับรถของโจทก์ที่ 1 คันเกิดเหตุมิได้มีส่วน ก่อให้เกิดความเสียหายขึ้นด้วย จำเลยทั้งสามจึงต้องรับผิดชดใช้ ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ที่ 4 เต็มจำนวนโดยไม่อาจแบ่ง ความรับผิดให้แก่โจทก์ที่ 4 ได้ และปัญหาข้อนี้เกี่ยวด้วย ความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้โจทก์ที่ 4 จะไม่ได้ยกขึ้นอ้างศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยเพื่อความเป็นธรรมแก่โจทก์ที่ 4 ได้
ข้อเท็จจริงฟังได้ว่ารถของโจทก์ที่ 1 ชนกับรถของจำเลยที่ 2 เพราะ ส. ซึ่งเป็นคนขับรถของโจทก์ที่ 1 และจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็น คนขับรถของจำเลยที่ 2 ขับรถโดยประมาทเลินเล่อด้วยกันทั้งสองฝ่ายแต่จำเลยที่ 1 เป็นฝ่ายประมาทเลินเล่อมากกว่ากรณีเช่นนี้ จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นฝ่ายผิดมากกว่าก็ไม่มีสิทธิที่จะฟ้องให้โจทก์ที่ 1 ซึ่งเป็นฝ่ายผิดน้อยกว่าให้รับผิดในความเสียหายของจำเลยที่ 2 ได้ ปัญหาดังกล่าวนี้เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ซึ่งศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4446-4449/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์: การประเมินความประมาท, การแบ่งความรับผิด และข้อยกเว้นการฟ้องเรียกค่าเสียหาย
รถของโจทก์ที่ 1 ชนกับรถของจำเลยที่ 2 แม้ส.คนขับรถ ของโจทก์ที่ 1 จะขับรถโดยประมาทเลินเล่อด้วยแต่โจทก์ที่ 4 เป็นเพียงนั่งโดยสารมากับรถของโจทก์ที่1 คันเกิดเหตุมิได้มีส่วน ก่อให้เกิดความเสียหายขึ้นด้วยจำเลยทั้งสามจึงต้องรับผิดชดใช้ ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ที่ 4 เต็มจำนวนโดยไม่อาจแบ่ง ความรับผิดให้แก่โจทก์ที่ 4 ได้ และปัญหาข้อนี้เกี่ยวด้วย ความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้โจทก์ที่ 4 จะไม่ได้ยกขึ้นอ้าง ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยเพื่อความเป็นธรรมแก่โจทก์ที่ 4ได้
ข้อเท็จจริงฟังได้ว่ารถของโจทก์ที่ 1 ชนกับรถของจำเลยที่ 2 เพราะส. ซึ่งเป็นคนขับรถของโจทก์ที่ 1และจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็น คนขับรถของจำเลยที่ 2 ขับรถโดยประมาทเลินเล่อด้วยกันทั้งสองฝ่าย แต่จำเลยที่ 1เป็นฝ่ายประมาทเลินเล่อมากกว่ากรณีเช่นนี้ จำเลยที่2 ซึ่งเป็นฝ่ายผิดมากกว่าก็ไม่มีสิทธิที่จะฟ้องให้โจทก์ที่ 1 ซึ่งเป็น ฝ่ายผิดน้อยกว่าให้รับผิดในความเสียหายของจำเลยที่ 2 ได้ ปัญหาดังกล่าวนี้เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนซึ่ง ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้
of 81