พบผลลัพธ์ทั้งหมด 807 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2414/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคืนเงินของกลางในคดีปล้นทรัพย์: เงินของกลางไม่ใช่ค่าสินไหมทดแทนของผู้เสียหาย
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยปล้นเอาธนบัตร 4,000 บาทของเจ้าทรัพย์ไปต่อมาจับจำเลยได้และได้ธนบัตรรวม 1,780 บาทจากจำเลยที่ 2เป็นของกลาง ขอให้ลงโทษและคืนธนบัตร 1,780 บาทของกลางแก่เจ้าทรัพย์และให้จำเลยคืนหรือใช้ธนบัตรอีก 2,220 บาท ที่ยังไม่ได้คืนแก่เจ้าทรัพย์ด้วย เมื่อเงินของกลาง 1,780 บาทนี้ผู้เสียหายมิได้เป็นเจ้าของ แม้จะเป็นของคนร้ายที่ร่วมปล้นซึ่งต้องใช้คืนผู้เสียหายอยู่แล้วการที่จะพิพากษาให้คืนแก่ผู้เสียหายนั้น ย่อมไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 49, 50 และเมื่อเงินของกลางนี้ไม่อาจถือว่าเป็นค่าสินไหมทดแทนอันผู้เสียหายจะพึงได้รับด้วยการที่ศาลสั่งคืนให้แล้วก็ย่อมไม่ต้องนำไปหักออกจากจำนวนค่าเสียหายทั้งหมดที่โจทก์คิดคำนวณมาในฟ้อง จำนวนเงิน 1,780 บาทนี้จึงกลับไปรวมอยู่ในจำนวนค่าเสียหาย 4,000 บาทซึ่งโจทก์ฟ้องว่าผู้เสียหายพึงได้รับค่าสินไหมทดแทน ศาลย่อมพิพากษาให้จำเลยร่วมกันคืนหรือใช้เงิน 4,000 บาท แก่ผู้เสียหายธนบัตรของกลาง 1,780 บาทให้คืนจำเลยที่ 2
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2366/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เงินที่ได้รับจากการประนีประนอมยอมความ ไม่ถือเป็นค่าสินไหมทดแทนเพื่อละเมิด จึงไม่ได้รับการยกเว้นภาษี
โจทก์จำเลยต่างฟ้องคดีซึ่งกันและกันทั้งทางแพ่งและทางอาญาต่อมาทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันในคดีแพ่งที่โจทก์ฟ้องจำเลยคืนค่าหุ้นและแบ่งผลกำไร โดยจำเลยยอมชำระเงินให้โจทก์250,000 บาท และโจทก์จำเลยยอมเลิกคดีที่พิพาทกันทุกคดีเงินจำนวน 250,000 บาทที่โจทก์ได้รับเพื่อเป็นการระงับข้อพิพาทในคดีที่โจทก์ฟ้องขอคืนค่าหุ้นและแบ่งผลกำไร อันเป็นการใช้สิทธิเรียกร้องตามสัญญา จึงไม่ใช่ค่าสินไหมทดแทนเพื่อละเมิด แม้จะมีคดีอาญาที่โจทก์ฟ้องจำเลยหาว่าปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมเป็นส่วนช่วยให้การประนีประนอมยอมความในคดีแพ่งดังกล่าวเป็นผลสำเร็จลงได้ แต่เมื่อไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้เรียกเอาค่าเสียหายอะไรในคดีอาญานั้นด้วย จะถือว่าเงินนั้นเป็นค่าสินไหมทดแทนเพื่อละเมิดยังไม่ได้ เงินจำนวน 250,000 บาทนี้จึงไม่เป็นค่าสินไหมทดแทนเพื่อละเมิดอันจะได้รับยกเว้นจากการเสียภาษีเงินได้ตามประมวลรัษฎากร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2366/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เงินชำระตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ไม่ถือเป็นค่าสินไหมทดแทนเพื่อละเมิด จึงไม่ได้รับการยกเว้นภาษี
โจทก์จำเลยต่างฟ้องคดีซึ่งกันและกันทั้งทางแพ่งและทางอาญาต่อมาทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันในคดีแพ่งที่โจทก์ฟ้องจำเลยคืนค่าหุ้นและแบ่งผลกำไร โดยจำเลยยอมชำระเงินให้โจทก์ 250,000 บาท และโจทก์จำเลยยอมเลิกคดีที่พิพาทกันทุกคดีเงินจำนวน 250,000 บาทที่โจทก์ได้รับเพื่อเป็นการระงับข้อพิพาทในคดีที่โจทก์ฟ้องขอคืนค่าหุ้นและแบ่งผลกำไร อันเป็นการใช้สิทธิเรียกร้องตามสัญญา จึงไม่ใช่ค่าสินไหมทดแทนเพื่อละเมิด แม้จะมีคดีอาญาที่โจทก์ฟ้องจำเลยหาว่าปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม เป็นส่วนช่วยให้การประนีประนอมยอมความในคดีแพ่งดังกล่าวเป็นผลสำเร็จลงได้ แต่เมื่อไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้เรียกเอาค่าเสียหายอะไรในคดีอาญานั้นด้วย จะถือว่าเงินนั้นเป็นค่าสินไหมทดแทนเพื่อละเมิดยังไม่ได้ เงินจำนวน 250,000 บาทนี้จึงไม่เป็นค่าสินไหมทดแทนเพื่อละเมิดอันจะได้รับยกเว้นจากการเสียภาษีเงินได้ตามประมวลรัษฎากร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1360/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การละเมิดเครื่องหมายการค้า: การใช้เครื่องหมายการค้าที่คล้ายคลึงกันจนทำให้ประชาชนหลงผิด
โจทก์จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า 'GANTRISIN'ในสินค้าจำพวก 3 เป็นผลิตภัณฑ์ยาสำหรับรักษาโรคมนุษย์และได้ขายยาที่มีเครื่องหมายนี้มากว่า 10 ปีแล้ว จำเลยเพิ่งผลิตยาใช้เครื่องหมายการค้าว่า 'KANDICIN' ออกจำหน่ายได้ 2 ปี เครื่องหมายการค้าของโจทก์กับของจำเลยเป็นอักษรโรมันใช้ภาษาต่างประเทศเป็นลักษณะสำคัญ ลักษณะและจำนวนตัวอักษรไล่เรี่ยกัน มีสามพยางค์เท่ากัน การอ่านออกสำเนียงพื้นเสียงอักษรที่นำหน้าก็ดี พยางค์ที่ 2 และที่ 3 ก็ดี คล้ายกันและเหมือนกันของโจทก์อ่านออกเสียงได้ว่า 'กันทริสซิน' หรือ 'กานตริซิน' ของจำเลยว่า 'แคนดิซิน' หรือ 'คานดิซิน' เป็นสำเนียงที่ใกล้เคียงคล้ายกันมากเม็ดยา ขนาดและสีก็อย่างเดียวกัน ตัวอักษรที่พิมพ์ทับกันบนเม็ดยาก็คล้ายกัน และต่างก็ใช้กับยาปฏิชีวนะเหมือนกัน จึงถือได้ว่าจำเลยได้ใช้ เครื่องหมายการค้าเลียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์ ทำให้ประชาชนหลงผิดในแหล่งกำเนิดของสินค้า เป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1360/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การละเมิดเครื่องหมายการค้า: การใช้เครื่องหมายคล้ายกันจนทำให้ประชาชนหลงผิดถึงแหล่งที่มาของสินค้า
โจทก์จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า 'GANTRISIN' ในสินค้าจำพวก 3 เป็นผลิตภัณฑ์ยาสำหรับรักษาโรคมนุษย์ และได้ขายยาที่มีเครื่องหมายนี้มากว่า 10 ปีแล้ว จำเลยเพิ่งผลิตยาใช้เครื่องหมายการค้าว่า 'KANDICIN' ออกจำหน่ายได้ 2 ปี เครื่องหมายการค้าของโจทก์กับของจำเลยเป็นอักษรโรมัน ใช้ภาษาต่างประเทศเป็นลักษณะสำคัญ ลักษณะและจำนวนตัวอักษรไล่เรี่ยกัน มีสามพยางค์เท่ากัน การอ่านออกสำเนียงพื้นเสียงอักษรที่นำหน้าก็ดี พยางค์ที่ 2 และที่ 3 ก็ดี คล้ายกันและเหมือนกัน ของโจทก์อ่านออกเสียงได้ว่า 'กันทริสซิน'หรือ'การตริซิน' ของจำเลยว่า 'แคนดิซิน'หรือ'คานดิซิน' เป็นสำเนียงที่ใกล้เคียงคล้ายกันมาก เม็ดยา ขนาดและสีก็อย่างเดียวกัน ตัวอักษรที่พิมพ์ทับกันบนเม็ดยาก็คล้ายกัน และต่างก็ใช้กับยาปฏิชีวนะเหมือนกัน จึงถือได้ว่าจำเลยได้ใช้ เครื่องหมายการค้าเลียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์ ทำให้ประชาชนหลงผิดในแหล่งกำเนิดของสินค้า เป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 935/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้ขับรถเมล์ต่อการบาดเจ็บและเสียชีวิตของผู้โดยสารที่เกาะห้อยโหน รวมถึงค่าสินไหมทดแทน
ผู้ตายห้อยโหนที่บันไดท้ายรถเพราะคนโดยสารแน่น คนขับทราบว่ามีผู้โดยสารเกาะห้อยโหนอยู่ แต่ได้ขับแซงรถคันที่จอดอยู่ข้างหน้าจนท้ายรถเบียดชิด เป็นเหตุให้ผู้ตายฟาดกับรถที่จอดอยู่พลัดตกลงมาถึงแก่ความตาย ดังนี้เป็นผลโดยตรงอันเกิดจากความประมาทของคนขับ แม้ผู้ตายจะมีส่วนผิดอยู่ด้วย ในการที่ไปเกาะห้อยโหนอยู่ที่บันไดรถ ก็ไม่ทำให้คนขับพ้นความรับผิดจากความประมาทเลินเล่อดังกล่าวได้
ผู้ตายมีสร้อยคอทองคำ พระเครื่องและเงินสดติดตัว ไดสูญหายไปเพราะเหตุที่เกิดขึ้น เช่นนี้ จำเลยในฐานะผู้ขนส่งและนายจ้างจึงต้องรับผิด
การที่บุตรตายลงไป ย่อมทำให้บิดามารดาต้องขาดไร้อุปการะตามกฎหมายทั้งนี้โดยไม่ต้องพิจารณาว่าในปัจจุบันผู้ตายจะได้อุปการะบิดามารดาอยู่หรือไม่ บิดามารดาชอบที่จะได้รับค่าสินไหมทดแทนในการที่ต้องขาดไร้อุปการะนั้น
ผู้ตายมีสร้อยคอทองคำ พระเครื่องและเงินสดติดตัว ไดสูญหายไปเพราะเหตุที่เกิดขึ้น เช่นนี้ จำเลยในฐานะผู้ขนส่งและนายจ้างจึงต้องรับผิด
การที่บุตรตายลงไป ย่อมทำให้บิดามารดาต้องขาดไร้อุปการะตามกฎหมายทั้งนี้โดยไม่ต้องพิจารณาว่าในปัจจุบันผู้ตายจะได้อุปการะบิดามารดาอยู่หรือไม่ บิดามารดาชอบที่จะได้รับค่าสินไหมทดแทนในการที่ต้องขาดไร้อุปการะนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 935/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้ขับรถโดยประมาททำให้ผู้โดยสารเสียชีวิต แม้ผู้โดยสารมีส่วนประมาท แต่จำเลยยังต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทน
ผู้ตายห้อยโหนที่บันไดท้ายรถเพราะคนโดยสารแน่นคนขับทราบว่ามีผู้โดยสารเกาะห้อยโหนอยู่ แต่ได้ขับแซงรถคันที่จอดอยู่ข้างหน้าจนท้ายรถเบียดชิด เป็นเหตุให้ผู้ตายฟาดกับรถที่จอดอยู่พลัดตกลงมาถึงแก่ความตาย ดังนี้เป็นผลโดยตรงอันเกิดจากความประมาทของคนขับ แม้ผู้ตายจะมีส่วนผิดอยู่ด้วย ในการที่ไปเกาะห้อยโหนอยู่ที่บันไดรถก็ไม่ทำให้คนขับพ้นความรับผิดจากความประมาทเลินเล่อดังกล่าวได้
ผู้ตายมีสร้อยคอทองคำ พระเครื่องและเงินสดติดตัวได้สูญหายไปเพราะเหตุที่เกิดขึ้น เช่นนี้ จำเลยในฐานะผู้ขนส่งและนายจ้างจึงต้องรับผิด
การที่บุตรตายลงไป ย่อมทำให้บิดามารดาต้องขาดไร้อุปการะตามกฎหมายทั้งนี้โดยไม่ต้องพิจารณาว่าในปัจจุบันผู้ตายจะได้อุปการะบิดามารดาอยู่หรือไม่ บิดามารดาชอบที่จะได้รับค่าสินไหมทดแทนในการที่ต้องขาดไร้อุปการะนั้น
ผู้ตายมีสร้อยคอทองคำ พระเครื่องและเงินสดติดตัวได้สูญหายไปเพราะเหตุที่เกิดขึ้น เช่นนี้ จำเลยในฐานะผู้ขนส่งและนายจ้างจึงต้องรับผิด
การที่บุตรตายลงไป ย่อมทำให้บิดามารดาต้องขาดไร้อุปการะตามกฎหมายทั้งนี้โดยไม่ต้องพิจารณาว่าในปัจจุบันผู้ตายจะได้อุปการะบิดามารดาอยู่หรือไม่ บิดามารดาชอบที่จะได้รับค่าสินไหมทดแทนในการที่ต้องขาดไร้อุปการะนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 524/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิกรรมสิทธิ์เหนือที่ดิน: คำสั่งศาลเดิมไม่ผูกพันบุคคลภายนอก ผู้มีสิทธิดีกว่าย่อมมีสิทธิเหนือกว่า
จำเลยเคยยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งแสดงว่าจำเลยมีกรรมสิทธิ์ในที่พิพาทซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในที่ดินโฉนดของโจทก์ จนศาลได้มีคำสั่งว่าจำเลยมีกรรมสิทธิ์ในที่พิพาทในคดีดังกล่าวแล้วก็ตาม แต่โจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกคดีดังกล่าว พิสูจน์ได้ว่าตนมีสิทธิดีกว่าจำเลยที่พิพาทจึงยังเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ คำสั่งของศาลดังกล่าวย่อมไม่ผูกพันโจทก์ จำเลยจึงนำคำสั่งดังกล่าวมาอ้างใช้ยันโจทก์ไม่ได้และเมื่อโจทก์แจ้งให้จำเลยออกจากที่พิพาทแล้ว จำเลยไม่ยอมออกไปจึงถือได้ว่าจำเลยอยู่โดยละเมิด
โจทก์สืบเรื่องค่าเสียหายแล้ว แต่ศาลเห็นว่าโจทก์ไม่ควรได้รับค่าเสียหายถึงขนาดนั้น ศาลย่อมมีอำนาจกำหนดค่าเสียหายได้ตามสมควรแก่พฤติการณ์
โจทก์สืบเรื่องค่าเสียหายแล้ว แต่ศาลเห็นว่าโจทก์ไม่ควรได้รับค่าเสียหายถึงขนาดนั้น ศาลย่อมมีอำนาจกำหนดค่าเสียหายได้ตามสมควรแก่พฤติการณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 524/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเจ้าของที่ดินเหนือคำสั่งศาล: บุคคลภายนอกคดีพิสูจน์สิทธิเหนือกว่าคำสั่งเดิมได้
จำเลยเคยยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งแสดงว่าจำเลยมีกรรมสิทธิ์ในที่พิพาทซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในที่ดินโฉนดของโจทก์ จนศาลได้มีคำสั่งว่าจำเลยมีกรรมสิทธิ์ในที่พิพาทในคดีดังกล่าวแล้วก็ตาม แต่โจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกคดีดังกล่าว พิสูจน์ได้ว่าตนมีสิทธิดีกว่าจำเลย ที่พิพาทจึงยังเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ คำสั่งของศาลดังกล่าวย่อมไม่ผูกพันโจทก์ จำเลยจึงนำคำสั่งดังกล่าวมาอ้างใช้ยันโจทก์ไม่ได้ และเมื่อโจทก์แจ้งให้จำเลยออกจากที่พิพาทแล้ว จำเลยไม่ยอมออกไป จึงถือได้ว่าจำเลยอยู่โดยละเมิด
โจทก์สืบเรื่องค่าเสียหายแล้ว แต่ศาลเห็นว่าโจทก์ไม่ควรได้รับค่าเสียหายถึงขนาดนั้น ศาลย่อมมีอำนาจกำหนดค่าเสียหายได้ตามสมควรแก่พฤติการณ์
โจทก์สืบเรื่องค่าเสียหายแล้ว แต่ศาลเห็นว่าโจทก์ไม่ควรได้รับค่าเสียหายถึงขนาดนั้น ศาลย่อมมีอำนาจกำหนดค่าเสียหายได้ตามสมควรแก่พฤติการณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 450/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดร่วมของนายจ้างต่อละเมิดของลูกจ้าง และการประเมินค่าเสียหายที่ครอบคลุมทั้งกายและจิตใจ
จำเลยที่ 3 ได้รับสัมปทานเดินรถ และได้รับรถคันที่จำเลยที่ 1 ขับให้วิ่งร่วมในเส้นทางที่ได้รับสัมปทานมีชื่อบริษัทจำเลยที่ 3 ที่ข้างรถ จำเลยที่ 3ควบคุมการเดินรถ กำหนดอัตราค่าโดยสาร และได้รับประโยชน์ตอบแทน คือ เรียกค่าธรรมเนียมจากรถที่เข้าร่วมเส้นทางและคิดค่าจอดรถเป็นรายวัน เช่นนี้ จึงถือได้ว่าจำเลยที่ 3 ได้มีและใช้รถคันเกิดเหตุในกิจการเดินรถของจำเลยที่ 3 เมื่อจำเลยที่ 1 เป็นผู้ทำละเมิดเสียหายต่อโจทก์จำเลยที่ 3 ผู้เป็นนายจ้างก็ต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 1
ค่าจ้างนางพยาบาลเฝ้าไข้ ค่ายา ค่าจ้างรถแท็กซี่ที่ภรรยาไปเฝ้าเยี่ยมปรนนิบัติที่โรงพยาบาล ค่าจ้างรถแท็กซี่นั่งไปทำงานเพราะยังเดินไม่ได้ เป็นค่าเสียหายที่โจทก์เรียกร้องเอาจากจำเลยได้
การที่โจทก์ต้องพิการ.ไม่สามารถเดินได้ อย่างคนธรรมดาเสียสมรรถภาพในการรับราชการทหาร ทั้งไม่สามารถทำงานหนักได้ ถือได้ว่าโจทก์สูญเสียความสามารถประกอบการงานในภายหน้า
ค่าจ้างนางพยาบาลเฝ้าไข้ ค่ายา ค่าจ้างรถแท็กซี่ที่ภรรยาไปเฝ้าเยี่ยมปรนนิบัติที่โรงพยาบาล ค่าจ้างรถแท็กซี่นั่งไปทำงานเพราะยังเดินไม่ได้ เป็นค่าเสียหายที่โจทก์เรียกร้องเอาจากจำเลยได้
การที่โจทก์ต้องพิการ.ไม่สามารถเดินได้ อย่างคนธรรมดาเสียสมรรถภาพในการรับราชการทหาร ทั้งไม่สามารถทำงานหนักได้ ถือได้ว่าโจทก์สูญเสียความสามารถประกอบการงานในภายหน้า