คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 438

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 807 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 844/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งเท็จขัดขวางการอุปสมบท ทำให้เกิดความเสียหาย เจ้าภาพมีสิทธิฟ้อง
การที่จำเลยไปแจ้งต่อผู้ใหญ่บ้านว่า เขาเป็นผู้ร้ายปล้นทรัพย์ฆ่าคน ซึ่งจำเลยรู้อยู่ว่าไม่เป็นความจริงทั้งนี้เพื่อให้ผู้ใหญ่บ้านคัดค้านต่อพระอุปัชฌาย์ ผู้ใหญ่บ้านมีหนังสือถึงพระอุปัชฌาย์ พระอุปัชฌาย์จึงไม่บวชเขานั้น นับได้ว่าจำเลยกระทำละเมิดแล้ว พี่ชายของเขาผู้เป็นเจ้าภาพและออกเงินซื้อของในการอุปสมบท ย่อมมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยได้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 5/2494)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1275/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายทรัพย์สินที่ถูกลักมาโดยสุจริต ผู้ซื้อไม่ต้องรับผิดต่อเจ้าของเดิมหากทรัพย์สินเปลี่ยนมือไปแล้ว
สิ่งของที่คนร้ายลักมาขายไว้ที่ร้านแห่งหนึ่ง แม้ร้านนั้นจะไม่ได้อยู่ในท้องตลาดก็ดีเมื่อผู้ซื้อได้ซื้อสิ่งของนั้นจากร้านนั้นโดยสุจริต แล้วขายต่อไปโดยสุจริตดังนี้ยังเรียกว่าผู้ซื้อทำละเมิดต่อเจ้าของสิ่งของนั้นมิได้
การที่ผู้ซื้อรับซื้อสิ่งของนั้นจากร้าน ซึ่งไม่ได้อยู่ในท้องตลาด ถ้าทรัพย์นั้นยังอยู่ในความครอบครองของผู้ซื้อ ก.ม.ก็ให้เจ้าของใช้สิทธิติดตามเรียกเอาคืนได้โดยไม่ต้องใช้ราคาแต่เมื่อผู้รับซื้อ ซื้อไว้โดยสุจริตแล้วขายต่อไปแล้วโดยสุจริตสิ่งของนั้นจึงไม่ได้อยู่ในความครอบครองของผู้ซื้อแล้ว เจ้าของก็จะเรียกให้ผู้รับซื้อชดใช้ราคาสิ่งของนั้นให้ตนไม่ได้
(ประชุมใหญ่)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1275/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายทรัพย์สินที่ถูกลักมาโดยสุจริต: สิทธิเรียกร้องของเจ้าของ
สิ่งของที่คนร้ายลักมาขายไว้ที่ร้านแห่งหนึ่ง แม้ร้านนั้นจะไม่ได้อยู่ในท้องตลาดก็ดี เมื่อผู้ซื้อได้ซื้อสิ่งของนั้นจากร้านนั้นโดยสุจริต แล้วขายต่อไป โดยสุจริต ดังนี้ ยังเรียกว่าผู้ซื้อทำละเมิดต่อเจ้าของสิ่งของนั้นมิได้
การที่ผู้ซื้อรับซื้อสิ่งของนั้นจากร้าน ซึ่งไม่ได้อยู่ในท้องตลาด ถ้าทรัพย์นั้นยังอยู่ในความครอบครองของผู้ซื้อ กฎหมายก็ให้เจ้าของใช้สิทธิติดตามเรียกเอาคืนได้โดยไม่ต้องใช้ราคา แต่เมื่อผู้รับซื้อ ซื้อไว้โดยสุจริตแล้วขายต่อไปแล้วโดยสุจริต สิ่งของนั้นจึงไม่ได้อยู่ในความครอบครองของผู้รับซื้อแล้ว เจ้าของก็จะเรียกให้ผู้รับซื้อชดใช้ราคาสิ่งของนั้นให้ตนไม่ได้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 15/2493)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1120/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์ค่าเสียหายในคดีมูลละเมิดและการห้ามฎีกาเมื่อศาลอุทธรณ์แก้ไขจำนวนค่าเสียหายเล็กน้อย
ฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายอันเกิดแต่มูลละเมิดนั้น ค่าเสียหายที่แท้จริงมีเท่าใด เป็นข้อเท็จจริงที่ต้องพิสูจน์ เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้จำนวนค่าเสียหายจากเจ็ดร้อยบาทเศษเป็นสี่ร้อยบาทเศษจึงเป็นการแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1120/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพากษาแก้ไขจำนวนค่าเสียหายเล็กน้อยในคดีมูลละเมิดไม่อาจฎีกาได้ตามมาตรา 248
ฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายอันเกิดแต่มูลละเมิดนั้นค่าเสียหายที่แท้จริงมีเท่าใด เป็นข้อเท็จจริงที่ต้องพิศูจน์เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้จำนวนค่าเสียหายจากเจ็ดร้อยบาทเศษเป็นเจ็ดร้อยบาท ถ้วนจึงเป็นการแก้ไข เล็กน้อย ต้องห้ามฎีกาตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 248

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 932/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำในคดีละเมิด: การฟ้องเรียกค่าเสียหายซ้ำหลังศาลสั่งให้คืนทรัพย์สินแล้ว
การฟ้องซ้ำเป็นเรื่องเกี่ยวแก่ความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน ศาลชอบที่จะยกขึ้นวินิจฉัยได้เอง
คดีก่อนโจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ ห้ามมิให้จำเลยเกี่ยวข้อง เนื่องด้วยจำเลยกระทำละเมิดสมคบกันเอาที่ของโจทก์ไปขายศาลพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีตามคำขอแล้ว ผลจึงเป็นว่าโจทก์ได้ฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนในการทำละเมิดของจำเลยที่ได้ทำมาแล้ว โจทก์จะกลับมาฟ้องเรื่องละเมิดเดิมนี้ โดยเรียกค่าสินไหมทดแทนที่ยังไม่ได้เรียกร้องไว้ จึงเป็นการฟ้องซ้ำ
(อ้างฎีกาที่ 957/2492)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 932/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำในคดีละเมิด: การฟ้องเรียกค่าเสียหายซ้ำหลังจากศาลตัดสินให้คืนทรัพย์สินแล้ว ถือเป็นการฟ้องซ้ำ
การฟ้องซ้ำเป็นเรื่องเกี่ยวแก่ความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน ศาลชอบที่จะยกขึ้นวินิจฉัยได้เอง
คดีก่อนโจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ห้ามมิให้จำเลยเกี่ยวข้อง เนื่องด้วยจำเลยกระทำละเมิดสมคบกันเอาที่ของโจทก์ไปขาย ศาลพิพากษาให้โจทก์ชะนะคดีตามคำขอแล้ว ผลจึงเป็นว่าโจทก์ได้ฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนในการทำละเมิดของจำเลยที่ได้ทำมาแล้ว โจทก์จะกลับมาฟ้องเรื่องละเมิดเดิมนี้โดยเรียกค่าสินไหมทดแทนที่ยังไม่ได้เรียกร้องไว้ จึงเป็นการฟ้องซ้ำ
(อ้างฎีกาที่ 957/2492)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 820/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคืนทรัพย์สินเดิมเมื่อไม่มีความเสียหาย: โจทก์มีสิทธิรับคืนทรัพย์สินที่ยังอยู่ แม้ฟ้องเรียกค่าเสียหายไม่ได้
ฟ้องหาว่าจำเลยลักทรัพย์และทำให้เสียทรัพย์ กับให้ใช้ทรัพย์เมื่อปรากฏว่าทรัพย์ที่พิพาทยังอยู่หาได้ถูกทำลายสูญไปไม่เมื่อศาลตัดสินว่า โจทก์เป็นเจ้าของก็ชอบที่โจทก์จะได้รับคืนไป ศาลจะพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายไม่ได้เพราะเป็นเรื่องนอกความประสงค์ของโจทก์ไม่มีประเด็นที่จะพิจารณาข้อค่าเสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 820/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคืนทรัพย์สิน: โจทก์มีสิทธิรับคืนทรัพย์สินเมื่อยังอยู่ครบถ้วน แม้มีการฟ้องร้องทำลายทรัพย์สิน
ฟ้องหาว่าจำเลยลักทรัพย์และทำให้เสียทรัพย์ กับให้ใช้ทรัพย์เมื่อปรากฏว่าทรัพย์ที่พิพาทยังอยู่หาได้ถูกทำลายสูญไป เมื่อศาลตัดสินว่า โจทก์เป็นเจ้าของก็ชอบที่ดจทก์จะได้รับคืนไป ศาลจะพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องนอกความประสงค์ของโจทก์ ไม่มีประเด็นที่จะพิจารณาข้อค่าเสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 957/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องซ้ำในคดีละเมิด: การเรียกร้องค่าเสียหายซ้ำซ้อนหลังมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยทำละเมิดต่อโจทก์ ขอให้จำเลยทำทำนบให้ดีตามสภาพเดิม หรือให้ใช้ราคาแล้ว โจทก์ควรจะฟ้องเรียกค่าเสียหายฐานขาดประโยชน์เพราะน้ำไม่เข้านา ทำนาไม่ได้ หรือได้ผลน้อยเสียในคดีเรื่องนั้น เมื่อโจทก์แยกมาฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นอีกสำนวนหนึ่ง ดังนี้ เป็นการฟ้องซ้ำ.
of 81