คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 176

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 191 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1190/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิออกเสียงเจ้าหนี้ในที่ประชุม & ผลของมติที่ประชุมเจ้าหนี้ตามกฎหมายล้มละลาย
คดีล้มละลาย หนี้จำพวกที่อาจขอรับชำระหนี้ได้ และได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ไว้แล้วก่อนวันประชุมเจ้าหนี้นั้น เจ้าหนี้ย่อมมสิทธิออกเสียงในที่ประชุมได้ และเมื่อไม่ปรากฏว่าเจ้าหนี้ที่มาประชุมคัดค้านการออกเสียงของเจ้าหนี้รายนี้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงไม่ต้องสั่งบั่นทอนในการออกเสียงของเจ้าหนี้นั้น และถือว่าเป็นการออกเสียงที่มีผลตามกฎหมาย เมื่อจำนวนหนี้ของเจ้าหนี้ฝ่ายที่ลงมติฝ่ายนี้มีมากกว่าอีกฝ่ายหนึ่ง ต้องถือว่ามติของเจ้าหนี้ฝ่ายที่มีจำนวนหนี้ข้างมากนี้เป็นมติของที่ประชุมด้วย
คดีที่ศาลฎีกาพิพากษาย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาต่อไปในฐานะที่โจทก์มีสทิธิดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปได้นั้น ไม่ใช่เป็นคำพิพากษาบังคับให้โจทก์จำต้องดำเนินคดีอย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1190/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิออกเสียงเจ้าหนี้ในที่ประชุม, มติที่ประชุมเจ้าหนี้มีผลผูกพัน, การถอนฟ้องคดีไม่ขัดต่อคำพิพากษา
คดีล้มละลาย หนี้จำพวกที่อาจขอรับชำระหนี้ได้ และได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ไว้แล้วก่อนวันประชุมเจ้าหนี้นั้น เจ้าหนี้ย่อมมีสิทธิออกเสียงในที่ประชุมได้ และเมื่อไม่ปรากฏว่าเจ้าหนี้ที่มาประชุมคัดค้านการออกเสียงของเจ้าหนี้รายนี้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงไม่ต้องสั่งบั่นทอนในการออกเสียงของเจ้าหนี้นั้น และถือว่าเป็นการออกเสียงที่มีผลตามกฎหมายเมื่อจำนวนหนี้ของเจ้าหนี้ฝ่ายที่ลงมติฝ่ายนี้มีมากกว่าอีกฝ่ายหนึ่ง ต้องถือว่ามติของเจ้าหนี้ฝ่ายที่มีจำนวนหนี้ข้างมากนี้เป็นมติของที่ประชุมด้วย
คดีที่ศาลฎีกาพิพากษาย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาต่อไปในฐานะที่โจทก์มีสิทธิดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปได้นั้น ไม่ใช่เป็นคำพิพากษาบังคับให้โจทก์จำต้องดำเนินคดีอย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1193/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนฟ้องหลังให้การแล้วและผลกระทบต่อจำเลย ศาลพิจารณาถึงสิทธิของจำเลยและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
โจทก์ฟ้องและจำเลยยื่นคำให้การแล้วก่อนวันชี้สองสถานหนึ่งวัน โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้อง ศาลสั่งให้ส่งสำเนาให้จำเลย ถึงวันชี้สองสถานศาลยังไม่ได้สั่งคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้อง โจทก์ขอถอนฟ้องจำเลยคัดค้านว่าทำให้จำเลยเสียหาย ดังนี้ ศาลไม่อนุญาตให้ถอนฟ้อง ควรดำเนินกระบวนพิจารณาให้เป็นผลเสร็จเด็ดขาดไปในคดีนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1193/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนฟ้องซ้ำ: ผลกระทบต่อจำเลยและความเป็นธรรมในการดำเนินคดี
โจทก์ฟ้องและจำเลยยื่นคำให้การแล้วก่อนวันชี้สองสถานหนึ่งวัน โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้อง ศาลสั่งให้ส่งสำเนาให้จำเลย ถึงวันชี้สองสถานศาลยังไม่ได้สั่งคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้อง โจทก์ขอถอนฟ้อง จำเลยคัดค้านว่าทำให้จำเลยเสียหาย ดังนี้ศาลไม่อนุญาตให้ถอนฟ้อง ควรดำเนินกระบวนพิจารณาให้เป็นผลเสร็จเด็ดขาดไปในคดีนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 520/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีกู้ยืม แม้ลงชื่อบริษัทแทนตัวการ โจทก์มีอำนาจฟ้องได้ และการฟ้องซ้ำหลังถอนฟ้อง
คำบรรยายฟ้องว่า จำเลยกู้เงินโจทก์ แต่ลงชื่อบริษัทนิยมวานิช จำกัดเป็นเจ้าของเงิน จำเลยให้การว่า เอกสารท้ายฟ้องระบุชัดว่า เป็นการยืมเงินจากห้างนิยมพานิช ซึ่งเป็นบริษัทจำกัด โจทก์ในฐานะส่วนตัว ไม่มีอำนาจฟ้อง ดังนี้ เมื่อจำเลยไม่ได้ปฏิเสธว่าไม่ได้กู้เงินของโจทก์ เป็นแต่ต่อสู้ว่าผู้อื่นเป็นผู้ให้กู้ จึงต้องฟังตามฟ้องว่าจำเลยทำสัญญากู้เงินของโจทก์ แม้จะลงชื่อคนอื่นในหนังสือสัญญากู้ ก็ย่อมมีลักษณะเป็นการลงชื่อไว้แทนโจทก์ โจทก์ซึ่งเป็นตัวการย่อมมีอำนาจฟ้องเรียกเงินกู้ได้
บรรยาย ฟ้องเรื่องกู้เงิน แม้ทางพิจารณาได้ความว่า การกู้เกิดจากการเล่นแชร์ จำเลยต้องรับผิดตามสัญญากู้แล้ว มูลกรณีแห่งการกู้ยืมเป็นมาอย่างไร ไม่ใช่เรื่องแตกต่างผิดไปจากฟ้อง
คดีมีการฟ้องร้องกันครั้งหนึ่งและได้ถอนฟ้องไปแล้ว ก็ไม่เป็นการต้องห้ามที่โจทก์จะฟ้องใหม่ได้ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 176

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 520/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกู้ยืมเงินแม้ลงชื่อบริษัทอื่น ก็ถือเป็นการลงชื่อแทนโจทก์ โจทก์มีอำนาจฟ้องได้
คำบรรยายฟ้องว่า จำเลยกู้เงินโจทก์แต่ลงชื่อบริษัทนิยมวานิช จำกัด เป็นเจ้าของเงิน จำเลยให้การว่าเอกสารท้ายฟ้องระบุชัดว่าเป็นการยืมเงินจากห้างนิยมพานิชซึ่งเป็นบริษัทจำกัดโจทก์ในฐานะส่วนตัวไม่มีอำนาจฟ้องดังนี้ เมื่อจำเลยไม่ได้ปฏิเสธว่าไม่ได้กู้เงินของโจทก์ เป็นแต่ต่อสู้ว่าผู้อื่นเป็นผู้ให้กู้จึงต้องฟังตามฟ้องว่าจำเลยทำสัญญากู้เงินของโจทก์แม้จะลงชื่อคนอื่นในหนังสือสัญญากู้ ก็ย่อมมีลักษณะเป็นการลงชื่อไว้แทนโจทก์ โจทก์ซึ่งเป็นตัวการย่อมมีอำนาจฟ้องเรียกเงินกู้ได้
บรรยายฟ้องเรื่องกู้เงิน แม้ทางพิจารณาได้ความว่า การกู้เกิดจากการเล่นแชร์จำเลยก็ต้องรับผิดตามสัญญากู้แล้วมูลกรณีแห่งการกู้ยืมเป็นมาอย่างไรเป็นเพียงรายละเอียดแห่งข้อเท็จจริงไม่ใช่เรื่องแตกต่างผิดไปจากฟ้อง
คดีมีการฟ้องร้องกันครั้งหนึ่งและได้ถอนฟ้องไปแล้วนั้น ก็ไม่เป็นการต้องห้ามที่โจทก์จะฟ้องใหม่ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 176

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 581/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทิ้งฎีกา: ผลกระทบต่อการดำเนินคดีและการจำหน่ายคดีออกจากสารบบ
ศาลชั้นต้นสั่งรับเป็นฎีกาและสั่งให้ส่งสำเนาให้อีกฝ่ายภายใน 15 วัน เพื่อแก้ฎีกา แต่คู่ความฝ่ายที่ยื่นฎีกาซึ่งทราบคำสั่งศาลนั้นแล้วเพิกเฉยไม่นำส่งหมายนัดและสำเนาฎีกาให้แก่อีกฝ่ายภายในเวลาตามที่ศาลกำหนดโดยไม่แจ้งให้ศาลทราบเหตุแห่งการเพิกเฉยเช่นนี้ ต้องถือว่าคู่ความฝ่ายที่ยื่นฎีกานั้นทิ้งฎีกาที่ศาลชั้นต้นสั่งรับไว้เสียแล้ว ย่อมลบล้างผลแห่งการยื่นฎีกานั้นเสมือนหนึ่งมิได้มีการยื่นฎีกาเลย ศาลฎีกาย่อมสั่งจำหน่ายคดี
หมายเหตุ เมื่อโจทก์ทิ้งฎีกา (ทิ้งฟ้อง) ศาลไม่มีอำนาจคืนค่าขึ้นศาล (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 8 / 2502)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1300-1315/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ละเมิดจากรถไฟชำรุด: ความประมาทเลินเล่อของเจ้าหน้าที่รถไฟทำให้เกิดเพลิงไหม้ แม้จะอ้าง พ.ร.บ.รถไฟ ก็ไม่ได้รับความคุ้มครอง
โจทก์ขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถาศาลไม่อนุญาตสั่งให้โจทก์นำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระ แม้โจทก์จะไม่นำเงินมาชำระภายในกำหนด ต่อมาภายหลังโจทก์ก็ยังมีสิทธิที่จะนำคดีมาฟ้องร้องได้ภายในกำหนดอายุความ
การที่กรมรถไฟใช้รถจักรเก่าจูงลากรถจนเป็นเหตุให้เกิดไฟไหม้เสมอๆ โดยมิได้ป้องกันแต่อย่างใดนั้น กรมรถไฟจะอ้างความคุ้มครองจาก พระราชบัญญัติจัดการวางรถไฟและทางหลวง พ.ศ.2464มาตรา 48 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1347/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนคำร้องบอกล้างนิติกรรมสัญญาประกันถือเป็นการสัตยาบัน ย่อมมีผลผูกพัน
ภรรยาไปทำสัญญาประกันผู้ต้องหาไว้กับศาล แล้วผิดสัญญาถูกศาลสั่งปรับ สามีจึงยื่นคำร้องบอกล้างนิติกรรมสัญญาประกันโดยว่าเป็นโมฆียกรรม แต่ก่อนศาลจะมีคำสั่งประการใดสามีกลับถอนคำร้องเสีย ดังนี้ ต้องถือว่าเท่ากับไม่ได้ยื่นคำบอกล้างไว้ และถือได้ว่าเป็นการให้สัตยาบันการกระทำของภรรยาไปในตัว ฉะนั้นในภายหลังสามีจะมาบอกล้างอีกไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1347/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนคำบอกล้างนิติกรรมและการสัตยาบันสัญญา
ภรรยาไปทำสัญญาประกันผู้ต้องหาไว้กับศาล แล้วผิดสัญญาถูกศาลสั่งปรับ สามีจึงยื่นคำร้องบอกล้างนิติกรรมสัญญาประกันโดยว่าเป็นโมฆียะกรรม แต่ก่อนศาลจะมีคำสั่งประการใดสามีกลับถอนคำร้องเสีย ดังนี้ ต้องถือว่าเท่ากับไม่ได้ยื่นคำบอกล้างไว้ และถือได้ว่าเป็นการให้สัตยาบันการกระทำของภรรยาไปในตัว ฉะนั้นในภายหลังสามีจะมาบอกล้างอีกไม่ได้
of 20