คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 213

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 389 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 387/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้ค่าที่ดินและการส่งมอบทรัพย์ ศาลฎีกาตัดสินให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญา หรือคืนเงินพร้อมดอกเบี้ย
ศาลฎีกาพิพากษาให้จำเลยรับเงินค่าที่ดินที่ยังค้างชำระ 248,500 บาทจากโจทก์แล้วให้จำเลยส่งมอบที่พิพาทให้แก่โจทก์ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1378 หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้จำเลยคืนเงิน 101,500 บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ยแก่โจทก์ดังนี้ ในชั้นบังคับคดีเมื่อโจทก์ยืนยันให้จำเลยปฏิบัติตามเงื่อนไขแรก และจำเลยก็แถลงว่าไม่มีเหตุขัดข้องที่จะไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขแรกจำเลยจึงจะเลือกปฏิบัติตามเงื่อนไขหลัง คือคืนเงินค่าที่ดินที่รับไว้เป็นเงิน 101,500 บาทพร้อมทั้งดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1776/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายที่ดิน น.ส.3: หน้าที่ของคู่สัญญาในการขอจดทะเบียนและผลของการผิดสัญญา
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความซื้อขายที่ดินมี น.ส.3 ต่างมีหน้าที่ต้องไปที่ว่าการอำเภอเพื่อร้องขอทำนิติกรรมซื้อขายที่ดินพิพาทตามสัญญา ซึ่งทางอำเภอจะต้องประกาศการขอจดทะเบียนสิทธิและนิตกรรมการขายดังกล่าวก่อนมีกำหนด 30 วัน หากไม่มีผู้คัดค้านจึงจะดำเนินการจดทะเบียนให้ต่อไปได้ การที่จำเลยไม่ยอมไปทำคำขอประกาศทำนิติกรรมซื้อขาย โดยเกี่ยงให้โจทก์ชำระค่าที่ดินให้ก่อน จำเลยย่อมเป็นฝ่ายผิดสัญญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1776/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายที่ดิน น.ส.3 หน้าที่ร่วมกันขอจดทะเบียน และผลของการผิดสัญญา
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความซื้อขายที่ดินมีน.ส.3 ต่างมีหน้าที่ต้องไปที่ว่าการอำเภอเพื่อร้องขอทำนิติกรรมซื้อขายที่ดินพิพาทตามสัญญา ซึ่งทางอำเภอจะต้องประกาศการขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมการขายดังกล่าวก่อนมีกำหนด 30 วัน หากไม่มีผู้คัดค้านจึงจะดำเนินการจดทะเบียนให้ต่อไปได้ การที่จำเลยไม่ยอมไปทำคำขอประกาศทำนิติกรรมซื้อขาย โดยเกี่ยงให้โจทก์ชำระค่าที่ดินให้ก่อน จำเลยย่อมเป็นฝ่ายผิดสัญญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1768/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิหุ้นส่วนในการตรวจบัญชีและการแสดงบัญชีของหุ้นส่วนผู้จัดการ
สามีจำเลยกับโจทก์ร่วมกันเข้าหุ้นตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัด ต่อมาสามีจำเลยตายโจทก์จำเลยตกลงให้กิจการของห้างดำเนินต่อไป โดยจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นจากสามีจำเลยเป็นจำเลย ทรัพย์สินของสามีจำเลยซึ่งมีอยู่ในห้างย่อมเป็นมรดกได้แก่จำเลย เมื่อจำเลยตกลงเข้าเป็นหุ้นส่วนกับโจทก์แทนที่สามีจำเลยก็เท่ากับจำเลยได้ลงหุ้นแล้ว
โจทก์ในฐานะหุ้นส่วนมีสิทธิที่จะไต่ถามถึงการงาน และมีสิทธิที่จะตรวจและคัดสำเนาสมุดบัญชีและเอกสารใด ๆ ของห้างได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1037 ประกอบด้วยมาตรา 1080 แม้จำเลยจะมีเอกสารของห้างหุ้นส่วนหรือไม่ก็ตาม แต่เมื่อโจทก์ขอให้จำเลยซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการแสดงบัญชีรายจ่ายพร้อมทั้งหลักฐานใบสำคัญการรับจ่ายเงินของห้างหุ้นส่วนตั้งแต่วันจำเลยเข้าดำเนินกิจการจนถึงปัจจุบัน ย่อมอยู่ในวิสัยที่จำเลยจะแสดงได้ หาใช่เป็นเรื่องสภาพแห่งหนี้ไม่เปิดช่องให้บังคับไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1768/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิหุ้นส่วนในการตรวจสอบบัญชีและการแสดงบัญชีรับจ่ายของห้างหุ้นส่วน
สามีจำเลยกับโจทก์ร่วมกันเข้าหุ้นตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัด ต่อมาสามีจำเลยตายโจทก์จำเลยตกลงให้กิจการของห้างดำเนินต่อไป โดยจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นจากสามีจำเลยเป็นจำเลย ทรัพย์สินของสามีจำเลยซึ่งมีอยู่ในห้างย่อมเป็นมรดกตกได้แก่จำเลย เมื่อจำเลยตกลงเข้าเป็นหุ้นส่วนกับโจทก์แทนที่สามีจำเลยก็เท่ากับจำเลยได้ลงหุ้นแล้ว
โจทก์ในฐานะหุ้นส่วนมีสิทธิที่จะไต่ถามถึงการงาน และมีสิทธิที่จะตรวจและคัดสำเนาสมุดบัญชีและเอกสารใด ๆของห้างได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1037 ประกอบด้วยมาตรา 1080แม้จำเลยจะมีเอกสารของห้างหุ้นส่วนหรือไม่ก็ตาม แต่เมื่อโจทก์ขอให้จำเลยซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการแสดงบัญชีรับจ่ายพร้อมทั้งหลักฐานใบสำคัญการรับจ่ายเงินของห้างหุ้นส่วนตั้งแต่วันจำเลยเข้าดำเนินกิจการจนถึงปัจจุบัน ย่อมอยู่ในวิสัยที่จำเลยจะแสดงได้ หาใช่เป็นเรื่องสภาพแห่งหนี้ไม่เปิดช่องให้บังคับไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1132/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การผูกพันตามข้อตกลงชำระหนี้และการจำนองที่ดินเพื่อประกันหนี้
โจทก์เข้าใจว่า ม. บุตรของจำเลยทั้งสองฉ้อโกงค่าน้ำมันโจทก์ จึงไปทำความตกลงกันที่สถานีตำรวจ ม. ยอมรับว่าเป็นหนี้โจทก์อยู่ และจำเลยที่ 1 ร่วมกับ ม. ยอมชำระเงินจำนวนหนึ่งให้โจทก์ก่อน ส่วนที่เหลือจำเลยที่ 1 เอา น.ส. 3 สามฉบับของจำเลยทั้งสองให้โจทก์ยึดถือเป็นประกันได้ทำบันทึกข้อตกลงดังกล่าวกันไว้ คดีอาญาจึงเลิกกัน รุ่งขึ้นโจทก์และจำเลยทั้งสองไปยื่นเรื่องราวขอทำจำนองที่ดินตาม น.ส.3 นั้นแก่โจทก์โดยระบุในคำขอด้วยว่าเพื่อประกันหนี้อันแสดงว่าเพื่อเป็นประกันหนี้ที่ ม. ค้างชำระจำเลยทั้งสองจึงผูกพันต่อโจทก์ที่ จะต้องปฏิบัติตามข้อตกลงต่อมาในระหว่างการประกาศโฆษณาจำเลยที่ 1 กลับจะขอถอนเรื่องราวคำขอจำนองและขอรับ น.ส.3 คืน โดยโจทก์ไม่รู้เห็นยินยอมด้วยหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2003/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำนองแยกจากหนี้ได้ เจ้าหนี้มีสิทธิบังคับชำระหนี้ได้ทั้งจากทรัพย์สินทั่วไปและทรัพย์สินที่จำนอง
การจำนองเป็นสัญญาเอาทรัพย์สินตราไว้เป็นการประกันหนี้ โดยมีหนี้ที่จะพึงต้องชำระแก่กันอันเป็นหนี้ประธาน และจำนองอันเป็นอุปกรณ์ของหนี้นั้น ซึ่งอาจแยกหนี้ที่จะต้องชำระแก่กัน และการจำนองออกเป็นคนละส่วนต่างหากจากกันได้ เจ้าหนี้จึงชอบที่จะใช้สิทธิ์เรียกร้องอย่างหนี้สามัญ หรือจะบังคับจำนองอย่างใดอย่างหนึ่งก็ย่อมทำได้ ไม่เป็นการหลีกเลี่ยงกฎหมายเรื่องจำนองหรือเป็นการใช้สิทธิ์โดยไม่สุจริต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2003/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำนองแยกจากหนี้ได้ เจ้าหนี้ใช้สิทธิเรียกร้องได้ทั้งทางหนี้สามัญและบังคับจำนอง ไม่ถือเป็นการหลีกเลี่ยงกฎหมาย
การจำนองเป็นสัญญาเอาทรัพย์สินตราไว้เป็นการประกันหนี้ โดยหนี้ที่จะพึงต้องชำระแก่กันอันเป็นหนี้ประธาน และจำนองอันเป็นหนี้อุปกรณ์ของหนี้นั้น ซึ่งอาจแยกหนี้ที่จะต้องชำระแก่กัน และการจำนองออกเป็นคนละส่วนต่างหากจากกันได้ เจ้าหนี้จึงชอบที่จะใช้สิทธิเรียกร้องอย่างหนี้สามัญ หรือจะบังคับจำนองอย่างใดอย่างหนึ่งก่อนย่อมทำได้ ไม่เป็นการหลีกเลี่ยงกฎหมายเรื่องจำนองหรือเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1051/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การผัดผ่อนชำระหนี้ซื้อขายที่ดิน ผู้ขายยินยอม ไม่ถือเป็นการผิดสัญญา
กำหนดชำระราคาซื้อที่ดินไว้ ผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อผัดชำระต่อไป ผู้ซื้อไม่ผิดสัญญา ผู้ขายต้องรับชำระราคาตามที่ให้ผัดไป และโอนขายตามสัญญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 149/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความผิดนัดชำระหนี้ ศาลสั่งโอนที่ดินได้ตามสัญญา
สัญญาประนีประนอมยอมความมีความว่า จำเลยจะผ่อนชำระเงินให้โจทก์เป็นงวด ๆ ละ 3 เดือน โดยให้จำเลยชำระงวดที่สองนับแต่วันที่ชำระงวดแรก ปรากฏว่าจำเลยได้ชำระเงินงวดแรกในวันที่ 20 สิงหาคม 2512 จำเลยจึงต้องชำระเงินงวดที่สองให้โจทก์ในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2512 และชำระเงินงวดที่สามในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2513 เมื่อจำเลยไม่ชำระเงินตามเวลาดังกล่าว ก็ต้องถือว่าจำเลยผิดสัญญา
สัญญาประนีประนอมยอมความมีความต่อไปว่า ถ้าจำเลยผิดนัดชำระเงินตั้งแต่งวดที่สอง สองงวดติดกัน ให้โจทก์ริบเอาที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างเป็นกรรมสิทธิ์ของโจกท์ได้ทันที และจำเลยต้องไปโอนใน 3 วัน ถ้าไม่ไปก็ให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย เช่นนี้ เห็นได้ว่า กำหนดเวลาที่จำเลยจะต้องโอนที่ดินดังกล่าวได้ล่วงพ้นมาตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2513 จำเลยจึงเป็นฝ่ายผิดนัดผิดสัญญาตามสัญญาประนีประนอมยอมความในข้อนี้อีกด้วย เมื่อศาลฎีกาไม่อนุญาตให้จำเลยทุเลาการบังคับตามสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าว ศาลชั้นต้นก็ชอบที่จะสั่งให้เจ้าพนักงานที่ดินโอนที่ดินให้แก่โจทก์ได้ หาใช่จะต้องมาเริ่มนับเวลาชำระหนี้กันใหม่ตั้งแต่วันถัดจากวันที่จำเลยฟังคำสั่งของศาลฎีกาที่ไม่อนุญาตให้จำเลยทุเลาการบังคับไม่ เพราะการให้ทุเลาการบังคับ เป็นเรื่องรอการบังคับไว้จนกว่าศาลจะพิพากษา เป็นคนละเรื่องกันกับกำหนดเวลาชำระหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความที่ศาลได้มีคำพิพากษาและมีคำบังคับตามยอมแล้ว
of 39