พบผลลัพธ์ทั้งหมด 389 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 161/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายไม่สมบูรณ์หากไม่ทำสัญญาหลัก การวางมัดจำยังไม่ผูกพัน
โจทก์ตกลงจะซื้อที่ดินพร้อมตึกแถวจากจำเลยด้วยเงินผ่อน. ได้วางเงินมัดจำไว้แล้ว.แต่มีข้อตกลงกันว่า จะทำหนังสือสัญญาจะซื้อขายกันอีกฉบับหนึ่ง เพื่อกำหนดการชำระเงินการแบ่งแยกโฉนดและการโอนกรรมสิทธิ์. หากโจทก์ไม่ทำสัญญาภายในกำหนด 1 เดือน ถือว่าโจทก์ไม่ซื้อ. ยอมให้จำเลยริบเงินมัดจำได้. ดังนี้ หากโจทก์ไม่ยอมทำหนังสือสัญญาจะซื้อขายตามที่ตกลงกันไว้. ย่อมถือว่ายังมิได้มีสัญญาต่อกัน. โจทก์จะหาว่าจำเลยผิดสัญญาและเรียกร้องให้จำเลยขายที่ดินพร้อมตึกแถวให้โจทก์หาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 161/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายไม่สมบูรณ์หากไม่ทำสัญญาหลัก การวางมัดจำยังไม่ผูกพัน
โจทก์ตกลงจะซื้อที่ดินพร้อมตึกแถวจากจำเลยด้วยเงินผ่อนได้วางเงินมัดจำไว้แล้วแต่มีข้อตกลงกันว่า จะทำหนังสือสัญญาจะซื้อขายกันอีกฉบับหนึ่ง เพื่อกำหนดการชำระเงินการแบ่งแยกโฉนดและการโอนกรรมสิทธิ์ หากโจทก์ไม่ทำสัญญาภายในกำหนด 1 เดือน ถือว่าโจทก์ไม่ซื้อ ยอมให้จำเลยริบเงินมัดจำได้ ดังนี้ หากโจทก์ไม่ยอมทำหนังสือสัญญาจะซื้อขายตามที่ตกลงกันไว้ ย่อมถือว่ายังมิได้มีสัญญาต่อกัน โจทก์จะหาว่าจำเลยผิดสัญญาและเรียกร้องให้จำเลยขายที่ดินพร้อมตึกแถวให้โจทก์หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 161/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายไม่สมบูรณ์หากไม่ทำสัญญาภายในกำหนด แม้มีการวางมัดจำแล้ว
โจทก์ตกลงจะซื้อที่ดินพร้อมตึกแถวจากจำเลยด้วยเงินผ่อน ได้วางเงินมัดจำไว้แล้วแต่มีข้อตกลงกันว่า จะทำหนังสือสัญญาจะซื้อขายกันอีกฉบับหนึ่ง เพื่อกำหนดการชำระเงินการแบ่งแยกโฉนดและการโอนกรรมสิทธิ์ หากโจทก์ไม่ทำสัญญาภายในกำหนด 1 เดือน ถือว่าโจทก์ไม่ซื้อ ยอมให้จำเลยริบเงินมัดจำได้ ดังนี้ หากโจทก์ไม่ยอมทำหนังสือสัญญาจะซื้อขายตามที่ตกลงกันไว้ ย่อมถือว่ายังมิได้มีสัญญาต่อกัน โจทก์จะหาว่าจำเลยผิดสัญญาและเรียกร้องให้จำเลยขายที่ดินพร้อมตึกแถวให้โจทก์หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1810/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายที่ดินโดยคนต่างด้าวผ่านคนไทยเป็นโมฆะ
คนต่างด้าวซื้อที่ดินโดยให้คนไทยเป็นผู้รับโอนแทน.วัตถุประสงค์ของสัญญาซื้อขายเป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมายเพราะขัดกับประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 86 และ มาตรา 113. จึงตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 113.คนต่างด้าวจะฟ้องขอให้พิพากษาว่าที่ดินนั้นเป็นของตน ขอให้บังคับผู้รับโอนมอบอำนาจให้คนต่างด้าวขายที่ดินตามใบมอบอำนาจที่ผู้รับโอนลงชื่อให้ไว้. หรือถือคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาหรือบังคับผู้รับโอนให้ชำระเงินค่าซื้อที่ดินพร้อมด้วยดอกเบี้ยหาได้ไม่. ผลต่อไปต้องเป็นไปตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 96.(วินิจฉัยตามแนวคำพิพากษาฎีกาที่ 344/2511 ซึ่งวินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1810/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายที่ดินโดยต่างด้าวผ่านคนไทยเป็นตัวแทน โมฆะตามกฎหมายที่ดิน
คนต่างด้าวซื้อที่ดินโดยให้คนไทยเป็นผู้รับโอนแทนวัตถุประสงค์ของสัญญาซื้อขายเป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมายเพราะขัดกับประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 86 และ มาตรา 113 จึงตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 113คนต่างด้าวจะฟ้องขอให้พิพากษาว่าที่ดินนั้นเป็นของตน ขอให้บังคับผู้รับโอนมอบอำนาจให้คนต่างด้าวขายที่ดินตามใบมอบอำนาจที่ผู้รับโอนลงชื่อให้ไว้ หรือถือคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาหรือบังคับผู้รับโอนให้ชำระเงินค่าซื้อที่ดินพร้อมด้วยดอกเบี้ยหาได้ไม่ ผลต่อไปต้องเป็นไปตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 96 (วินิจฉัยตามแนวคำพิพากษาฎีกาที่ 344/2511 ซึ่งวินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1810/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายที่ดินโดยคนต่างด้าวผ่านคนไทยเป็นนอมินี เป็นโมฆะตามกฎหมาย
คนต่างด้าวซื้อที่ดินโดยให้คนไทยเป็นผู้รับโอนแทน วัตถุประสงค์ของสัญญาซื้อขายเป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมายเพราะขัดกับประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 86 และ มาตรา 113 จึงตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 113 คนต่างด้าวจะฟ้องขอให้พิพากษาว่าที่ดินนั้นเป็นของตน ขอให้บังคับผู้รับโอนมอบอำนาจให้คนต่างด้าวขายที่ดินตามใบมอบอำนาจที่ผู้รับโอนลงชื่อให้ไว้ หรือถือคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาหรือบังคับผู้รับโอนให้ชำระเงินค่าซื้อที่ดินพร้อมด้วยดอกเบี้ยหาได้ไม่ ผลต่อไปต้องเป็นไปตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 96 (วินิจฉัยตามแนวคำพิพากษาฎีกาที่ 344/2511 ซึ่งวินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1084/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขาย-ติดตั้ง: การชำระหนี้ตามส่วน, ความผิดของผู้ซื้อ, ดอกเบี้ย, ค่าเสียหายจากการติดตั้งไม่เสร็จ
โจทก์ส่งมอบเครื่องสัญญาณเรียกผู้รับใช้ที่ตกลงซื้อขายให้จำเลยถูกต้อง แต่ส่งมอบสวิทซ์ไฟฟ้าผิดยี่ห้อไม่ตรงตามสัญญา เมื่อจำเลยได้รับชำระหนี้ตามสภาพดังกล่าวแล้วก็ต้องชำระราคาตอบแทนตามส่วน
การที่โจทก์ติดตั้งเครื่องสัญญาณไม่เสร็จเรียบร้อยตามสัญญาเพราะจำเลยเกี่ยงจะให้โจทก์ปฏิบัตินอกเหนือสัญญา ย่อมไม่ใช่ความผิดของโจทก์ แต่เป็นความผิดของจำเลย จำเลยต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายตามส่วนทดแทนค่าแรงและอุปกรณ์ในการติดตั้งที่โจทก์ได้กระทำไปแล้ว
ตามสัญญา จำเลยจะต้องชำระราคาค่าเครื่องสัญญาณทันทีเมื่อจำเลยผิดนัดไม่ชำระก็ต้องเสียดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันรับมอบของ ซึ่งจำเลยตกเป็นผู้ผิดนัด
ค่าติดตั้งเครื่องสัญญาณซึ่งโจทก์ทำไม่เสร็จเรียบร้อยตามสัญญา เพราะความผิดของจำเลย โจทก์ย่อมเรียกดอกเบี้ยได้ในจำนวนเงินค่าสินไหมทดแทนการงานที่โจทก์ได้ทำไปแล้วเมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยผิดนัดแน่นอนเมื่อใด ศาลก็พิพากษาให้ดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้อง
การที่โจทก์ติดตั้งเครื่องสัญญาณไม่เสร็จเรียบร้อยตามสัญญาเพราะจำเลยเกี่ยงจะให้โจทก์ปฏิบัตินอกเหนือสัญญา ย่อมไม่ใช่ความผิดของโจทก์ แต่เป็นความผิดของจำเลย จำเลยต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายตามส่วนทดแทนค่าแรงและอุปกรณ์ในการติดตั้งที่โจทก์ได้กระทำไปแล้ว
ตามสัญญา จำเลยจะต้องชำระราคาค่าเครื่องสัญญาณทันทีเมื่อจำเลยผิดนัดไม่ชำระก็ต้องเสียดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันรับมอบของ ซึ่งจำเลยตกเป็นผู้ผิดนัด
ค่าติดตั้งเครื่องสัญญาณซึ่งโจทก์ทำไม่เสร็จเรียบร้อยตามสัญญา เพราะความผิดของจำเลย โจทก์ย่อมเรียกดอกเบี้ยได้ในจำนวนเงินค่าสินไหมทดแทนการงานที่โจทก์ได้ทำไปแล้วเมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยผิดนัดแน่นอนเมื่อใด ศาลก็พิพากษาให้ดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1084/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายผิดนัดชำระหนี้และติดตั้ง, ความรับผิดจากสัญญา, ดอกเบี้ยจากค่าเสียหาย
โจทก์ส่งมอบเครื่องสัญญาณเรียกผู้รับใช้ที่ตกลงซื้อขายให้จำเลยถูกต้อง. แต่ส่งมอบสวิทซ์ไฟฟ้าผิดยี่ห้อไม่ตรงตามสัญญา. เมื่อจำเลยได้รับชำระหนี้ตามสภาพดังกล่าวแล้วก็ต้องชำระราคาตอบแทนตามส่วน.
การที่โจทก์ติดตั้งเครื่องสัญญาณไม่เสร็จเรียบร้อยตามสัญญา. เพราะจำเลยเกี่ยงจะให้โจทก์ปฏิบัตินอกเหนือสัญญา. ย่อมไม่ใช่ความผิดของโจทก์. แต่เป็นความผิดของจำเลย. จำเลยต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายตามส่วนทดแทนค่าแรงและอุปกรณ์ในการติดตั้งที่โจทก์ได้กระทำไปแล้ว.
ตามสัญญา จำเลยจะต้องชำระราคาค่าเครื่องสัญญาณทันที.เมื่อจำเลยผิดนัดไม่ชำระก็ต้องเสียดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันรับมอบของ. ซึ่งจำเลยตกเป็นผู้ผิดนัด.
ค่าติดตั้งเครื่องสัญญาณซึ่งโจทก์ทำไม่เสร็จเรียบร้อยตามสัญญา. เพราะความผิดของจำเลย โจทก์ย่อมเรียกดอกเบี้ยได้ในจำนวนเงินค่าสินไหมทดแทนการงานที่โจทก์ได้ทำไปแล้ว.เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยผิดนัดแน่นอนเมื่อใด. ศาลก็พิพากษาให้ดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้อง.
การที่โจทก์ติดตั้งเครื่องสัญญาณไม่เสร็จเรียบร้อยตามสัญญา. เพราะจำเลยเกี่ยงจะให้โจทก์ปฏิบัตินอกเหนือสัญญา. ย่อมไม่ใช่ความผิดของโจทก์. แต่เป็นความผิดของจำเลย. จำเลยต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายตามส่วนทดแทนค่าแรงและอุปกรณ์ในการติดตั้งที่โจทก์ได้กระทำไปแล้ว.
ตามสัญญา จำเลยจะต้องชำระราคาค่าเครื่องสัญญาณทันที.เมื่อจำเลยผิดนัดไม่ชำระก็ต้องเสียดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันรับมอบของ. ซึ่งจำเลยตกเป็นผู้ผิดนัด.
ค่าติดตั้งเครื่องสัญญาณซึ่งโจทก์ทำไม่เสร็จเรียบร้อยตามสัญญา. เพราะความผิดของจำเลย โจทก์ย่อมเรียกดอกเบี้ยได้ในจำนวนเงินค่าสินไหมทดแทนการงานที่โจทก์ได้ทำไปแล้ว.เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยผิดนัดแน่นอนเมื่อใด. ศาลก็พิพากษาให้ดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 305/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายนาที่พิพาทจากการชำระหนี้ การบังคับตามสัญญา
จำเลยกู้เงินมารดาโจทก์และน้องชายโจทก์ จำเลยตกลงยกนาให้มารดาโจทก์และน้องชายโจทก์ชำระหนี้แทนเงิน มารดาโจทก์และน้องชายโจทก์ยอมรับ แต่ให้จำเลยโอนนานั้นให้แก่โจทก์ จำเลยตกลง โจทก์จำเลยจึงได้ไปทำคำขอทำสัญญาซื้อขายนานั้นที่อำเภอ ดังนี้ถือได้ว่า โจทก์จำเลยได้ทำสัญญาจะซื้อขายนานั้นแล้ว โดยหักเงินที่จำเลยเป็นหนี้มารดาโจทก์และน้องชายโจทก์เป็นราคานานั้นเมื่อจำเลยไม่ยอมโอนขาย โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องขอให้บังคับจำเลยปฏิบัติตามสัญญาจะซื้อขายนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 305/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายนาและการบังคับตามสัญญา เมื่อจำเลยบิดพลิ้วไม่ยอมโอนขาย
จำเลยกู้เงินมารดาโจทก์และน้องชายโจทก์ จำเลยตกลงยกนาให้มารดาโจทก์และน้องชายโจทก์ชำระหนี้แทนเงินมารดาโจทก์และน้องชายโจทก์ยอมรับ แต่ให้จำเลยโอนนานั้นให้แก่โจทก์ จำเลยตกลงโจทก์จำเลยจึงได้ไปทำคำขอทำสัญญาซื้อขายนานั้นที่อำเภอดังนี้ ถือได้ว่า โจทก์จำเลยได้ทำสัญญาจะซื้อขายนานั้นแล้ว โดยหักเงินที่จำเลยเป็นหนี้มารดาโจทก์และน้องชายโจทก์เป็นราคานานั้นเมื่อจำเลยไม่ยอมโอนขาย โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องขอให้บังคับจำเลยปฏิบัติตามสัญญาจะซื้อขายนั้นได้