คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 914

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 214 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 355/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแปลงหนี้โดยเปลี่ยนตัวลูกหนี้จากการยอมรับเช็คจากบุคคลที่สาม ทำให้หนี้เดิมระงับ
จำเลยออกเช็คพิพาทชำระราคาสินค้าที่ตกลงซื้อจากโจทก์เมื่อเช็คถึงกำหนดธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คนั้นต่อมาฝ่ายจำเลยติดต่อขายสินค้านั้นต่อให้กับ พ. และโจทก์ยอมรับเช็คจาก พ. ไว้เป็นการชำระราคาสินค้าที่ส่งขายให้แก่จำเลยไว้เดิมเช่นนี้แสดงว่าโจทก์ยอมรับเอา พ. เข้าเป็นลูกหนี้แทนที่จำเลยลูกหนี้เดิมแล้ว ย่อมเป็นการแปลงหนี้โดยเปลี่ยนตัวลูกหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 350 จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดใช้เงินตามเช็คพิพาทแก่โจทก์อีก เพราะไม่มีมูลหนี้ที่จะเรียกร้องกันได้ต่อไปแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 355/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแปลงหนี้โดยเปลี่ยนตัวลูกหนี้จากจำเลยเป็นบุคคลที่สามจากการยอมรับเช็คใหม่ ย่อมตัดภาระหนี้เดิม
จำเลยออกเช็คพิพาทชำระราคาสินค้าที่ตกลงซื้อจากโจทก์ เมื่อเช็คถึงกำหนดธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คนั้น ต่อมาฝ่ายจำเลยติดต่อขายสินค้านั้นต่อให้กับ พ. และโจทก์ยอมรับเช็คจาก พ. ไว้เป็นการชำระราคาสินค้าที่ส่งขายให้แก่จำเลยไว้เดิม เช่นนี้แสดงว่าโจทก์ยอมรับเอา พ. เข้าเป็นลูกหนี้แทนที่จำเลยลูกหนี้เดิมแล้ว ย่อมเป็นการแปลงหนี้โดยเปลี่ยนตัวลูกหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 350 จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดใช้เงินตามเช็คพิพาทแก่โจทก์อีก เพราะไม่มีลูกหนี้ที่จะเรียกร้องกันได้ต่อไปแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 110/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คชำระค่าเช่าซื้อเรือ: สิทธิเรียกร้องเงินตามเช็คแม้สัญญาเลิกกันแล้ว
จำเลยที่ 2 เช่าซื้อเรือประมงจากโจทก์ ในวันทำสัญญาเช่าซื้อจำเลยที่ 2 มอบเช็คพิพาทซึ่งมีจำเลยที่ 1 เป็นผู้สั่งจ่ายและจำเลยที่ 2 เป็นผู้สลักหลังให้โจทก์เพื่อชำระค่าเช่าซื้อตามสัญญา เช็คดังกล่าวถือได้ว่าเป็นค่าเช่าซื้อเรือที่โจทก์ได้รับชำระไว้แล้วโดยจำเลยที่ 2 ชำระด้วยเช็คแทนเงิน มิใช่เป็นค่าเช่าซื้อที่โจทก์ยังไม่ได้รับและจำเลยที่ 2 ยังค้างชำระ ดังนั้น เมื่อเช็คพิพาทขึ้นเงินไม่ได้และแม้ว่าสัญญาเช่าซื้อเลิกกันแล้วโดยปริยาย โจทก์ก็มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยทั้งสองชำระเงินตามเช็คนั้นได้ จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นผู้สั่งจ่ายและจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้สลักหลังต้องรับผิดใช้เงินตามเช็คแก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 610/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเรียกเงินตามเช็ค ผู้สั่งจ่ายไม่ต้องรับผิดหากผู้ทรงไม่นำเช็คไปขึ้นเงิน
ตามบทบัญญัติประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 914 และ 959 ผู้สั่งจ่ายเช็คจะต้องรับผิดใช้เงินแก่ผู้ทรงก็ต่อเมื่อได้มีการนำเช็คนั้นไปยื่นแก่ธนาคารเพื่อให้ใช้เงินแล้วธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเสียก่อน เมื่อข้อเท็จจริงตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์ฟังได้ว่าโจทก์มิได้นำเช็คพิพาทไปยื่นต่อธนาคารเพื่อให้ใช้เงิน และธนาคารก็ยังมิได้ปฏิเสธการจ่ายเงิน โจทก์จึงจะนำคดีมาฟ้องจำเลยผู้สั่งจ่ายให้รับผิดชำระเงินตามเช็คนั้นทีเดียวมิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 610/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็ค: สิทธิผู้ทรงเช็คต้องรอให้ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินก่อน จึงจะฟ้องผู้สั่งจ่ายได้
ตามบทบัญญัติประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 914 และ 959 ผู้สั่งจ่ายเช็คจะต้องรับผิดใช้เงินแก่ผู้ทรงก็ต่อเมื่อได้มีการนำเช็คนั้นไปยื่นแก่ธนาคารเพื่อให้ใช้เงินแล้วธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเสียก่อน เมื่อข้อเท็จจริงตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์ฟังได้ว่าโจทก์มิได้นำเช็คพิพาทไปยื่นต่อธนาคารเพื่อให้ใช้เงิน และธนาคารก็ยังมิได้ปฏิเสธการจ่ายเงิน โจทก์จึงจะนำคดีมาฟ้องจำเลยผู้สั่งจ่ายให้รับผิดชำระเงินตามเช็คนั้นทีเดียวมิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 543/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คเป็นตั๋วเงินผูกพันผู้ลงนามตามกฎหมาย แม้จะอ้างเป็นการค้ำประกันก็ไม่เปลี่ยนแปลง
จำเลยที่ 2 ได้ลงชื่อและประทับตราห้างจำเลยที่ 1 ออกเช็คพิพาทของจำเลยที่ 1 สั่งจ่ายเงินให้โจทก์ แม้จะเป็นการค้ำประกันการกู้เงินดังที่จำเลยให้การต่อสู้ก็ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 900 วรรคแรก บัญญัติว่าบุคคลผู้ลงลายมือชื่อของตนในตั๋วเงินย่อมจะต้องรับผิดตามเนื้อความในตั๋วเงินนั้น ฉะนั้น เมื่อโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คพิพาทเรียกเก็บเงินจากธนาคารไม่ได้ จำเลยก็ย่อมมีหน้าที่ต้องใช้เงินตามเช็คนั้นให้แก่โจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 914 ประกอบด้วยมาตรา 989
เช็คเป็นตั๋วเงินซึ่งไม่มีข้อความว่าค้ำประกันแต่ประการใด ทั้งสภาพของเช็คเป็นการสั่งธนาคารให้ใช้เงิน ไม่ใช่การค้ำประกันจึงไม่เป็นหลักฐานแห่งสัญญาค้ำประกัน ผู้ออกเช็คจะนำสืบว่าออกเช็คเพื่อค้ำประกันลูกหนี้ไม่ได้เพราะมิได้มีหลักฐานเป็นหนังสือ
เช็คพิพาทมีข้อความสั่งให้ธนาคารจ่ายเงินเป็นที่แน่นอนอยู่แล้ว เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงเช็คขึ้นเงินไม่ได้ จำเลยซึ่งเป็นผู้สั่งจ่ายก็ต้องร่วมกันรับผิดต่อโจทก์ โดยไม่จำเป็นต้องทวงถามอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2862/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดตามเช็ค: ผู้สั่งจ่าย, ผู้สลักหลัง, และผู้ขายลดเช็คต้องรับผิดใช้เงินตามเช็คเมื่อเช็คไม่สามารถเรียกเก็บเงินได้
การที่จำเลยที่ 1 สั่งจ่ายเช็คโดยเจตนาจะให้ผูกพันและชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย โดยจำเลยที่ 1 มีมูลหนี้ต่อโจทก์ เมื่อโจทก์นำเช็คไปขึ้นเงินไม่ได้ จำเลยที่ 1 ผู้สั่งจ่ายกับจำเลยที่ 3 ผู้สลักหลังจึงต้องรับผิดใช้เงินตามเช็คนั้น ส่วนจำเลยที่ 2 ซึ่งทำสัญญาขายลดเช็คให้โจทก์ ก็ได้ให้คำรับรองต่อโจทก์ว่าเมื่อเช็คถึงกำหนดขึ้นเงินไม่ได้ด้วยประการใด ๆ จำเลยที่ 2 ยอมรับผิดใช้เงินตามเช็คพร้อมทั้งดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 14 ต่อปี จำเลยที่ 2 จึงต้องร่วมรับผิดด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2862/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดตามเช็ค: ผู้สั่งจ่าย, ผู้สลักหลัง, และผู้ขายลดเช็ค
การที่จำเลยที่ 1 สั่งจ่ายเช็คโดยเจตนาจะให้ผูกพันและชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย โดยจำเลยที่ 1 มีมูลหนี้ต่อโจทก์ เมื่อโจทก์นำเช็คไปขึ้นเงินไม่ได้ จำเลยที่1 ผู้สั่งจ่ายกับจำเลยที่ 3 ผู้สลักหลังจึงต้องรับผิดใช้เงินตามเช็คนั้น ส่วนจำเลยที่ 2 ซึ่งทำสัญญาขายลดเช็คให้โจทก์ ก็ได้ให้คำรับรองต่อโจทก์ว่า เมื่อเช็คถึงกำหนดขึ้นเงินไม่ได้ด้วยประการใดๆ จำเลยที่ 2 ยอมรับผิดใช้เงินตามเช็คพร้อมทั้งดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 14 ต่อปี จำเลยที่ 2 จึงต้องร่วมรับผิดด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2637/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาค้ำประกันการติดต่อขอใบอนุญาตลงทุน: จำเลยต้องคืนเงินเมื่อไม่สามารถดำเนินการตามสัญญาได้
จำเลยทำสัญญารับจะติดต่อทางการให้ออกใบอนุญาตส่งเสริมการลงทุนให้โจทก์จนเป็นผลสำเร็จ โดยโจทก์จะให้ค่าตอบแทนแก่จำเลย 300,000 บาท โจทก์ได้จ่ายเงินล่วงหน้าให้จำเลยไปแล้ว 100,000 บาท จำเลยได้ออกเช็คพิพาทจำนวนเงิน 100,000 บาทให้โจทก์ยึดถือไว้เป็นประกันโดยมีข้อตกลงว่าถ้าจำเลยทำการไม่สำเร็จจะคืนเช็คดังกล่าวให้จำเลย และจำเลยจะต้องคืนเงิน 100,000 บาท ให้โจทก์ ปรากฏว่าขณะโจทก์ยื่นขอรับทุนนั้น ตามเงื่อนไขของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนโจทก์จะต้องทำสัญญาและนำเงินสดหรือพันธบัตรรัฐบาลไปวางเป็นจำนวนเงิน 250,000 บาท ต่อเมื่อได้รับอนุมัติตามคำขอแล้ว แต่ต่อมาคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนได้เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขใหม่ และแจ้งตามเงื่อนไขใหม่นี้ให้โจทก์นำเงินหรือสัญญาค้ำประกันของธนาคารไปวางเป็นมูลค่า 9,000,000 บาท ภายในวันที่กำหนดก่อนได้รับอนุมัติคำขอ ดังนี้จำนวนเงินที่โจทก์ต้องวางสูงกว่าเดิมมาก และภายในเวลาจำกัด ทั้งไม่แน่นอนว่าจะได้รับอนุมัติหรือไม่ การที่โจทก์ไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขใหม่ของคณะกรรมการที่แจ้งมาดังกล่าว ไม่ใช่ความผิดโดยตรงของโจทก์ ถือว่าจำเลยไม่สามารถติดต่อให้โจทก์ได้มาซึ่งใบอนุญาตส่งเสริมการลงทุนตามสัญญาจำเลยต้องคืนเงิน 100,000 บาท ให้โจทก์ เช็คพิพาทจึงมีมูลหนี้ เมื่อโจทก์นำเช็คพิพาทไปขึ้นเงินไม่ได้ จำเลยจึงต้องชำระหนี้ตามเช็คพิพาทให้โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 967/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คไม่สมบูรณ์แต่ใช้ได้เมื่อวงแชร์ล้ม ผู้ทรงเช็คมีสิทธิเรียกเงินได้ทันที
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระเงินตามเช็คจำนวน 10,000 บาท ซึ่งจำเลยเป็นผู้สั่งจ่าย จำเลยให้การว่าเช็คตามฟ้องไม่สมบูรณ์เพราะจำเลยไม่ได้ลงวันที่สั่งจ่าย โจทก์หรือบุคคลอื่นไม่ได้ตกลงกับจำเลยให้ลงวันที่สั่งจ่ายตามที่ปรากฏ เช็คพิพาทและเช็คอื่น ๆ อีก 13 ฉบับ ๆ ละ 10,000 บาท จำเลยออกให้ ฮ. หัวหน้าวงแชร์เนื่องจากจำเลยประมูลแชร์ได้ เพื่อให้ ฮ. นำเช็คนั้นไปมอบให้ลูกวงแชร์คนอื่น ๆ ถือไว้เป็นประกัน และ ฮ. ต้องเก็บเงินจากลูกวงมามอบให้จำเลย แต่ ฮ. เก็บเงินมาให้จำเลยขาดไป 28,000 บาท อ้างว่าลูกวงแชร์ยังไม่จ่ายให้แล้วฮ. หลบหนีไป โจทก์เล่นแชร์ด้วยผู้หนึ่งยังไม่ได้ประมูล หากโจทก์ประมูลได้ต้องมอบเช็คให้ ฮ. มาเก็บเงินจากจำเลย โจทก์ไม่มีสิทธินำไปขึ้นเงิน หากโจทก์รับโอนเช็คก็รับโอนโดยไม่สุจริต ดังนี้ ตามคำให้การจำเลยแสดงว่า ฮ. ได้เก็บเงินค่าแชร์จากโจทก์มอบให้จำเลยไปแล้ว เงินจำนวนนี้เป็นเงินที่จำเลยยืมตามวิธีเล่นแชร์ซึ่งจำเลยจะต้องใช้คืนโจทก์เมื่อโจทก์ประมูลแชร์ได้ เป็นการจ่ายเช็คโดยมีเจตนาจะให้ผูกพันชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย แต่ตามคำให้การจำเลยแสดงว่าวงแชร์ล้มและนายวงหลบหนี ถือได้ว่าการเล่นแชร์เลิกกันไป โจทก์จึงชอบที่จะเรียกให้จำเลยชำระเงินยืมได้ทันที ดังนั้น ตั้งแต่วันแชร์ล้มโจทก์ชอบที่จะลงวันที่สั่งจ่ายในเช็คและนำไปขึ้นเงินจากธนาคารได้ ถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมาย และวันสั่งจ่ายที่ลงในเช็คเป็นวันที่ถูกต้องแท้จริง จำเลยผู้สั่งจ่ายต้องรับผิดต่อโจทก์ตามข้อความในเช็ค ไม่จำเป็นต้องฟังข้อเท็จจริงอื่นใดอีกต่อไปอีก
of 22