พบผลลัพธ์ทั้งหมด 297 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 425/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกู้ยืมเงิน เช็คคืนเงินไม่ได้ สิทธิเรียกร้องหนี้ และดอกเบี้ยเกินอัตราตามกฎหมาย
จำเลยกู้เงินโจทก์ 60,000 บาท ออกเช็คให้โจทก์ไว้โจทก์โอนเช็คต่อไปจนถึง ว. ว. เบิกเงินไม่ได้ จำเลยทำหนังสือกู้ให้โจทก์ไว้ 84,000 บาท รวมกับหนี้ที่จำเลยรับโอนจาก ท. ลูกหนี้โจทก์ ต่อมา ว. ฟ้องเรียกเงินตามเช็คจากจำเลยดังนี้โจทก์ไม่ใช่ผู้ทรงเช็คจึงไม่มีสิทธิได้รับชำระหนี้ตามเช็คสัญญากู้ที่จำเลยทำให้โจทก์จึงไม่มีมูลหนี้จำนวนนี้ ส่วนอีก 20,000 บาท ซึ่งจำเลยรับโอนจาก ท. ลูกหนี้โจทก์นั้น จำเลยต้องชำระแก่โจทก์แต่ดอกเบี้ยอีก 4,000 บาท นั้นเป็นอัตราร้อยละ 2 ต่อเดือนดอกเบี้ยเป็นโมฆะโจทก์คงเรียกจากจำเลยได้เพียง 20,000 บาท กับดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ตั้งแต่วันฟ้อง
หนี้ตามสัญญากู้ 84,000 บาท เป็นหนี้ร่วม จำเลยที่ 1 ผู้เดียวฎีกาศาลฎีกาพิพากษาลดเป็นให้จำเลยใช้ 20,000 บาท ให้มีผลถึงจำเลยที่ 2 ซึ่งไม่ฎีกาด้วย
หนี้ตามสัญญากู้ 84,000 บาท เป็นหนี้ร่วม จำเลยที่ 1 ผู้เดียวฎีกาศาลฎีกาพิพากษาลดเป็นให้จำเลยใช้ 20,000 บาท ให้มีผลถึงจำเลยที่ 2 ซึ่งไม่ฎีกาด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 342/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทเรื่องเช็ค: การพิสูจน์การชำระหนี้ค่าแชร์ และอำนาจฟ้องของผู้ทรงเช็ค
แม้เช็คพิพาทเป็นเช็คของจำเลยสั่งจ่ายเงินสดให้แก่ผู้ถือ เมื่อโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คและเรียกเก็บเงินจากธนาคารไม่ได้ โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องจำเลยให้ใช้เงินตามเช็คพิพาทนั้นได้ก็ตาม แต่จำเลยให้การว่าจำเลยออกเช็คให้นายวงแชร์เพื่อยึดถือไว้เป็นประกันซึ่งไม่ตรงกับที่โจทก์บรรยายในฟ้อง เพราะโจทก์ฟ้องว่าจำเลยออกเช็คพิพาทสั่งจ่ายเงินให้โจทก์เป็นค่าเล่นแชร์เปียหวย ซึ่งโจทก์ได้จ่ายเงินให้จำเลยไปแล้ว นอกจากนั้นจำเลยยังให้การยืนยันด้วยว่า จำเลยมิได้รับชำระเงินค่าแชร์ที่เปียได้จากโจทก์ ซึ่งถ้าข้อเท็จจริงฟังได้ดังที่จำเลยต่อสู้ จำเลยก็ไม่มีมูลหนี้ที่จะต้องชำระเงินให้โจทก์ตามเช็คพิพาท รูปคดีจำต้องฟังข้อเท็จจริงให้สิ้นกระแสความเสียก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 342/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาท: ประเด็นการชำระค่าแชร์และความขัดแย้งในคำให้การ
แม้เช็คพิพาทเป็นเช็คของจำเลยสั่งจ่ายเงินสดให้แก่ผู้ถือเมื่อโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คและเรียกเก็บเงินจากธนาคารไม่ได้โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องจำเลยให้ใช้เงินตามเช็คพิพาทนั้นได้ก็ตามแต่จำเลยให้การว่าจำเลยออกเช็คให้นายวงแชร์เพื่อยึดถือไว้เป็นประกันซึ่งไม่ตรงกับที่โจทก์บรรยายในฟ้องเพราะโจทก์ฟ้องว่าจำเลยออกเช็คพิพาทสั่งจ่ายเงินให้โจทก์เป็นค่าเล่นแชร์เปียหวยซึ่งโจทก์ได้จ่ายเงินให้จำเลยไปแล้ว นอกจากนั้นจำเลยยังให้การยืนยันด้วยว่าจำเลยมิได้รับชำระเงินค่าแชร์ที่เปียได้จากโจทก์ซึ่งถ้าข้อเท็จจริงฟังได้ดังที่จำเลยต่อสู้จำเลยก็ไม่มีมูลหนี้ที่จะต้องชำระเงินให้โจทก์ตามเช็คพิพาท รูปคดีจำต้องฟังข้อเท็จจริงให้สิ้นกระแสความเสียก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 270/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คสั่งจ่ายผู้ถือ โอนได้ด้วยการส่งมอบ ผู้รับโอนสุจริต แม้จำเลยอ้างประกันเช็คก็ยกข้อต่อสู้ไม่ได้
จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัดจำเลยที่ 1 ได้ออกเช็คโดยประทับตราห้างจำเลยที่ 1 ให้แก่ น. น. โอนเช็คนี้ให้โจทก์ เช็คดังกล่าวเป็นเช็คสั่งให้ใช้เงินแก่ผู้ถือโอนกันได้เพียงด้วยการส่งมอบตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 918 ประกอบด้วยมาตรา 989 โจทก์จึงเป็นผู้ทรงโดยชอบตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 904 จำเลยที่ 2 เป็นผู้ลงลายมือชื่อเพียงแต่ประทับตราห้างจำเลยที่ 1ไว้ในเช็ค จึงต้องรับผิดตามเนื้อความในเช็คนั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 900, 901
แม้จำเลยสั่งจ่ายเช็คพิพาทให้ น.เพื่อเป็นประกันเช็คของบุคคลอื่น โดย น.รับรองกับจำเลยว่าจะไม่เอาเช็คไปใช้ จำเลยก็ไม่อาจยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้โจทก์ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 916
เช็คไม่ได้ลงวันที่ออกไว้ โจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมายกระทำโดยสุจริจจะจดวันตามที่ถูกต้องแท้จริงก็ได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 910 ประกอบมาตรา 989
แม้จำเลยสั่งจ่ายเช็คพิพาทให้ น.เพื่อเป็นประกันเช็คของบุคคลอื่น โดย น.รับรองกับจำเลยว่าจะไม่เอาเช็คไปใช้ จำเลยก็ไม่อาจยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้โจทก์ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 916
เช็คไม่ได้ลงวันที่ออกไว้ โจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมายกระทำโดยสุจริจจะจดวันตามที่ถูกต้องแท้จริงก็ได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 910 ประกอบมาตรา 989
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 270/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คสั่งจ่ายผู้ถือ: การโอนเช็คโดยสุจริต และการลงวันที่เช็คโดยผู้ทรงโดยชอบ
จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัดจำเลยที่ 1 ได้ออกเช็คโดยประทับตราห้างจำเลยที่ 1 ให้ แก่ น. น. โอนเช็คนี้ให้โจทก์เช็คดังกล่าวเป็นเช็คสั่งให้ใช้เงินแก่ผู้ถือโอนกันได้เพียงด้วยการส่งมอบตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 918 ประกอบด้วยมาตรา989 โจทก์จึงเป็นผู้ทรงโดยชอบตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 904 จำเลยที่ 2 เป็นผู้ลงลายมือชื่อเพียงแต่ประทับตราห้างจำเลยที่ 1 ไว้ในเช็ค จึงต้องรับผิดตามเนื้อความในเช็คนั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 900,901
แม้จำเลยสั่งจ่ายเช็คพิพาทให้ น. เพื่อเป็นประกันเช็คของบุคคลอื่น โดย น. รับรองกับจำเลยว่าจะไม่เอาเช็คไปใช้จำเลยก็ไม่อาจยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้โจทก์ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 916
เช็คไม่ได้ลงวันที่ออกไว้ โจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมายกระทำโดยสุจริตจะจดวันตามที่ถูกต้องแท้จริงลงก็ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 910 ประกอบมาตรา 989
แม้จำเลยสั่งจ่ายเช็คพิพาทให้ น. เพื่อเป็นประกันเช็คของบุคคลอื่น โดย น. รับรองกับจำเลยว่าจะไม่เอาเช็คไปใช้จำเลยก็ไม่อาจยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้โจทก์ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 916
เช็คไม่ได้ลงวันที่ออกไว้ โจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมายกระทำโดยสุจริตจะจดวันตามที่ถูกต้องแท้จริงลงก็ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 910 ประกอบมาตรา 989
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2347/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาลอนุญาตระบุพยานเพิ่มเติม และการเป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมาย
การที่ศาลชั้นต้นจดรายงานไว้ว่า ก่อนสืบพยาน โจทก์ยื่นขอระบุพยานเพิ่มเติม ศาลสั่งอนุญาตและจ่ายสำเนาให้จำเลย โจทก์จะนำพยานคนที่ระบุเพิ่มเติมเข้าสืบ แต่จำเลยแถลงคัดค้านขออย่าให้ศาลอนุญาตให้โจทก์นำพยานปากนี้เข้าสืบ ศาลชั้นต้นพิเคราะห์แล้วอนุญาตให้โจทก์นำพยานดังกล่าวเข้าสืบได้ ดังนี้ ถือว่าจำเลยได้โต้แย้งคำสั่งของศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้โจทก์ระบุพยานเพิ่มเติมไว้แล้ว จึงมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นได้
เช็คพิพาทเป็นเช็คสั่งจ่ายเงินสดหรือผู้ถือ เมื่อโจทก์มีเช็คพิพาทไว้ในความครอบครอง โดย น. ได้นำมาขอแลกเงินจากโจทก์ โจทก์จึงเป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 904
ก่อนพยานเบิกความ ย่อมต้องสาบานตนว่าจะให้การตามสัตย์จริงและตอบคำถามของศาลในเรื่องนามของตนแล้ว ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 112,116 เมื่อศาลชั้นต้นเขียนชื่อพยานว่า จ. จึงน่าเชื่อว่าพยานผู้นั้นคือ จ. จริง แต่เหตุใดพยานจึงเซ็นชื่อว่า พ. นั้น เมื่อไม่มีข้อเท็จจริงบ่งชัดว่าเป็นคนละคนกับ จ. ก็จะฟังว่ามิใช่ จ. ยังไม่ถนัด เพราะพยานอาจมีชื่ออีกชื่อหนึ่งก็ได้ เพียงเหตุนี้อย่างเดียวยังไม่พอจะทำให้ ไม่รับฟังคำเบิกความของ จ.
เช็คพิพาทเป็นเช็คสั่งจ่ายเงินสดหรือผู้ถือ เมื่อโจทก์มีเช็คพิพาทไว้ในความครอบครอง โดย น. ได้นำมาขอแลกเงินจากโจทก์ โจทก์จึงเป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 904
ก่อนพยานเบิกความ ย่อมต้องสาบานตนว่าจะให้การตามสัตย์จริงและตอบคำถามของศาลในเรื่องนามของตนแล้ว ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 112,116 เมื่อศาลชั้นต้นเขียนชื่อพยานว่า จ. จึงน่าเชื่อว่าพยานผู้นั้นคือ จ. จริง แต่เหตุใดพยานจึงเซ็นชื่อว่า พ. นั้น เมื่อไม่มีข้อเท็จจริงบ่งชัดว่าเป็นคนละคนกับ จ. ก็จะฟังว่ามิใช่ จ. ยังไม่ถนัด เพราะพยานอาจมีชื่ออีกชื่อหนึ่งก็ได้ เพียงเหตุนี้อย่างเดียวยังไม่พอจะทำให้ ไม่รับฟังคำเบิกความของ จ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2347/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติม และอำนาจฟ้องของผู้ทรงเช็ค
การที่ศาลชั้นต้นจดรายงานไว้ว่า ก่อนสืบพยาน โจทก์ยื่นขอระบุพยานเพิ่มเติม ศาลสั่งอนุญาตและจ่ายสำเนาให้จำเลย โจทก์จะนำพยานคนที่ระบุเพิ่มเติมเข้าสืบ แต่จำเลยแถลงคัดค้านขออย่าให้ศาลอนุญาตให้โจทก์นำพยานปากนี้เข้าสืบ ศาลชั้นต้นพิเคราะห์แล้วอนุญาตให้โจทก์จำพยานดังกล่าวเข้าสืบได้ ดังนี้ ถือว่าจำเลยได้โต้แย้งคำสั่งของศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้โจทก์ระบุพยานเพิ่มเติมไว้แล้ว จึงมีสิทธิ์อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นได้
เช็คพิพาทเป็นเช็คสั่งจ่ายเงินสดหรือผู้ถือ เมื่อโจทก์มีเช็คพิพาทไว้ในความครอบครอง โดย น. ได้นำมาขอแลกเงินจากโจทก์ โจทก์จึงเป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 904
ก่อนพยานเบิกความ ย่อมต้องสาบานตนว่าจะให้การตามสัตย์จริงและตอบคำถามของศาลในเรื่องนามของตนแล้ว ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 112, 116 เมื่อศาลชั้นต้นเขียนชื่อพยานว่า จ. จึงน่าเชื่อว่าพยานผู้นั้นคือ จ. จริง แต่เหตุใดพยานจึงเซ็นชื่อว่า พ. นั้น เมื่อไม่มีข้อเท็จจริงบ่งชัดว่าเป็นคนละคนกัน จ. ก็จะฟังว่ามิใช่ จ. ยังไม่ถนัด เพราะพยานอาจมีชื่ออีกชื่อหนึ่งก็ได้ เพียงเหตุนี้อย่างเดียวยังไม่พอจะทำให้ไม่รับฟังคำเบิกความของ จ.
เช็คพิพาทเป็นเช็คสั่งจ่ายเงินสดหรือผู้ถือ เมื่อโจทก์มีเช็คพิพาทไว้ในความครอบครอง โดย น. ได้นำมาขอแลกเงินจากโจทก์ โจทก์จึงเป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 904
ก่อนพยานเบิกความ ย่อมต้องสาบานตนว่าจะให้การตามสัตย์จริงและตอบคำถามของศาลในเรื่องนามของตนแล้ว ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 112, 116 เมื่อศาลชั้นต้นเขียนชื่อพยานว่า จ. จึงน่าเชื่อว่าพยานผู้นั้นคือ จ. จริง แต่เหตุใดพยานจึงเซ็นชื่อว่า พ. นั้น เมื่อไม่มีข้อเท็จจริงบ่งชัดว่าเป็นคนละคนกัน จ. ก็จะฟังว่ามิใช่ จ. ยังไม่ถนัด เพราะพยานอาจมีชื่ออีกชื่อหนึ่งก็ได้ เพียงเหตุนี้อย่างเดียวยังไม่พอจะทำให้ไม่รับฟังคำเบิกความของ จ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2339/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำให้การขัดแย้งกันเองของจำเลยทำให้ศาลไม่รับฟัง และโจทก์มีสิทธิเรียกเงินตามเช็คในฐานะผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมาย
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระเงินตามเช็ค จำเลยให้การรับว่าเป็นผู้สั่งจ่ายเช็คฉบับพิพาท แต่จำเลยไม่ต้องรับผิดใช้เงินเพราะโจทก์ไม่ใช่ผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมายด้วยเหตุผลคือ (ก) โจทก์กับผู้มีชื่อ (ผู้ที่โจทก์อ้างว่าโอนเช็คพิพาทให้โจทก์) ร่วมกันเป็นผู้ขายสินค้าให้จำเลย แต่สินค้าเสื่อมคุณภาพจำเลยไม่ต้องชำระราคา และโดยที่จำเลยออกเช็คพิพาทเพื่อชำระค่าสินค้ารายนี้ จำเลยจึงชอบที่จะสั่งให้ธนาคารระงับการจ่ายได้ (ข) หากคดีฟังไม่ได้ตามข้อ (ก) จำเลยก็ขอต่อสู้ว่า โจทก์กับผู้มีชื่อดังกล่าวได้คบคิดกันโอนเช็คพิพาทให้โจทก์ เพื่อให้มาฟ้องบังคับเอากับจำเลยอันเป็นการฉ้อฉลจำเลย ดังนี้ ตามคำให้การของจำเลยในข้อ (ก) นั้น แม้โจทก์จะมิใช่ผู้รับเช็คไว้จากจำเลย แต่การที่ผู้มีชื่อรับเช็คไว้ก็ถือว่ารับในฐานะร่วมหรือแทนโจทก์นั่นเอง เมื่อโจทก์อยู่ในฐานะผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมายร่วมกับผู้มีชื่อเช่นนี้แล้ว ย่อมไม่มีทางที่โจทก์จะเป็นผู้รับโอนเช็คพิพาทในลักษณะฉ้อฉลจำเลยตามข้อ (ข) ได้ คำให้การของจำเลยดังกล่าวจึงเป็นคำให้การที่ขัดกันเองและไม่ชอบด้วยเหตุผล ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรค 2 จึงไม่ชอบที่จะนำสืบตามคำให้การของจำเลยได้ เพราะถ้าจะสืบพยานตามคำให้การของจำเลยทั้งสองอย่าง จำเลยก็จะต้องสืบขัดแย้งกันเอง ทำให้รับฟังเป็นความจริงไม่ได้อยู่ในตัว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2339/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำให้การขัดแย้งกันเองและหลักการผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมายในคดีเช็ค
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระเงินตามเช็ค จำเลยให้การรับว่าเป็นผู้สั่งจ่ายเช็คฉบับพิพาท แต่จำเลยไม่ต้องรับผิดใช้เงิน เพราะโจทก์ไม่ใช่ผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมาย ด้วยเหตุผลคือ (ก) โจทก์กับผู้มีชื่อ (ผู้ที่โจทก์อ้างว่าโอนเช็คพิพาทให้โจทก์) ร่วมกันเป็นผู้ขายสินค้าให้จำเลย แต่สินค้าเสื่อมคุณภาพจำเลยไม่ต้องชำระราคา และโดยที่จำเลยออกเช็คพิพาทเพื่อชำระค่าสินค้ารายนี้ จำเลยจึงชอบที่จะสั่งให้ธนาคารระงับการจ่ายได้ (ข)หากคดีฟังไม่ได้ตามข้อ(ก) จำเลยก็ขอต่อสู้ว่า โจทก์กับผู้มีชื่อดังกล่าวได้คบคิดกันโอนเช็คพิพาทให้โจทก์ เพื่อให้มาฟ้องบังคับเอากับจำเลยอันเป็นการฉ้อฉลจำเลย ดังนี้ ตามคำให้การของจำเลยในข้อ (ก) นั้น แม้โจทก์จะมิใช่ผู้รับเช็คไว้จากจำเลย แต่การที่ผู้มีชื่อรับเช็คไว้ก็ถือว่ารับในฐานะร่วมหรือแทนโจทก์นั่นเอง เมื่อโจทก์อยู่ในฐานะผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมายร่วมกับผู้มีชื่อเช่นนี้แล้ว ย่อมไม่มีทางที่โจทก์จะเป็นผู้รับโอนเช็คพิพาทในลักษณะฉ้อฉลจำเลยตามข้อ (ข) ได้ คำให้การของจำเลยดังกล่าวจึงเป็นคำให้การที่ขัดกันเองและไม่ชอบด้วยเหตุผลไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรค 2 จึงไม่ชอบที่จะนำสืบตามคำให้การของจำเลยได้เพราะถ้าจะสืบพยานตามคำให้การของจำเลยทั้งสองอย่าง จำเลยก็จะต้องสืบขัดแย้งกันเอง ทำให้รับฟังเป็นความจริงไม่ได้อยู่ในตัว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1756/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คผู้ถือ: ผู้โอนเช็คไม่มีสิทธิเรียกร้องเมื่อเช็คไม่มีเงิน
เช็คผู้ถือนั้นผู้ถือเป็นผู้ทรง ผู้ที่รับเช็คผู้ถือจากผู้สั่งจ่ายแล้วโอนต่อไปโดยไม่ได้สลักหลังเช็คนั้น ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเมื่อผู้ทรงคนสุดท้ายนำไปเข้าบัญชีเพราะไม่มีเงินจ่ายตามเช็ค ผู้โอนไม่ใช่ผู้เสียหายร้องทุกข์ในความผิดฐานออกเช็คไม่มีเงินไม่ได้